นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2561 ธนาคารมองว่าจะเติบโต 3.4% ซึ่งสูงสุดในรอบ 8 ปี มาจากปัจจัยด้านบวกหลายภูมิภาคทั่วโลก เช่น นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการลดภาษีในสหรัฐอเมริกา, เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวตามรอบระยะเวลาในยุโรป การปรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจีน และกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้ามาในกลุ่มตลาดเกิดใหม่

ด้านเศรษฐกิจไทยในปี 2561 คาดว่าจะเติบโตได้ 3.8% จากปัจจัยการขยายตัวของภาคการส่งออก และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในประเทศ ซึ่งทำให้ภาพรวมของความต้องการและการจับจ่ายใช้สอยในประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะเป็นผลบวกต่อกำไรในธุรกิจกลุ่มสินค้าบริโภคอุปโภค สุขภาพ และธนาคาร

โดยการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2561 ธนาคารมองว่ายังมีแนวโน้มที่ดี จากการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และปัจจัยพื่นฐานต่างๆ ในประเทศในภาพรวมถือว่าเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยได้อย่างดี

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างมาก มองว่าเป็นการปรับฐานในระยะสั้นหลังจากที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีการปรับฐานพร้อมๆ กันในช่วงนี้ ซึ่งมองว่าการปรับฐานในรอบนี้จะไม่ปรับลดลงไปมากกว่านี้แล้ว แต่อาจจะมีความผันผวนในระหว่างทางเกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนจะต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะไปต่อได้จากปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง

“ธนาคารแนะนำกลยุทธ์ให้เพิ่มน้ำหนักไปที่การลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้นยุโรป และตลาดหุ้นเอเชียที่เป็นตลาดหุ้นในประเทศเกิดใหม่ ส่วนการลงทุนในค่าเงินนั้น แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในค่าเงินยูโรที่เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น และลดการลงทุนในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน