ไม้ดอกไม้ประดับ
ปีนี้ร้อนกว่าทุกปีที่ผ่านมา บ้านไหนที่มีแพลนกำลังจะทำสวน หาไม้เลื้อย ตกแต่งบ้าน ทำซุ้มบังแดด สร้างร่มเงา วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน รวม 6 พันธุ์ไม้เลื้อย ที่ทั้งถึก ทน โตไว มาให้แล้ว แต่ละสายพันธุ์ล้วนมีจุดเด่นที่ชวนหลงใหล แต่จะมีสายพันธุ์ไหนบ้างต้องไปดู ไม้เลื้อยจะเจริญเติบโตแบ่งออกเป็น 2 ประเภท เลื้อยเบนเข้าหาแสง ด้วยการใช้พลังงานน้อยที่สุด จะเป็นการเติบโตแบบยืดยาวเข้าหาแสงแทนที่จะใช้พลังงานจำนวนมากในการสร้างเนื้อไม้ ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ใช้เป็นโครงสร้างในการทรงตัว เลื้อยเบนออกจากแสง กลไกการเลื้อยแบบนี้ จะพยายามงอกไปในทิศทางที่ไม่มีแสง โดยกิ่งก้านจะงอกไปถึงโคนต้นไม้ และปีนขึ้นไปบนยอดไม้ที่สว่างกว่าอย่างรวดเร็ว ไม้เลื้อยนั้นสามารถรับประโยชน์ได้จากสภาพแวดล้อม 2 แบบ คือ จากการหยั่งรากลงดินในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์เป็นหย่อมๆ บริเวณที่มีดินน้อยหรือไม่มีเลย และยังสามารถรับประโยชน์จากแสงสว่าง โดยใบจะเจริญเฉพาะในบริเวณที่โล่ง หรือมีแสงแดดส่องถึงเป็นช่วงๆ ได้ 1. ม่านบาหลี มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเขตร้อนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นไม้เลื้อยอายุหลายปี ลำต้นมีรากพิเศษแตกตามข้อเป็นเส้นสีแดงยาวห้อยลง
มนุษย์เกิดมาถูกบีบบังคับด้วยสัญชาตญาณของการดิ้นรนและต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากสังคมปัจจุบัน หนึ่งในมวลนั้นมี คุณอาทิตย์ กิ่งแก้ว หนุ่มใหญ่วัย 62 ปี ผู้กำลังก้าวเข้าสู่ประตูสูงวัย อยู่บ้านเลขที่ 1614/189 หมู่ที่ 6 ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ คุณอาทิตย์ประกอบอาชีพค้าขายเหมือนคนอื่นทั่วไป ประสบความสำเร็จพอสมควร ประกอบกับการเป็นคนมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลต่อระบบนิเวศทั่วไป รักสวยรักงามต่อการเพาะปลูกต้นไม้ด้วยใจรัก ไม่ว่าจะเป็นไม้ประดับ ไม้ดอก หรือบอนสี ที่คุณอาทิตย์รักมากจึงทุ่มเททุกอย่างเพาะปลูกในยามว่าง ประกอบกับมีใจรักการเกษตรเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว จึงดูแลเอาใจใส่อย่างทะนุถนอมเป็นอย่างดีในการบำรุงรักษา เหตุนี้ ด้วยเป็นคนมีใจรักเป็นทุนเดิมก่อนแล้ว คุณอาทิตย์จึงตัดสินใจปลูกไม้ประดับ บอนสีไทยโบราณในพื้นที่ส่วนตัว โดยใช้พื้นที่ตรงชายคาบ้านที่พักอาศัยยาว 13 เมตร กว้าง 1.20 เมตร รวมพื้นที่ชายคาบ้าน 19.50 ตารางเมตร มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นแปลงเพาะปลูกบอนสีและไม้ประดับ ตามปกติทั่วไปรอบบ้านพักอาศัยจะมีพื้นที่ชายคากว้างประมาณ 1.20-1.50 เมตร เทคอนกรีตเดิมไว้แล้ว แต่เมื่อเราจะเอาพื้นท
