นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประจำเดือนมี.ค. 2561 ว่า กระทรวงการคลังได้เปิดให้ผู้สนใจยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (พิโกไฟแนนซ์) ตั้งแต่ ธ.ค. 2559-มี.ค. 2561 มีนิติบุคคลยื่นคำขออนุญาตทั้งสิ้น 458 ราย ใน 66 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้ยื่นคำขออนุญาตมากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา 45 ราย กรุงเทพฯ 36 ราย และร้อยเอ็ด 29 ราย

ทั้งนี้ มีจำนวนที่คืนคำขออนุญาตทั้งสิ้น 63 ราย ใน 37 จังหวัด จึงมีนิติบุคคลที่ยื่นคำขออนุญาตสุทธิ 395 ราย ใน 64 จังหวัด และมีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจแล้ว 331 ราย ใน 62 จังหวัด ซึ่งในจำนวนนี้ ได้เปิดดำเนินการแล้ว 201 ราย ใน 54 จังหวัด และมีผู้ประกอบการที่ปล่อยสินเชื่อแล้ว 165 ราย ใน 50 จังหวัด โดยผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตสามารถปล่อยสินเชื่อได้ภายในเขตจังหวัดให้แก่ผู้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ภายในจังหวัดนั้นๆ วงเงินรายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกิน 36% ต่อปี

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือน ก.พ. 2561 มียอดสินเชื่ออนุมัติสะสม 1.18 หมื่นบัญชี รวมเป็นเงิน 313.34 ล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่ออนุมัติเฉลี่ย 2.64 หมื่นบาทต่อบัญชี ประกอบด้วย สินเชื่อแบบมีหลักประกัน 6.33 พันบัญชี เป็นเงิน 199.46 ล้านบาท คิดเป็น 63.66% ของจำนวนสินเชื่อที่อนุมัติ และสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน 5.51 พันบัญชี เป็นเงิน 113.88 ล้านบาท คิดเป็น 36.34% ของจำนวนสินเชื่อที่อนุมัติ ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างรวมมีทั้งสิ้น 3.67 พันบัญชี คิดเป็นเงิน 100.99 ล้านบาท

สำหรับสินเชื่อที่ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน มีจำนวน 313 บัญชี คิดเป็นเงิน 9.43 ล้านบาท หรือ 9.34% ของยอดสินเชื่อคงค้างรวม และมีสินเชื่อค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน (NPL) จำนวน 118 บัญชี คิดเป็นเงิน 4 ล้านบาท หรือ 3.96% ของสินเชื่อคงค้างรวม

ขณะที่สินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้อนุมัติสินเชื่อเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินให้เป็นทางเลือกของประชาชนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบแทนหนี้นอกระบบ รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.85% ต่อเดือน โดยตั้งแต่ มี.ค. 2560-มี.ค. 2561 มีการอนุมัติสินเชื่อรวม 2.44 แสนราย เป็นเงิน 1.09 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อที่อนุมัติแก่ประชาชนทั่วไป 2.29 แสนราย เป็นเงิน 1.02 หมื่นล้านบาท และสินเชื่อที่อนุมัติแก่ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ที่มีหนี้นอกระบบ จำนวน 1.53 หมื่นราย เป็นเงิน 679.39 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมาย โดยยังคงกวดขันจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบและผู้ติดตามทวงถามหนี้โดยวิธีการผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการดำเนินการสะสมนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559-มี.ค. 2561 มีการจับกุมผู้กระทำผิดรวมทั้งสิ้น 2.19 พันคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน