กข.43
เกษตรอำเภอเกาะยาว ขอเชิญชาวนทุกท่านมอบข้าวใหม่ ปลอดภัย มีไอโอดีน แทนใจสู่คนที่รัก เป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อให้คนที่รักมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรค อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นการสร้างบุญกุศลอีกทางหนึ่ง ทำให้เกษตรกรมีกำลังใจในการประกอบอาชีพการเกษตร ผลิตอาหารที่ปลอดภัยให้พวกเราตลอดไป นางอุษณี เจียมรา เกษตรอำเภอเกาะยาว กล่าวว่า ช่วงนี้อำเภอเกาะยาวเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมาก มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ เนื่องจากอำเภอเกาะยาว มีทรัพยากรธรรมชาติที่สะอาด สวยงาม ทั้งทางบกและทางทะเล กลางทะเลอันดามัน อีกทั้งคนมีอัธยาศัยดียิ้มแย้มแจ่มใส ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวเหมือนญาติพี่น้อง เป็นเสน่ห์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแล้วให้กลับมาเยือนเกาะยาวอีก นอกจากนี้ ยังมีอาหารปลอดภัยโดยเฉพาะนาข้าวอินทรีย์ ที่อยู่ในช่วงระยะเก็บเกี่ยวในพื้นที่หลายร้อยไร่ กำลังเป็นทุ่งสีทองสุดสายตา ทำให้นึกถึงเพลงของ หยาด นภาลัย อดีตศิลปินนักร้องชื่อดังในอดีต “ทุ่งเอ๋ยทุ่งรวงทอง เห็นข้าวออกรวงน่ามอง ดุจแสงทองสีแห่งศรัทธา…” ซึ่งข
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ข้าว กข 43 เป็นข้าวพันธุ์ใหม่ที่น่าสนใจ เพราะมีอายุสั้นเพียง 95 วัน ทนทานต่อโรคใบไหม้และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เป็นข้าวเจ้าที่ผสมระหว่างข้าวสุพรรณบุรี กับสุพรรณบุรี 1 มีการรับรองพันธุ์ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2552 มีการปลูกกันมากที่จังหวัดสุพรรณบุรี คุณสมบัติพิเศษคือ ปริมาณน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ จากการลงพื้นที่ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ (สศท.1) เพื่อศึกษาพืชทางเลือกในพื้นที่จังหวัดลำพูน พบว่า นายสุพจน์ ป้อมชัย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดลำพูน ได้นำพาเกษตรกรในชุมชนบ้านหนองสะลีก ต.ปากบ่อง อ.ป่าซาง จำนวน 7 ราย ปลูกข้าว กข 43 ในพื้นที่ 120 ไร่ โดยเริ่มช่วงฤดูฝนในปี 2561 ปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าว กข 43 แทนการปลูกข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง 1 ซึ่งปลูกมาหลายปี ปรากฏว่า ข้าว กข 43 ได้รับผลผลิตข้าวเปลือกเฉลี่ย 820 กก./ไร่ (คิดเป็น 459 กก.ข้าวสาร) ซึ่งผลผลิตสูงสุดสามารถผลิตข้าวเปลือกได้ถึง 1,060 กก. รวมผลผลิตทั้งหมด 98 ตันข้าวเปลือก ในพื้นท