สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2560 ปิดที่ 1,703.37 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +8.98 จุด คิดเป็น +0.53% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,703.51 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,690.44 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 47,566.08 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,098.08 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.29 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.16% โดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบ 3% นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงที่ฉิวเฉียดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดทรงตัว ขณะที่นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนของการเจรจาระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรปเรื่องข้อตกลงการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป รวมทั้งร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ 0.67% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มบลูชิพ หลังจากหุ้นดังกล่าวทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนยังให้ความสนใจต่อรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งเตือนว่า วิกฤตหนี้สินของจีนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อระบบการเงิน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดทะยานขึ้น 1.45% เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากนิกเกอิร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,782.46 ล้านบาท ลดลง -2.75 บาท คิดเป็น -5.12%
2. THG มูลค่าการซื้อขาย 2,350.30 ล้านบาท ลดลง -1.25 บาท คิดเป็น -3.29%
3. IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,208.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +3.98%
4. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,812.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +2.44%
5. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,611.08 ล้านบาท ลดลง -2.00 บาท คิดเป็น -0.47%
ดัชนีมีการรีบาวด์กลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ หลังจากวันก่อนหน้ามีการปรับตัวลดลงไปในระหว่างวันและทำ New low ในรอบสัปดาห์ โดยในช่วงท้ายตลาดมีการทำสัญญาณโดจิ ทำให้วันนี้ดัชนีดีดกลับได้พอสมควร และปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันและระดับ 1,700 จุดได้อีกครั้ง โดยในระยะสั้นๆ จะมีแนวต้านแถวๆ 1,706 จุด ไม่ผ่านหรือปิดเหนือระดับดังกล่าวให้ได้ซะก่อน โอกาสที่ดัชนีจะไหลกลับลงมาต่ำกว่าระดับ 1,700 จุดอีกครั้งยังเป็นไปได้สูง ในขณะที่แนวรับอยู่แถวๆ 1,693-1,690 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,715-1,716 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