ลูกมะพร้าวที่หล่นจากต้น จนมีหน่องอกออกมา เพื่อรอการเจริญเติบโตเป็นต้นใหญ่ จัดอยู่ในประเภทถูกคัดทิ้งไว้ตามร่องสวน ตามบ้านเรือนอย่างไร้ค่า แต่สำหรับคุณลุงสำเร็จ คลังนาค อายุ 65 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ชาว ต.คุ้งพะยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี กลับคิดต่างมุม ไปเก็บลูกมะพร้าวที่ออกหน่อนำมาปอกเปลือกให้เหลือแต่กะลา โผล่หน่อกับรากไว้ เพื่อนำไปปลูกเพาะเลี้ยงในกระถาง เป็นบอนไซมะพร้าวไม้ประดับบ้านเพื่อความสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ เริ่มต้น คุณลุงสำเร็จ จะไปหาเก็บผลมะพร้าวงอก หรือบางทีมีคนรู้จักเก็บมาให้เพื่อนำมาปอกเปลือก ขุดเนื้อหุ้มกะลาออกให้หมด เหลือหน่อกับราก จากนั้นก็นำไปล้างน้ำขัดถูกกับกระดาษทรายให้ผิวเรียบ ก่อนจะนำไปทาแล็กเกอร์ยูรีเทน ให้ดูผิวสวยป้องกันการแตกร้าว แล้วนำไปปลูกเลี้ยงในกระถางช่วงระยะหนึ่ง ก็จะได้บอนไซมะพร้าว ตามรูปทรงที่ตนเองจินตนาการ ส่งขายให้กับผู้นิยมชื่นชอบเลี้ยงไม้บอนไซ โดยการทำบอนไซมะพร้าวถือเป็นงานอดิเรกที่ทำอยู่กับบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยสามารถทำได้ จนปัจจุบันได้ตั้ง “ชมรมคนรักบอนไซมะพร้าวแห่งประเทศไทย” ขึ้น ขั้นตอนการปลูกทำง่าย ๆ ใช้ดินขุยไผ่ผสมเปลือกมะพร้าวสับเป็นชิ
เฮลิโคเนีย (Heliconia) เป็นไม้ที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการนำมาเป็นไม้ตัดดอกเพื่อปักแจกัน หรือถ้าต้องการที่จะปลูกให้เป็นไม้พุ่ม บางบ้านก็จะนำมาปลูกใส่กระถางตกแต่งบ้านเรือน หรือปลูกลงดินเป็นแนวรั้วตามกำแพงได้ด้วยเช่นกัน ไม้ชนิดนี้ถือเป็นพืชอวบน้ำยืนต้น ที่มีลำต้นใต้ดิน เรียกว่า เหง้า ส่วนลำต้นที่อยู่เหนือดินขึ้นมา เรียกว่า ต้นเทียม ที่มีส่วนประกอบขอบต้น ใบ และเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีช่อดอกแทงออกมากกลางลำต้น ดอกเฮลิโคเนีย แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีเอกลักษณ์และรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไป พร้อมทั้งมีสีสันที่สวยสะดุดตา และที่สำคัญการออกดอกมีตั้งแต่ช่อดอกตั้งหรือห้อยแล้วแต่ชนิด ด้วยความพิเศษนี้เอง คุณณรงค์ แช่มช้อย เกษตรกรจังหวัดปราจีนบุรี ได้นำดอกเฮลิโคเนียมาขยายพันธุ์จนมีมากกว่า 10 สายพันธุ์ สร้างเป็นสินค้าที่ส่งจำหน่ายได้ทั้งในและต่างประเทศ คุณณรงค์ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนที่สวนแห่งนี้ดั้งเดิมทำไม้ผลและปลูกไผ่ตงเพื่อสร้างรายได้ ต่อมาในพื้นที่ไผ่ตงเกิดออกดอกและตายหมด จึงทำให้เกษตรกรในพื้นที่ได้หันมาปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ต่อมาเขาได้สนใจที่จะนำเฮลิโคเนียเข้ามาปลูกอยู่หล
ดอกไม้แสนสวยที่มีสีสดสวย และมีกลิ่นหอม นอกจากใช้ประดับเพิ่มความงามให้กับบ้านแล้ว ยังเป็นสมุนไพรมากคุณค่าอีกด้วย ตัวอย่างไม้ดอก ที่เป็นสมุนไพรที่ช่วยดูแลสุขภาพที่พบเจอกันได้บ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น 1.ปีบ หรือกาสะลอง ต้นไม้สูง ออกดอกขาวโพลนทั้งต้น กลิ่นหอมโชยตามลมอย่างต้นปีบนี้ ไม่ได้แค่สวยและหอมอย่างเดียว เพราะดอกของต้นปีบ ใช้เป็นสมุนไพรในการแก้โรคหอบ หืด ได้โดยการนำดอกมามวนสูบ 2.เบญจมาศ ดอกไม้ที่เป็นไปด้วยกลีบเล็กๆ อัดซ้อนกันจนแน่นอย่างเบญจมาศนี้ ไม่ได้แค่สวยอยู่แต่ในแจกันเท่านั้น เราสามารถนำดอกและใบมาคั้นเป็นยาสมุนไพร ใช้สำหรับรักษาบาดแผล หรือจะนำไปต้มดื่มรักษาโรคนิ่ว โรควัณโรค และโรคที่เกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง 3.บุนนาค ไม้ดอกกลีบบางน่าทะนุถนอม กลายเป็นสมุนไพรช่วยบำรุงเลือด ทำเป็นยาหอม รักษาอาการร้อนอ่อนเพลีย 4.บานเย็น ไม้ดอก ที่ดอกไม่บานตอนเช้า กว่าจะได้ยลโฉมก็ต้องรอบ่ายไปแล้ว นำดอกที่ได้มาคั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำไปผสมน้ำดื่ม เป็นยาสมุนไพรที่ใช้สำหรับอาการกระอักเลือด และอาเจียนเป็นเลือด 5.บัวหลวง ดอกไม้บูชาพระ สวย สะอาด บริสุทธิ์ นอกจากจะสวยดึงดูดสายตาแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรบำรุงหัวใจ โด
บัว เป็นพืชประเภทล้มลุกมีหัวอยู่ในดิน การเจริญเติบโตชูใบและดอกขึ้นมาบนผิวน้ำ ใบมีลักษณะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ดอกเป็นกลีบที่เรียงซ้อนกันหลายชั้น แต่ละสายพันธุ์มีขนาดและสีสันของดอกเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน บัวบางชนิดมีความสวยงามโดดเด่น จึงได้ถูกนำมาปลูกเลี้ยงเพื่อประดับตกแต่งบ้าน ทำให้บัวเป็นที่ต้องการของตลาดหลากหลายกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างมาก คุณอิทธิพล ทากูล เจ้าของสวนบัวฟ้า นำบัวสายพันธุ์ต่างๆ เข้ามาปลูกพร้อมกับพัฒนาการปลูกอยู่เสมอ ทำให้บัวที่ปลูกอยู่นอกจากมีบัวที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสร้างเป็นบัวคุณภาพ คุณอิทธิพล เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะเริ่มมาปลูก สมัยก่อนทำธุรกิจทางด้านส่งออกปลาและไม้น้ำ ในช่วงนั้นมีลูกค้ากลุ่มไม้น้ำที่มีความชอบในเรื่องของการปลูกบัวได้ติดต่อเข้ามา อยากจะรับซื้อบัวสายพันธุ์ต่างๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขามาจับธุรกิจบัวสวยงาม โดยเริ่มมาทำการปลูกบัวและสร้างเป็นธุรกิจมาจนถึงทุกวันนี้ “บัวที่เราปลูกก็จะมีบัวสวยงาม พร้อมทั้งนำบัวเหล่านั้นมาพัฒนาสายพันธุ์อยู่เสมอ เพื่อให้ได้บัวที่มีความแตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป เราต้องไม่หย
สภาวะฝุ่นในอากาศนั้น เกิดจากปัจจัยหลายอย่างและเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก วิธีการหนึ่งที่จะช่วยควบคุมคุณภาพอากาศให้เหมาะสม คือการปลูกต้นไม้ช่วยกรองอากาศและดักจับฝุ่นละอองในอากาศ ซึ่งเป็นการลงทุนน้อยแต่ได้ผลในระยะยาว ในต่างประเทศที่มีปัญหาเกี่ยวกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก มีการศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับพืชที่ใช้ในการดักจับฝุ่น อย่างในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และหลาย ๆ ประเทศในทวีปยุโรป โดยการศึกษาพบว่า ต้นไม้สามารถดับจับฝุ่นได้ร้อยละ 10 – 90 ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช กรมอนามัยได้แนะนำไม้ประดับ 22 ชนิด ที่เปรียบเสมือน “เครื่องฟอกอากาศธรรมชาติ” เนื่องจากไม้ประดับจะดึงดูดจุลินทรีย์ให้มาอยู่บริเวณราก และย่อยสลายโครงสร้างอินทรีย์สารที่ซับซ้อนได้ อีกทั้งใบของต้นไม้ยังสามารถดูดซับสารอินทรีย์ที่เป็นก๊าซ และย่อยหรือถ่ายโอนของเสียไปยังรากเพื่อใช้เป็นอาหารสำหรับจุลินทรีย์ สำหรับไม้ประดับ 22 ชนิด ที่มีความสามารถสูงในการดูดสารพิษ มีดังนี้ 1. หมากเหลือง เป็นพืชตระกูลปาล์มที่ปลูกง่าย โตเร็ว ชอบแสงแดดจัด แต่ปลูกภายในอาคารได้ ต้องการน้ำมาก ชอบความชื้นสูง สามารถช่วยผู้ป่วยที่เป็นหวัด หรือมีอาการไซนัส 2. จั๋ง เป็นพืชตระกู
กล้วยไม้ เป็นไม้ประดับมีเสน่ห์อ่อนหวาน ทั้งหลากสีสันสวยสดงดงาม หรือมีกลิ่นหอมที่เย้ายวนรัญจวนใจ จึงนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย ซึ่ง “ว่านเพชรหึง ” เป็นหนึ่งในกล้วยไม้ที่หลายคนอยากมีไว้ครอบครอง เพราะเป็นกล้วยไม้ลำต้นใหญ่ที่สุดในโลก และมีช่อดอกขนาดใหญ่ ยาวถึง 2 เมตร ถือเป็นเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ว่านเพชรหึง เป็นกล้วยไม้อิงอาศัย มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชีย และหมู่เกาะตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ในประเทศไทยพบตามป่าดิบชื้นทางภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่านเพชรหึงมีลำต้นเป็นแท่งกลมขนาดใหญ่ ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ยาวได้ถึง 2 เมตร ดอกกว้าง 6-8 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอกพื้นสีเหลืองหม่น มีประสีน้ำตาล แกมม่วงกระจายทั่วกลีบ กลีบปาก สีเหลืองอมน้ำตาล ในแต่ละช่อดอก มีดอกได้มากถึง 50 ดอก ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คนโบราณเชื่อว่า ว่านเพชรหึงมีสรรพคุณรักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน และรักษาอาการไอเจ็บคอ จึงมีการใช้คำว่า ว่าน นำหน้าชื่อกล้วยไม้ชนิดนี้ ผู้สนใจสามารถสัมผัสความสวยงามของกล้วยไม้ว่านเพชรหึง ที่ชูช่อ ออกดอก ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ท่ามกลางสีสันแห่งป่าธรรมชาติที่
สวัสดีปีใหม่ 2025 หลายคนคงกำลังมองหาวิธีเสริมดวงและโชคลาภให้ชีวิตเต็มไปด้วยความรุ่งเรือง ต้นไม้มงคลเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยเสริมพลังบวกให้กับบ้านและที่ทำงานได้ วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านรวม 6 ต้นไม้มงคลที่เหมาะกับการปลูกเพื่อเสริมดวงรับปีใหม่มาฝาก จะมีชนิดไหนบ้างตามไปดูกันเลย 1. กวักมรกต ต้นไม้ยอดนิยมที่เชื่อว่าช่วยดึงดูดโชคลาภและเงินทอง กวักมรกตมีใบสีเขียวเข้มแวววาว สวยงาม ปลูกง่ายและทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้มาก แนะนำให้วางไว้ในห้องรับแขกหรือมุมที่มีแสงรำไร อีกทั้งยังเชื่ออีกว่า หากปลูกแล้วออกดอก จะยิ่งส่งเสริมโชคลาภ มีความร่ำรวยยิ่งขึ้น อีกด้วย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zamioculcas zamiifolia (Lodd.) Engl. คำว่า “กวัก” หมายถึง การเรียกให้เข้ามาหา ส่วนคำว่า “มรกต” หมายถึง หินมีค่าสีเขียวอันเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง โชคลาภ และความสุข ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าการปลูกกวักมรกตจะช่วยกวักโชคลาภ เงินทอง และความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาสู่ผู้ปลูก ประโยชน์ของกวักมรกต ช่วยฟอกอากาศภายในห้อง ดูดซับสารพิษ เช่น เบนซิน โทลูอีน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไซลีน ช่วยดูดความชื้นในอากาศ ช่วยเพิ่มความชื้นในอาก
ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีประเพณีที่งดงาม ในหลายภูมิภาคมีเรื่องของความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป พร้อมทั้งการกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์และปูชนียสถานเป็นสิ่งที่อยู่คู่สังคมมาอย่างช้านาน ซึ่งดอกไม้ถือเป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้สำหรับการบูชา จึงทำให้ในทุกพื้นที่ในหลายจังหวัดมีการปลูกไม้ตัดดอกกันอย่างกว้างขว้าง เพื่อให้มีเพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่มีอย่างต่อเนื่อง ดอกบัว เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบพิธีต่างๆ โดยเฉพาะบัวฉัตร เพราะด้วยรูปทรงและดอกที่ตูมสวยกำลังดีไม่ใหญ่เกินไป ทำให้สามารถนำมาพับหรือจัดเป็นช่อกำได้สวย จึงทำให้บัวฉัตรเป็นอีกหนึ่งผลผลิตทางการเกษตรที่น่าสนใจ ส่งผลให้เกษตรกรในหลายพื้นที่มีการปลูกเป็นอาชีพ เพื่อส่งขายให้ทันกับความต้องการของตลาด อย่างเช่น คุณโยธิน ลาภมูล หรือที่ทุกคนรู้จักกัน เขาในชื่อ คุณโย เจ้าของสวนกรรณนิกานาบัว จากวิศวกรหนุ่ม มุ่งสู่ชีวิตเกษตรกร คุณโย เล่าว่า ช่วงที่โควิด-19 ระบาดใหม่ๆ ทำให้เกิดความคิดที่อยากจะกลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอน เพื่อดูแลคุณพ่อคุณแม่อย่างใกล้ชิด ด้วยอาชีพของครอบครัวแต่เดิมทำสวนดอกไม้สำหรับกำไว้บูชาไหว้พระ ท