สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 25 ตุลาคม 2559 ปิดที่ 1,506.47 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +6.10 จุด คิดเป็น +0.41% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,508.89 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,496.66 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 47,446.91 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 949.16 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.15 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลง 0.49% หลังหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงบริษัทพลังงานและเหมืองแร่ ร่วงลงตามราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ภาวะซื้อขายยังถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มบริการสุขภาพที่ปรับตัวลดลงด้วย ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลประกอบการโดยรวมดีขึ้นของบริษัทต่างๆ รวมทั้งสัญญาบ่งชึ้ถึงเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจชั้นนำที่ปรับตัวดีขึ้น
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.12% ภายหลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราอ้างอิงรายวันเงินหยวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับเงินหยวนที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 0.76% เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ รวมทั้งการเปิดซื้อขายหุ้นของบริษัทเคียวชู เรลเวย์ โค ในตลาดหุ้นโตเกียวเป็นวันแรก ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,894.85 ล้านบาท ลดลง -0.40 บาท คิดเป็น -2.08%
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,408.95 ล้านบาท ลดลง -1.50 บาท คิดเป็น -0.85%
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,402.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +0.57%
4. BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,294.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.10 บาท คิดเป็น +1.31%
5. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,166.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท คิดเป็น +2.03%
ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นต่อทำ New high ต่อเนื่อง และผ่านขึ้นมาปิด GAP ที่ 1,501 จุดได้แล้ว หลังจากที่ในช่วงเช้ามีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเล็กน้อย ส่งผลให้มีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มเข้ามา แต่ลักษณะของแท่งกราฟเกิดลักษณะคล้ายๆ โดจิและแฮมเมอร์ ดังนั้นหากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 1,500 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,512-1,518 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
