ไม้ดอกไม้ประดับ
ส่วนที่เป็นหม้อข้าวของหม้อข้าวหม้อแกงลิง หลายคนเข้าใจว่าเป็นดอก แต่ความเป็นจริงคือ ใบ ที่พัฒนามาเป็นหม้อข้าว เพื่อใช้เป็นกับดักแมลง จากการสันนิษฐานของนักวิชาการ สรุปว่า ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นพืชที่วิวัฒนาการมาจากแหล่งที่มีดินขาดความอุดมสมบูรณ์ หรืออาจขาดธาตุใดธาตุหนึ่ง มันจึงพัฒนาส่วนของปลายใบขึ้นมาเป็นกับดักแมลง แล้วผลิตน้ำย่อยออกมาย่อยตัวแมลงที่จับไว้ได้ เพื่อนำสารอาหารที่ต้องการไปหล่อเลี้ยงตัวมันเองให้สมบูรณ์ สามารถสืบเผ่าพันธุ์ต่อไปได้ หม้อข้าวหม้อแกงลิง มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เจริญเติบโตอยู่ในที่ราบ และ กลุ่มที่เจริญเติบโตอยู่ในบริเวณที่สูง ทั้งนี้ กลุ่มแรกต้องการอากาศร้อนชื้น ส่วนกลุ่มที่สอง ต้องการอากาศหนาวเย็น ดังนั้น การนำหม้อข้าวหม้อแกงลิงมาปลูกเลี้ยงใน กทม. และเขตปริมณฑล จำเป็นต้องเลือกกลุ่มแรก สังเกตได้จากมีการปลูกเลี้ยงกันอยู่ทั่วไป จึงจะได้ผลดี หม้อข้าวหม้อแกงลิงกลุ่มนี้ต้องการแสงแดดเพียง 60-80 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น แสงแดด เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อขนาดและสีสันของหม้อข้าวหม้อแกงลิง จึงควรหลีกเลี่ยงการปลูกเลี้ยงในสภาพใต้ร่มเงา ส่วนความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศอยู่ในระดับ 80 เป
ด้วยสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงแห้งแล้งกันดารขาดแหล่งน้ำ ชาวบ้านมีทางเลือกเดียวคือปลูกพืชเชิงเดี่ยว เป็นอาชีพหลัก ได้แก่ ข้าวโพด มันสำปะหลัง และยางพารา แต่ทว่าปัญหาหนี้สินก็พอกพูนขึ้นทุกวัน สำหรับสมาชิกกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลา ตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย กระทั่งปี 2563 กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเลยเข้าไปช่วยเหลือดำเนินการสนับสนุน ขุดสระน้ำเพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำภายใต้โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินและพัฒนาอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์ตามนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ จากนั้นคณะกรรมการกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลาหารือร่วมกับทีมงานเจ้าหน้าที่สหกรณ์จังหวัดเลย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปว่าจะส่งเสริมอาชีพปลูกกุหลาบตัดดอกให้กับสมาชิก เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่าย ไร้โรคแมลงรบกวน ที่สำคัญความต้องการของตลาดสูงมาก จึงเป็นที่มาของแปลงนำร่องต้นแบบปลูกกุหลาบตัดดอกสายพันธุ์ฮอลแลนด์และฮังการี ของ นายอัศวิน ศรีบุรินทร์ เลขานุการกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลา บนเนื้อที่ 4 ไร่ ไร่ละ 1,000 ต้น เมื่อปลายปี 2563 ปัจจุบันเก็บเกี่ยวผลผลิตตัดดอกทุกวัน มีรายได้เฉลี่ยวันละ 5,000-20,000 บาท โดยมีพ่อค้าทั้ง
รวม 10 ดอกไม้รับประทานได้ แถมช่วยเพิ่มสีสันความสวยงามให้กับจานอาหารของเราอีกด้วย ซึ่งดอกไม้บางชนิดสามารถนำมาทำได้ทั้งอาหาร และเครื่องดื่มสีสันหวาน หอม คุณประโยชน์จัดเต็ม ซึ่งดอกไม้ที่สามารถรับประทานได้จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย! 🌼ดอกเก๊กฮวย นิยมนำมาใช้ทำเป็นเครื่องดื่มช่วยดื่มแก้กระหาย เพราะประโยชน์ของเจ้าดอกไม้สีเหลืองเล็กๆ ดอกนี้ช่วยบำรุงร่างกายแก้ร้อนใน มีฤทธิ์เย็นช่วยเพิ่มความสดชื่น 🪻ดอกอัญชัน ต่อด้วยดอกไม้สีน้ำเงินเข้ม แต่ที่เราเห็นว่าน้ำกลายเป็นสีม่วงซึ่งเกิดจากสารแอนโธไซยานินไปทำปฏิกิริยาเมื่อโดนกรด โดยประโยชน์ของเขาคือ อุดมไปด้วยสารอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ และช่วยบำรุงสายตา 🌼ดอกดาวกระจาย ดอกไม้ที่เรามักคุ้นชินว่าเป็นดอกไม้สวยงามปลูกตามริมรั้ว แท้จริงแล้วดอกไม้ชนิดนี้สามารถรับประทานได้ ดอกดาวกระจายมีสรรพคุณช่วยบรรเทาการอักเสบ และใบสดของดอกดาวกระจายยังขึ้นคือว่าเป็น “ราชาแห่งสลัด” อีกด้วย 🌸ดอกพวงชมพู อีกหนึ่งดอกไม้ที่นิยมปลูกไว้ประดับริมรั้ว เพราะด้วยความน่ารักของเจ้าดอกเล็กๆ สีชมพู ซึ่งแน่นอนว่าพวงชมพูสามารถรับประทานได้! แถมใช้เป็นวัตถุดิบในการทำข้าวยำอีกด้วย สรรพคุณของพวงชมพูคือ ช่วย
บอนสี เป็นอีกหนึ่งไม้ประดับใบที่ผ่านยุคผ่านสมัย ในวงการไม้ดอกไม้ประดับในบ้านเรามาหลายทศวรรษทีเดียว จะเห็นได้จากในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีเกษตรกรหน้าใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ยิ่งช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในระยะแรกนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้กระแสของบอนสีเป็นที่รู้จักของมือสมัครเล่นด้วยเช่นกัน สาเหตุที่บอนสียังเป็นที่นิยมและไม่ตกกระแสและยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้นั้น เกิดจากเกษตรกรมีการพัฒนาสายพันธุ์อยู่เสมอ จึงทำให้ในวงการมีลูกไม้ใหม่ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตลอดเวลา คุณประเสริฐ เข้มแข็ง เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่ได้เข้ามาในวงการบอนสี โดยช่วงที่นำไม้เข้ามาปลูกนั้นเพียงเพราะความชื่นชอบเท่านั้น จากนั้นเรียนรู้การพัฒนาสายพันธุ์จนเกิดความชำนาญ จึงทำให้ภายในสวนมีลูกไม้ใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชนิดที่ว่ามีผู้สนใจและอยากจะได้ไม้จากภายในสวนของเขา จนไม่คาดคิดว่าสิ่งที่ทำด้วยความชอบจะสามารถเป็นงานที่สร้างรายได้ และสวนของเขาเป็นที่รู้จักของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ จุดเริ่มต้นปลูกบอนสี เพราะความชื่นชอบ คุณประเสริฐ เล่าให้ฟังว่า เดิมทีมีอาชีพค้าขายเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวสร้างรายได้หลัก ซึ่งในระหว่างนี้ก็จะปลูกบอนสีไปด้
ประเทศไทย มีศักยภาพในการผลิตไม้ดอกเมืองร้อน เพราะสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการทำการเกษตร นอกจากนี้ ไม้ดอกเมืองร้อนมีความหลากหลายทางพันธุกรรมสูง สามารถสลับสับเปลี่ยนให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญลงทุนปลูกครั้งเดียวเก็บขายได้ตลอด หากใครยังมีพื้นที่ว่าง อยากชวนมาปลูกไม้ตัดดอกเมืองร้อนขายทำเงินกันดีกว่า “ไม้ตัดดอกเมืองร้อน” มีหลากสีสัน สวยงาม โดดเด่น ได้แก่ เฮลิโคเนีย (ธรรมรักษา) ขิงแดง ขิงชมพู กล้วยประดับ ดาหลา งาช้าง ลิ้นมังกร ดอกกะทือ ฯลฯ ที่ปลูกง่ายขายดี เป็นที่นิยมทั้งในประเทศและส่งออก ยืนยันโดย คุณประเสริฐ ลมพัด ประธานกลุ่มไม้ตัดดอกเขตร้อนกาญจนบุรี ตำบลท่าคร้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ยึดอาชีพปลูกไม้ตัดดอกมาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปี เฮลิโคเนีย สินค้าขายดี เฮลิโคเนีย เป็นสินค้าที่ขายดีมาตลอด เพราะมีดอกสุดสวย หลากหลายสีสัน มีทั้งชนิดดอกเล็ก ดอกใหญ่ ช่อตั้ง ช่อห้อย ที่ผ่านมามีการนำเข้าสายพันธุ์เฮลิโคเนียจากต่างประเทศเข้ามาปลูกในเมืองไทยจำนวนมาก โดยขนาดดอกเล็ก นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ส่วนดอกขนาดใหญ่ทั้งช่อตั้งและช่อห้อยย้อย นิยมปลูกเชิงการค้าในลักษณะไม้ตัดดอก ไม้ตัดดอ
ในการตกแต่งสวน สิ่งที่ละเลยไม่นำมาเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างพื้นสนามหญ้าก็อาจทำให้สวนแห่งนั้นขาดความสมบูรณ์แลดูไม่สวยงาม หากผ่านตามร้านขายต้นไม้หลายแห่งจะพบว่ามีหญ้าเป็นแผ่นตั้งกองไว้หน้าร้านเพื่อจำหน่ายควบคู่ไปกับพันธุ์ไม้หลายชนิด อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้หญ้าแต่ละชนิดต้องพิจารณาให้เหมาะสมตรงกับเจตนาของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้งหรือแดดรำไร แต่ทราบหรือไม่ว่าเส้นทางของการผลิตหญ้ากว่าจะมาสร้างความสวยงามให้แก่สวนของคุณมีความเป็นมาอย่างไร ในอดีตหากต้องการใช้หญ้าเพื่อจัดสวนมักรู้กันดีว่าแหล่งสำคัญคือที่มีนบุรี เพราะปลูกหญ้าได้คุณภาพจนเรียกติดปากว่า “หญ้ามีน” ถึงแม้ในปัจจุบันแหล่งปลูกหญ้าจะเพิ่มหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดปทุมธานี กำแพงเพชรหรือแม้แต่นครนายก แต่ชาวบ้านที่มีนบุรียังคงรักษาวิถีอาชีพปลูกหญ้าดั้งเดิมสร้างรายได้เพื่อคงเอกลักษณ์ไว้ คุณสมชาย เจ๊มะหะหมัด กรรมการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรมีนบุรีและประธานกลุ่มผู้ปลูกหญ้าแปลงใหญ่ เป็นผู้ที่คร่ำหวอดกับวงการปลูกหญ้าสนามมาตั้งแต่เด็กให้ข้อมูลว่า ที่มีนบุรีถือเป็นพื้นที่ปลูกหญ้าแห่งแรก โดยเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา คุณสุดใจ วงศ์อารี อดีตรอ
ดอกกุหลาบไม่เพียงให้ความสวยงามไว้เชยชมเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถนำมาต่อยอดสร้างมูลค่าได้หลายแบบ และที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ขณะนี้นั้นก็คือ ชากุหลาบนั้นเอง คุณนพเก้า จันโย ชื่นชอบของการปลูกกุหลาบ จึงได้นำกุหลาบที่มีดอกใหญ่สวยงาม มาพัฒนาเป็นชากุหลาบที่มีกลิ่นหอม โดยปลูกในระบบอินทรีย์จึงช่วยให้สินค้ามีความปลอดภัย และลูกค้าสามารถนำชาจากดอกกุหลาบไปชงดื่มได้อย่างมั่นใจ เพราะมีความปลอดภัยทุกกระบวนการผลิตที่มีความใส่ใจในทุกขั้นตอน คุณนพเก้า เล่าว่า การทำเกษตรเรียนรู้ตั้งแต่ครั้งสมัยคุณปู่คุณย่า ต่อมาเมื่อมีโอกาสรับช่วงต่อ จึงได้กลับมาอยู่บ้านเกิดอย่างเต็มตัว และทำเกษตรแบบปลอดสารพิษเป็นเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด โดยมีการปรับเปลี่ยนจากการทำเกษตรแบบเดิมๆ ที่มักพึ่งพาการใช้สารเคมีเพียงอย่างเดียว มาทำแบบไร้สารเคมีปลอดภัยทั้งผู้ทำและสินค้าที่ผลิต “พอต้องมาอยู่บ้านซึ่งมีการทำเกษตรอยู่แล้ว เลยคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะยั่งยืน และไม่ทำลายสุขภาพตัวเราด้วย ก็เลยตัดสินใจที่จะทำนาอินทรีย์และพืชอื่นๆ ที่เป็นอินทรีย์ ทีนี้กุหลาบเราชอบ และซื้อสะสมพันธุ์ไว้เยอะพอสมควร จึงมองว่าต้องนำมาทำให้เกิดประโยชน์ ซึ่งชากุหลาบค
สงกรานต์ปีนี้มาเลือกดอกไม้ที่ทั้งสวย กลิ่นหอม และความหมายดี เหมาะกับการแสดงความเคารพและความรักต่อญาติผู้ใหญ่ ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ (สีชมพูหรือสีแดงอ่อน) ดอกดาวเรือง ดอกพุด ดอกชมนาด ดอกสารภี ดอกบานไม่รู้โรย
คุณจอม-ศรุต สุวรรณภักดี นักแสดงหนุ่มช่องมากสี เป็นอีกหนึ่งท่านที่ชื่นชอบการปลูกไม้ประดับที่เป็นสายพันธุ์แปลกและหายาก โดยเขาได้ศึกษาอย่างจริงจังชนิดที่ว่าได้เดินทางไปดูไม้จากแหล่งต่างๆ ในหลายประเทศ และนำเข้าพรรณไม้มาปลูกจนทำให้ภายในสวนมีไม้หลายชนิด และขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนเรื่อยๆ จนมีไม้มากขึ้น สร้างเป็นธุรกิจเกิดรายได้เสริมหลังจากงานแสดงให้กับเขาได้อย่างดี คุณจอม เล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้มที่ปนอยู่บนใบหน้าว่า จุดเริ่มต้นของการได้เข้ามาปลูกไม้แปลกไม้หายากนั้น เกิดจากต้องการซื้อไม้ประดับเข้ามาปลูกภายในบ้าน เพราะอยากได้ต้นไม้ที่คิดว่าน่าจะเข้ากับมุมต่างๆ เป็นชนิดไป ซึ่งตลาดต้นไม้แรกที่มีโอกาสได้ไปเดินคือตลาดนัดจตุจักร และต่อมาได้รู้จักกับไม้ขุดล้อมจากหลายจังหวัด ว่ามีการขายในราคาที่แตกต่างกันไป จึงซื้อเข้ามาปลูกและเป็นจุดเริ่มต้นให้ได้เข้ามาอยู่ในวงการนี้จนถึงปัจจุบัน “ไม้ในสวนของผมก็จะมีทั้งที่หาซื้อจากในไทยและต่างประเทศเข้ามาเพื่อขยายพันธุ์ ตอนนั้นจำได้ว่าไม่ได้ลงทุนเยอะ ซื้อมาต้นละ 2,000 บาท ลงทุนไปด้วยเงิน 10,000 บาท พอเอามาทดลองเลี้ยง แล้วก็ขยายพันธุ์ออกไป พอโตได้ระยะก็ขายออกไป ได้กำไรมาแล
ปัจจุบัน ระบบขนส่งสิ่งของต่างๆ ในบ้านเรา เมื่อเทียบกับยุคสมัยก่อนแล้ว ถือว่ามีความทันสมัยและรวดเร็วเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากยุคนี้ที่ผู้บริโภคเองก็มีการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือมีการเลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น โดยที่ผู้ซื้อไม่ต้องออกไปนอกบ้าน หรือเสียเวลาขับรถไปยังสถานที่ไกลๆ เพื่อซื้อสินค้าที่ตัวเองชอบเพียงไม่กี่ชิ้นโดยสั่งซื้อสินค้าออนไลน์คอยอยู่ที่บ้านไม่เกิน 1-2 วัน ก็ได้รับของถึงมือมาเชยชมได้อย่างที่ใจหมาย ตลาดไม้ดอกไม้ประดับในช่วงนี้ต้องบอกเลยว่า ค่อนข้างคึกคักในเรื่องของการซื้อขายผ่านออนไลน์ เพราะบางสวนได้เน้นการทำตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยโพสต์ภาพสินค้าที่มีอยู่และให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ ประหนึ่งเหมือนเดินเข้าไปอยู่ภายในสวนก็ว่าได้ จึงทำให้การค้าขายในยุคนี้ตลาดออนไลน์กำลังมาแรง แม้กระทั่งการซื้อขายต้นไม้ และที่เห็นๆ กันอยู่ในช่วงนี้คือ ไม้อย่างกระบองเพชร ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ตลาดหรือผู้ที่สนใจก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ จึงทำให้ตลาดกระบองเพชรถือเป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่อยู่ในความสนใจของผู้คนทุกเพศทุกวัย คุณพัชรา มากทองมณี เป็นอีกหนึ่งผู้ที่เข้ามาอยู่ในวงการกระบองเพชรเมื่อ