ไม้ดอกไม้ประดับ
บัว เป็นพืชประเภทล้มลุกมีหัวอยู่ในดิน การเจริญเติบโตชูใบและดอกขึ้นมาบนผิวน้ำ ใบมีลักษณะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ดอกเป็นกลีบที่เรียงซ้อนกันหลายชั้น แต่ละสายพันธุ์มีขนาดและสีสันของดอกเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน บัวบางชนิดมีความสวยงามโดดเด่น จึงได้ถูกนำมาปลูกเลี้ยงเพื่อประดับตกแต่งบ้าน ทำให้บัวเป็นที่ต้องการของตลาดหลากหลายกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างมาก คุณอิทธิพล ทากูล เจ้าของสวนบัวฟ้า นำบัวสายพันธุ์ต่างๆ เข้ามาปลูกพร้อมกับพัฒนาการปลูกอยู่เสมอ ทำให้บัวที่ปลูกอยู่นอกจากมีบัวที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสร้างเป็นบัวคุณภาพ คุณอิทธิพล เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะเริ่มมาปลูก สมัยก่อนทำธุรกิจทางด้านส่งออกปลาและไม้น้ำ ในช่วงนั้นมีลูกค้ากลุ่มไม้น้ำที่มีความชอบในเรื่องของการปลูกบัวได้ติดต่อเข้ามา อยากจะรับซื้อบัวสายพันธุ์ต่างๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขามาจับธุรกิจบัวสวยงาม โดยเริ่มมาทำการปลูกบัวและสร้างเป็นธุรกิจมาจนถึงทุกวันนี้ “บัวที่เราปลูกก็จะมีบัวสวยงาม พร้อมทั้งนำบัวเหล่านั้นมาพัฒนาสายพันธุ์อยู่เสมอ เพื่อให้ได้บัวที่มีความแตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป เราต้องไม่หย
สภาวะฝุ่นในอากาศนั้น เกิดจากปัจจัยหลายอย่างและเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก วิธีการหนึ่งที่จะช่วยควบคุมคุณภาพอากาศให้เหมาะสม คือการปลูกต้นไม้ช่วยกรองอากาศและดักจับฝุ่นละอองในอากาศ ซึ่งเป็นการลงทุนน้อยแต่ได้ผลในระยะยาว ในต่างประเทศที่มีปัญหาเกี่ยวกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก มีการศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับพืชที่ใช้ในการดักจับฝุ่น อย่างในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และหลาย ๆ ประเทศในทวีปยุโรป โดยการศึกษาพบว่า ต้นไม้สามารถดับจับฝุ่นได้ร้อยละ 10 – 90 ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช กรมอนามัยได้แนะนำไม้ประดับ 22 ชนิด ที่เปรียบเสมือน “เครื่องฟอกอากาศธรรมชาติ” เนื่องจากไม้ประดับจะดึงดูดจุลินทรีย์ให้มาอยู่บริเวณราก และย่อยสลายโครงสร้างอินทรีย์สารที่ซับซ้อนได้ อีกทั้งใบของต้นไม้ยังสามารถดูดซับสารอินทรีย์ที่เป็นก๊าซ และย่อยหรือถ่ายโอนของเสียไปยังรากเพื่อใช้เป็นอาหารสำหรับจุลินทรีย์ สำหรับไม้ประดับ 22 ชนิด ที่มีความสามารถสูงในการดูดสารพิษ มีดังนี้ 1. หมากเหลือง เป็นพืชตระกูลปาล์มที่ปลูกง่าย โตเร็ว ชอบแสงแดดจัด แต่ปลูกภายในอาคารได้ ต้องการน้ำมาก ชอบความชื้นสูง สามารถช่วยผู้ป่วยที่เป็นหวัด หรือมีอาการไซนัส 2. จั๋ง เป็นพืชตระกู
กล้วยไม้ เป็นไม้ประดับมีเสน่ห์อ่อนหวาน ทั้งหลากสีสันสวยสดงดงาม หรือมีกลิ่นหอมที่เย้ายวนรัญจวนใจ จึงนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย ซึ่ง “ว่านเพชรหึง ” เป็นหนึ่งในกล้วยไม้ที่หลายคนอยากมีไว้ครอบครอง เพราะเป็นกล้วยไม้ลำต้นใหญ่ที่สุดในโลก และมีช่อดอกขนาดใหญ่ ยาวถึง 2 เมตร ถือเป็นเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ว่านเพชรหึง เป็นกล้วยไม้อิงอาศัย มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชีย และหมู่เกาะตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ในประเทศไทยพบตามป่าดิบชื้นทางภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่านเพชรหึงมีลำต้นเป็นแท่งกลมขนาดใหญ่ ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ยาวได้ถึง 2 เมตร ดอกกว้าง 6-8 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอกพื้นสีเหลืองหม่น มีประสีน้ำตาล แกมม่วงกระจายทั่วกลีบ กลีบปาก สีเหลืองอมน้ำตาล ในแต่ละช่อดอก มีดอกได้มากถึง 50 ดอก ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คนโบราณเชื่อว่า ว่านเพชรหึงมีสรรพคุณรักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน และรักษาอาการไอเจ็บคอ จึงมีการใช้คำว่า ว่าน นำหน้าชื่อกล้วยไม้ชนิดนี้ ผู้สนใจสามารถสัมผัสความสวยงามของกล้วยไม้ว่านเพชรหึง ที่ชูช่อ ออกดอก ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ท่ามกลางสีสันแห่งป่าธรรมชาติที่
สวัสดีปีใหม่ 2025 หลายคนคงกำลังมองหาวิธีเสริมดวงและโชคลาภให้ชีวิตเต็มไปด้วยความรุ่งเรือง ต้นไม้มงคลเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยเสริมพลังบวกให้กับบ้านและที่ทำงานได้ วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านรวม 6 ต้นไม้มงคลที่เหมาะกับการปลูกเพื่อเสริมดวงรับปีใหม่มาฝาก จะมีชนิดไหนบ้างตามไปดูกันเลย 1. กวักมรกต ต้นไม้ยอดนิยมที่เชื่อว่าช่วยดึงดูดโชคลาภและเงินทอง กวักมรกตมีใบสีเขียวเข้มแวววาว สวยงาม ปลูกง่ายและทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้มาก แนะนำให้วางไว้ในห้องรับแขกหรือมุมที่มีแสงรำไร อีกทั้งยังเชื่ออีกว่า หากปลูกแล้วออกดอก จะยิ่งส่งเสริมโชคลาภ มีความร่ำรวยยิ่งขึ้น อีกด้วย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zamioculcas zamiifolia (Lodd.) Engl. คำว่า “กวัก” หมายถึง การเรียกให้เข้ามาหา ส่วนคำว่า “มรกต” หมายถึง หินมีค่าสีเขียวอันเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง โชคลาภ และความสุข ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าการปลูกกวักมรกตจะช่วยกวักโชคลาภ เงินทอง และความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาสู่ผู้ปลูก ประโยชน์ของกวักมรกต ช่วยฟอกอากาศภายในห้อง ดูดซับสารพิษ เช่น เบนซิน โทลูอีน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไซลีน ช่วยดูดความชื้นในอากาศ ช่วยเพิ่มความชื้นในอาก
ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีประเพณีที่งดงาม ในหลายภูมิภาคมีเรื่องของความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป พร้อมทั้งการกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์และปูชนียสถานเป็นสิ่งที่อยู่คู่สังคมมาอย่างช้านาน ซึ่งดอกไม้ถือเป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้สำหรับการบูชา จึงทำให้ในทุกพื้นที่ในหลายจังหวัดมีการปลูกไม้ตัดดอกกันอย่างกว้างขว้าง เพื่อให้มีเพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่มีอย่างต่อเนื่อง ดอกบัว เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบพิธีต่างๆ โดยเฉพาะบัวฉัตร เพราะด้วยรูปทรงและดอกที่ตูมสวยกำลังดีไม่ใหญ่เกินไป ทำให้สามารถนำมาพับหรือจัดเป็นช่อกำได้สวย จึงทำให้บัวฉัตรเป็นอีกหนึ่งผลผลิตทางการเกษตรที่น่าสนใจ ส่งผลให้เกษตรกรในหลายพื้นที่มีการปลูกเป็นอาชีพ เพื่อส่งขายให้ทันกับความต้องการของตลาด อย่างเช่น คุณโยธิน ลาภมูล หรือที่ทุกคนรู้จักกัน เขาในชื่อ คุณโย เจ้าของสวนกรรณนิกานาบัว จากวิศวกรหนุ่ม มุ่งสู่ชีวิตเกษตรกร คุณโย เล่าว่า ช่วงที่โควิด-19 ระบาดใหม่ๆ ทำให้เกิดความคิดที่อยากจะกลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอน เพื่อดูแลคุณพ่อคุณแม่อย่างใกล้ชิด ด้วยอาชีพของครอบครัวแต่เดิมทำสวนดอกไม้สำหรับกำไว้บูชาไหว้พระ ท
