บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ (17-20 เม.ย. 2561) ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ขยับอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่ในภาพรวมยังถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างแคบตลอดสัปดาห์ โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลงสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนกลับมาบางส่วนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงมองว่า เงินเฟ้อของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นเข้าสู่ระดับเป้าหมายของเฟดในปีนี้

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาท ยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน ในวันศุกร์ (20 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.32 บาทต่อดอลลาร์ จากระดับ 31.22 บาทต่อดอลลาร์ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (12 เม.ย.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (23-27 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.10-31.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศ น่าจะอยู่ที่ข้อมูลการส่งออกของไทยในเดือนมี.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่อาจเป็นจุดสนใจของนักลงทุน ได้แก่ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และจีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตัวเลขดัชนี PMI เดือนเม.ย. ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. และตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 1/2561 (advanced report)

นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูล PMI เดือนเม.ย. (เบื้องต้น) ของอีกหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถยืนเหนือระดับ 1,800 จุดได้อีกครั้ง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,801.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.93% จากสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ดี มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ปรับเพิ่มขึ้น 20.27% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 65,242.52 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 487.86 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ แต่กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยมีปัจจัยหนุนจากแแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันโลก อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศก็เริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายลง ดัชนี SET สามารถปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ และปิดเหนือระดับ 1,800 จุดได้อีกครั้ง แม้ว่าจะมีแรงกดดันเล็กน้อยในหุ้นกลุ่มโรงกลั่น และกลุ่มธนาคารพาณิชย์

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (23-27 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,780 และ 1,770 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,810 และ 1,825 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การทยอยประกาศผลการเงินดำเนินงานของบจ.งวดไตรมาส 1/2561 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ รายงานจีดีพีไตรมาส 1/2561 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองเดือนมี.ค. และดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนเม.ย.

ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางยุโรป และดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) ของประเทศในแถบยุโรป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน