สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 17 เมษายน 2561 ปิดที่ 1,755.53 จุด ปรับตัวลดลง -11.64 จุด คิดเป็น -0.66% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,768.38 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,752.43 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 54,735.53 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,157.32 จุด ปรับตัวลดลง -9.06 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 0.87% โดยได้แรงหนุนจากยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้นในเดือนมี.ค. รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรีย
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในซีเรีย ตลอดจนความเคลื่อนไหวของสหรัฐว่าจะออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมหรือไม่ รวมทั้งการเปิดเผยผลประกอบการของภาคธุรกิจการเงิน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 1.41% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ แม้ว่า ข้อมูลผิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 1 ของจีนที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ จะขยายตัวสูงสอดคล้องคาดการณ์ก็ตาม
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย 0.06% โดยตลาดปรับตัวในกรอบแคบๆตลอดทั้งวัน ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐและญี่ปุ่นจะจัดการประชุมสุดยอดร่วมกันเป็นเวลา 2 วันที่รัฐฟลอริดา ในวันนี้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 7,922.69 ล้านบาท ลดลง -3.75 บาท คิดเป็น -4.31%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,740.50 ล้านบาท ลดลง -4.00 บาท คิดเป็น -0.73%
3. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,399.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +4.00 บาท คิดเป็น +3.39%
4. SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,792.92 ล้านบาท ลดลง -6.00 บาท คิดเป็น -1.23%
5. IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,701.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท คิดเป็น +2.22%
ดัชนีไม่สามารถผ่านขึ้นทำ New high ต่อเนื่อง ในขณะที่แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันก็รับไม่อยู่ โดยมีแรงขายออกมามากในช่วงบ่ายจนกระทั่งปิดตลาด ส่งผลให้ดัชนีลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันอีกครั้ง และ MACD ที่กำลังดีดกลับขึ้นเหนือศูนย์เริ่มหักหัวลงเล็กน้อย
หากวันนี้ดัชนีดีดกลับขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยสองเส้นดังกล่าวแถวๆ 1,756-1,760 จุดไม่ได้ ดัชนีอาจจะซึมลงต่อโดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,747 จุดและ 1,742 จุด หากดัชนีประคองตัวปิดเหนือระดับดังกล่าวไม่ได้ ทิศทางขาลงจะเป็นต่ออีกครั้ง โดยดัชนีน่าจะไหลลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,724 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