“ชวนชม” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Adenium obesum เป็นไม้ที่จัดอยู่ในวงศ์ Apocynaceae ลักษณะของลำต้นเป็นสีเขียว มีความสูงมากไปถึง 6 ฟุต ในส่วนของใบมีลักษณะแข็ง ผิวใบมีลักษณะที่เงามีเส้นเดินกลางใบที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ไม้ชนิดนี้นอกจากจะปลูกเป็นไม้ประดับแล้ว ยังมีการจัดทรงต้นและรากที่มีเอกลักษณ์พิเศษ นอกจากตั้งโชว์ภายในบ้านเรือน ยังมีการจัดงานประกวดกันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เวทีการประกวดเป็นช่องทางให้ผู้สนใจรายใหม่ได้เข้ามาศึกษาการปลูกและการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง คุณเรณู แฝงสุธา อยู่บ้านเลขที่ 223/241 หมู่ที่ 1 ตำบลชะแมบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอีกหนึ่งท่านที่ชื่นชอบการปลูกชวนชม โดยสายพันธุ์ที่เธอพัฒนาจะเป็นชวนชมเขาแกะเป็นหลัก โดยพัฒนาลูกไม้ใหม่อยู่เสมอ พร้อมมีการทำรากใหม่ให้กับไม้ จึงทำให้ชวนชมภายในสวนโดดเด่นมีเอกลักษณ์ จึงทำให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเข้ามาติดต่อซื้ออยู่เสมอ จากพนักงานบริษัท ผันตัวเข้าสู่วงการชวนชม คุณเรณู เล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกทำงานบริษัท แต่ด้วยความชอบในชวนชม ในระหว่างนั้นจึงหาซื้อเข้ามาปลูกอยู่เป็นระยะ แต่เมื่อเวลาผ่านมาเรื่อยๆ ไม้ที่เก็บสะสมได้ท
คัดเค้า จัดอยู่ในพันธุ์ไม้ดอกหอม ให้กลิ่นหอมแรงในตอนกลางคืน ถิ่นกำเนิดอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระจายพันธุ์ถึงอาฟริกาเขตร้อน นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป การปลูกคัดเค้าให้สวยงามต้องคอยตัดแต่งทรงพุ่มสม่ำเสมอ เนื่องจากเป็นไม้ที่มีการแตกกิ่งก้านสาขามาก และไม่มีรูปทรงที่แน่นอน มีคุณค่าทางสมุนไพร ลำต้น มีรสเฝื่อนฝาด แก้เสมหะ แก้ไข้ เปลือกต้น รสฝาด ปิดธาตุแก้เสมหะ แก้โลหิตซ่าน ส่วนใบ มีรสเฝื่อนเมา ดอก รสขมหอม แก้โลหิตในกองกำเดา ด้านผล มีรสเฝื่อนปร่า ขับโลหิตประจำเดือนเสีย บำรุงโลหิต บำรุงผิวให้ผ่องใส และราก มีรสฝาด แก้ไข้ แก้ท้องเสีย แก้เลือดออกตามไรฟัน คัดเค้า มากคุณค่า นอกจากนี้ ดอกสวย มีกลิ่นหอมแล้ว คัดเค้ายังมีข้อดีอื่นๆ ได้แก่ 1.เป็นพันธุ์ไม้ที่มีหนามแหลมคมมาก สามารถใช้ปลูกเป็นแถวเพื่อทำรั้วป้องกันคนหรือสัตว์ผ่านได้ 2.ดอกมีกลิ่นหอมแรงและออกดอกพร้อมๆ กันเกือบทั้งต้น เวลาออกดอกจะสวยงามมาก 3.ต้องการน้ำไม่มากในการเจริญเติบโต 4.เป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกได้ดีทั้งที่มีแดดจัดเต็มวัน และแดดปานกลาง (ครึ่งวัน) ได้ดีชนิดหนึ่ง. ………….. ชื่ออื่นๆ:
ต้องเล่าก่อนว่า ธุรกิจด้านการเกษตรทุกวันนี้มีหลากหลาย แต่การปลูกดอกไม้กินได้ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากทุกวันนี้ในบ้านเรามีการเติบโตของคาเฟ่ และร้านอาหารเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก การที่เป็นเกษตรกรขายดอกไม้กินได้ให้กับคาเฟ่ ร้านอาหาร และโรงแรมที่ต้องการนำดอกไม้ไปประดับตกแต่งกับอาหารให้ดูน่ากินมากขึ้น คุณแขก-กรฎา รำพึงวงษ์ เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในการปลูกดอกไม้กินได้ส่งขายตามโรงแรมและร้านอาหาร โดยเริ่มต้นจากการที่จบวิชาจัดการทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณแขกถือเป็นรุ่นแรกที่ทางมหาวิทยาลัยมีโครงการฝึกเป็นเกษตรกร โดยมีให้เลือกพื้นที่ในแต่ละจังหวัด คุณแขกได้เลือกพื้นที่ของอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ในการเริ่มฝึกในครั้งนี้ โดยพื้นดินที่เหมาะจะปลูกจะเป็นประเภทพืชสวนครัว จุดเริ่มต้นของอาชีพทางการเกษตร คุณแขก เล่าว่า เริ่มจากการที่คิดว่าพื้นที่ 2 ไร่ ไม่พอสำหรับการทำธุรกิจด้านการเกษตร เลยได้เริ่มลงทุนเช่าพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เพื่อทำการผลิตผัก และต่อมาได้เริ่มจ้างแรงงานเข้ามาช่วย แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ โชคดีที่ยังมีครอบครัวเข้าใจและสนับสนุนให้กำลังใจอยู่เ
รักเร่ (ภาคกลาง) ชื่อสามัญ Dahlia ชื่อวิทยาศาสตร์ Dahlia pinnata Cavanilles วงศ์ COMPOSITAE ถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกากลาง รักเร่ จัดอยู่ในกลุ่มของไม้ดอกที่มีความสวยเป็นอมตะ เริ่มตั้งแต่ ความงามของกลีบดอกที่มีทั้งกลีบหลอด กลีบซ้อน กลีบเดี่ยว สีสันของดอกก็ละลานตา ก้านดอกแข็งแรง ทนทาน จึงเป็นไม้ดอกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในต่างประเทศ นิยมปลูกรักเร่เป็นไม้ประดับสวน มีดอกชูช่ออวดสีสันหลากหลายสี สวยงามประทับใจแบบไม่รู้ลืมเลยทีเดียว ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นพรรณไม้ล้มลุก มีหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นตรง ใบ : ใบประกอบออกตรงข้ามกัน ใบย่อยสีเขียวเข้ม ตรงปลายใบจะแหลม ขอบใบจักเป็นซี่ฟันแกมฟันเลื่อย ดอก : ดอกช่อแบบเดียวกับเบญจมาศและทานตะวัน มีสีเกือบทุกสี เช่น ม่วง แดง ชมพู ส้ม เหลือง ขาว หรือมี 2 สี ในดอกเดียวกัน ผล : ผลแห้งจะมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน แบน มีผิวเกลี้ยง เมล็ด : มีลักษณะเป็นรูปไข่ การขยายพันธุ์ รักเร่ สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง ต่อกิ่ง ใช้ราก ต้นจะโทรมเมื่อดอกบานเต็มที่แล้ว แต่จะมีรากที่เป็นหัวในดิน ขุดและชำเพื่อให้เจริญเป็นต้นกล้
ดาหลา เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดบริเวณป่าร้อนชื้น นิยมปลูกมากในภาคใต้ของประเทศไทย ดาหลาถือเป็นดอกไม้ที่อยู่คู่กับคนไทยมาเป็นระยะเวลานาน เช่น หลักฐานจากวรรณคดีเรืองลิลิตพระลอ ถูกแต่งขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นต้น ปัจจุบันสามารถพบดาหลาได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย สามารถพบได้ทั้งในธรรมชาติ และพบตามอาคารบ้านเรือน สวนสาธารณะ หรือการปลูกเพื่อจำหน่าย แต่จะพบได้มากทางภาคใต้ เพราะคนในภาคใต้นำดาหลามาใช้ประโยชน์มาตั้งแต่ในอดีตแล้ว เพราะด้วยสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย เช่น ใช้ขับลม แก้ปวดหัว ต้านมะเร็ง โรคเกาต์ ดาหลาจัดเป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน เหง้านี้จะเป็นบริเวณที่เกิดของหน่อดอก และหน่อต้น ส่วนลำต้นเหนือดินเป็นกาบใบที่โอบซ้อนกันแน่นคล้ายข่า เรียกว่าลำต้นเทียม โดยลำต้นเทียมที่อยู่เหนือดินจะมีสีเขียวเข้มสูงประมาณ 2-5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวมีลักษณะคล้ายใบข่า เป็นรูปทรงยาวเรียว ไม่มีก้านใบ ใบเป็นสีเขียวเข้มเป็นมันผิวใบเกลี้ยง ดอกออกเป็นดอกเดี่ยวเป็นช่องอกขึ้นจากเหง้าใต้ดิน ส่วนกลีบดอกจะหนา ผิวเรียบเป็นมันวาวคล้ายพลาสติก กลีบดอกด้านนอกมีขนาดใหญ่ แล้วค่อยๆ ลดขนาดลงเข้าสู่ด้านใน ตรงศูนย