สรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ประจำวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. 2559 Set Index ปิดที่ 1,485.70 จุด ลดลง -7.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50,836.97 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,162,778.75 บาท ปิดที่ 19.20 บาท ลดลง -0.50 บาท (-2.54%)
2. ESSO มูลค่าการซื้อขาย 2,394,158.06 บาท ปิดที่ 12.50 บาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท (+8.70%)
3. BPP มูลค่าการซื้อขาย 1,973,875.80 บาท ปิดที่ 27.75 บาท ลดลง -0.25 บาท (-0.89%)
4. JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,829,884.60 บาท ปิดที่ 8.95 บาท เพิ่มขึ้น +0.45 บาท (+5.29%)
5. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,684,152.35 บาท ปิดที่ 166.50 บาท ลดลง -0.50 บาท (-0.30%)

ส่วนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (31 ต.ค.-4 พ.ย. 2559) ปรับตัวลดลง 8.74 จุด หรือ 0.58% มาปิดที่ 1,485.70 จุด ภาพรวมดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยเป็นผลจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. นี้ ซึ่งจากโพลต่างๆ บ่งชี้ว่าความนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนพรรครีพับลิกัน ตีตื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวนักลงทุนบางส่วนที่ยังรอความชัดเจนเรื่องแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากการประชุม FED ที่เกิดขึ้นไปแล้วในช่วงกลางสัปดาห์ แต่จากถ้อยแถลงของ FED ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความน่าจะเป็นในการขึ้นดอกเบี้ย ที่ตลาดคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ปัจจัยชี้นำสินทรัพย์เสี่ยงอย่างราคาน้ำมัน เริ่มปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดซื้อขายกันที่บริเวณ 45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงราว 10% เมื่อเทียบกับช่วงต้นสัปดาห์

ทั้งนี้ ตลาดเริ่มกังวลมากขึ้นกับนโยบายของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่พยายามร่วมมือกันจำกัดการผลิต แต่ยังไม่มีข้อตกลงในแผนปฏิบัติ ขณะที่ข้อเท็จจริงกลับพบว่าปริมาณการผลิตของทั้งกลุ่ม OPEC และ นอกกลุ่ม OPEC ยังทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้านปริมาณการซื้อขายสัปดาห์นี้หนาแน่นปานกลางที่ 50,031 ล้านบาทต่อวัน ต่างชาติขายสุทธิตลอดทั้งสัปดาห์รวม 8,274 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน