สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 ปิดที่ 1,788.43 จุด ปรับตัวลดลง -21.89 จุด คิดเป็น -1.21% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,792.17 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,758.31 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 124,498.18 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,161.67 จุด ปรับตัวลดลง -13.79 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 4.60% เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายหุ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางความตื่นตระหนกต่อกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ หลังจากตัวเลขจ้างงานและค่าแรงในสหรัฐขยายตัวมากกว่าคาด

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดร่วงลง เนื่องจากแรงเทขายที่มาเข้ามาอย่างต่อเนื่องตามตลาดทั่วโลกที่ดิ่งลง

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 3.35% สอดคล้องตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีแรงเทขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 4.73% เนื่องจากการเทขายหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 11,559.81 ล้านบาท ลดลง -16.00 บาท คิดเป็น -3.20%
2. IVL มูลค่าการซื้อขาย 6,213.70 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.47%
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 6,081.28 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.72%
4. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 5,204.07 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,789.34 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง

ดัชนีมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องในลักษณะกระโดดเปิด GAP ติดต่อกันสองวัน โดยดัชนีได้อ่อนตัวลงไปหลุดเส้น BollingerBottom ลึกมากจึงมีการดีดกลับในระหว่างวัน โดยดัชนีมีการรีบาวด์กลับขึ้นมาในช่วงบ่ายและปิดในระดับสูงของวันด้วย หากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาต่ำกว่า 1,777 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นรีบาวด์ต่อได้ โดยมีเป้าหมายคือดีดกลับขึ้นปิดในกรอบ BollingerBottom แถวๆ 1,794-1,799 จุด ก่อนผ่านขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 25 วันแถวๆ 1,810-1,815 จุดได้ต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน