กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.65 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 31.38 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทเข้าทดสอบระดับแข็งค่าสุดในรอบ 50 เดือน ก่อนจะพลิกกลับมาอ่อนค่า

ขณะที่กระแสเงินทุนไหลออกชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยมูลค่า 7.0 พันล้านบาท และ 1.6 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ดอลลาร์ฟื้นตัวเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ โดยได้แรงหนุนจากท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งแม้จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25-1.50% ด้วยเสียงเอกฉันท์ในการประชุมรอบล่าสุด แต่เฟดระบุว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น นอกจากนี้ มีแรงซื้อดอลลาร์เพิ่มขึ้นหลังข้อมูลการจ้างงานเดือนม.ค.ของสหรัฐ แข็งแกร่งกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ประเมินว่าแรงซื้อคืนดอลลาร์จะมีต่อเนื่อง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ เพิ่มขึ้นหลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. โดยเฟดมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ยิ่งไปกว่านั้นทิศทางขาขึ้นของเงินเฟ้อชัดเจนมากขึ้นจากการเติบโตของค่าจ้างในสหรัฐ ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดเคยประเมินไว้ ภาวะดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าต้นทุนทางการเงินอาจสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและสภาพคล่องในตลาดจะตึงตัวในไม่ช้า ส่วนปัจจัยชี้นำอื่นๆ ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 ก.พ. โดยตลาดคาดว่าบีโออีจะขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาสที่สองของปีนี้ขณะที่การเจรจา Brexit ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปกำลังคืบหน้า

การปรับฐานของสกุลเงินตลาดเกิดใหม่รวมถึงเงินบาทตามแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงอาจสะท้อนการเริ่มต้นของจุดเปลี่ยนของบรรยากาศการลงทุนในตลาดการเงินโลก แม้การปรับฐานนี้อาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวแต่บ่งชี้ถึงความเปราะบางต่อการปรับสถานะการลงทุนเนื่องจากผู้เล่นในตลาดเคยชินกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลกแต่เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและธนาคารกลางหลักปรับสมดุลนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปส่งผลให้สภาพคล่องส่วนเกินยังมีอยู่มากในระยะที่ผ่านมา เมื่อภาพดังกล่าวเริ่มจะกลับทิศ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทจะเพิ่มสูงขึ้นหลังจากเงินบาทแข็งค่าตลอดเดือนม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน