กล้วยทอด
กล้วย เป็นผลไม้ที่คนไทยรู้จักมานาน เป็นผลไม้ที่ให้ประโยชน์มากมาย เป็นผลให้มีการปลูกอย่างแพร่หลายทั่วทุกภาคของประเทศ บ้างปลูกไว้กินภายในครัวเรือน บ้างปลูกไว้ขาย ทำเป็นธุรกิจ สำหรับผู้ที่บริโภคกล้วย ส่วนใหญ่จะบริโภคเป็นผลสุก เพราะได้รสชาติของกล้วยและวิตามินสูง หากกล้วยออกจำนวนมากแล้วไม่มีวิธีถนอมอาหาร ก็จะทำให้เน่าเสีย ด้วยภูมิปัญญาไทย ทางพ่อค้าแม่ค้าสมัยก่อน จึงได้เริ่มนำกล้วยมาแปรรูป เช่น การนำกล้วยมาทำเป็นกล้วยฉาบ กล้วยทอด กล้วยเชื่อม หรือ กล้วยกวน ซึ่งเป็นวิธีถนอมอาหารไว้กินได้นานหลายเดือน คุณนงนุช ปัญญา หรือป้านุช อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านกลับ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เป็นผู้ที่ทำกล้วยฉาบอร่อย รสชาติดี เป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดก็ว่าได้ เพราะมีลูกค้ามารอคิวซื้อกล้วยฉาบของป้านุชจำนวนมาก บ้างก็รับไปจำหน่ายต่อ ด้วยราคาที่ไม่แพง ป้านุช เล่าว่า ปัจจุบันนี้ กล้วยฉาบ ได้มีขายตามท้องตลาดและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่การทำกล้วยฉาบให้อร่อยนั้น ต้องมีวิธีที่พิถีพิถัน ใส่ใจในการทำทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกกล้วยที่ใช้ทำ ส่วนใหญ่แล้วมักเลือกกล้วยน้ำว้า เพราะเป็นกล้วยที่หา
เมื่อก่อนกล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่ราคาถูกมาก เรียกว่าไม่มีราคา แต่มีค่า มีค่าที่เป็นอาหารของเด็ก กล้วยน้ำว้างอมๆ ขูดๆ ให้กินเป็นอาหาร เริ่มจากกินนมแม่แล้วก็กินกล้วยน้ำว้าขูด แต่เดี๋ยวนี้กล้วยน้ำว้าเริ่มมีราคาและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ที่นี่มีกล้วยน้ำว้าจำนวนมาก ไม่มีกล้วยอย่างอื่นเลย มันถูกปลูกไว้ก่อนแล้วโดยใครที่เราไม่รู้ นับว่าได้กินผลทันทีที่เข้ามาอยู่ มีแม่ค้าขายขนมจ๊อก ข้าวต้มมัดที่ตลาดนัดวันศุกร์มาซื้อใบกล้วยไปทำขนม เขามาตัดเอง ไม่ใช่แค่กินและขาย แต่แค่มีกล้วยก็ได้ทำบุญแล้ววันพระใหญ่ออกพรรษาที่ผ่านมา มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาบอกว่า “วันพระใหญ่ขอใบตองทำขนมไปวัดสักหน่อย” “ได้เลยค่ะ ได้เลย ตัดเอาตามสบาย วันพระใหญ่วันออกพรรษาใช่ไหม” “ใช่ พรุ่งนี้วันดา” วันดา หมายถึงวันเตรียมของสำหรับทำบุญนั่นเอง คิดในใจยิ้มๆ ว่า ไม่ได้ไปวัดแต่ให้ใบตองเขาไปทำขนมไปวัดก็เป็นสิ่งดีๆ หรือไม่ก็ได้บุญไปด้วย แอบสาธุในใจ อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งยิ้มขำ ฉันก็เป็นคนทำบุญเหมือนกัน แต่ไม่นิยมทำบุญวันพระใหญ่หรือวันที่มีประเพณีพิธีกรรมที่มีคนไปทำกันเยอะๆ นิยมทำในวันธรรมดาที่ไม่ค่อยมีใครมากนัก นี่เป็นความคิดความชอบส่วนตัว
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอดีตเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ลาออกจากงานเปลี่ยนอาชีพใหม่ ปลูกยางพาราช่วงฝนตกกรีดยางไม่ได้ รายได้หดหาย แต่ไม่ยอมหยุดนิ่ง ได้หันมาเปิดร้านขายกล้วยทอด แต่ขายไม่เหมือนคนอื่นที่ขายกล้วยทอดนับชิ้น หันมาใช้วิธีชั่งกิโลแทน อยู่ริมถนนสุขุมวิท โค้งจินตหรา บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 250 หมู่ 6 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง นางมุกดา อ่อนสุวรรณ อายุ 50 ปี แม่ค้าขายกล้วยทอด เปิดเผยว่า อดีตทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรีมานาน 20 ปี จึงลาออกจากงานเพื่อกลับมาดูแลบิดามารดาที่บ้านเกิด ซึ่งมีอาชีพทำสวนผลไม้และ ปลูกยางพารา ช่วงนี้มีฝนตกบ่อยกรีดยางไม่ได้ จึงคิดจะหาอาชีพเสริมรายได้ให้กับครอบครัว จึงหันมาขายกล้วยทอด โดยดูวิธีการทำทางอินเตอร์เน็ตและถามคนที่เคยกล้วยทอดมาก่อนจากนั้นก็ได้ทดลองทำกล้วยทอดกินกันเอง โดยชวนเพื่อนบ้านมาชิมรสชาดกล้วยทอด หลายคนบอกว่าใช้ได้ จึงเริ่มกางเต้นท์เล็กๆริมถนนขายกล้วยทอดได้ประมาณ 3 สัปดาห์มาแล้ว นางมุกดา กล่าวว่าได้ดัดแปลงการขายด้วยการให้ลูกค้าเลือกหยิบเอง บางคนชอบนิ่มๆ บางคนชอบแข็ง ซึ่งมีทั้งชิ้นเล็กและใหญ
คุณบุญชุบ สุวรรณฉวี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านปราโมทย์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เล่าให้ฟังว่า มีอาชีพขายกล้วยทอดมาทั้งแต่สมัยรุ่นคุณแม่ โดยในช่วงนั้นเธอก็ได้มาเรียนรู้วิธีการทำตั้งแต่อายุ 15 ปี ก็เกิดความชำนาญสามารถช่วยกิจการงานที่บ้านได้ จนต่อมาเธอจึงได้ยึดอาชีพขายกล้วยทอดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา “เราก็ช่วยแม่ก่อนตอนนั้น เรียกว่าช่วยแม่ขายมาตลอดทุกวัน ก็ได้เรียนรู้วิธีการทำกล้วยทอดจากแม่แบบดังเดิมเลย ต่อมาพอแม่เสียชีวิต ก็ไม่คิดที่จะเลิกขายกล้วยทอดก็ยังขายอยู่ เพราะสูตรนี้ยังมีคนชอบกิน เรียกว่าขายมาตลอดจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบ 50 ปีแล้ว ที่ขายอยู่ที่ตรงนี้” คุณบุญชุบ เล่าถึงที่มา กล้วยที่ใช้ทอดขายให้กับลูกค้านั้น คุณบุญชุบ บอกว่า จะเลือกกล้วยน้ำว้าสวนที่ปลูกในพื้นที่ โดยที่กล้วยน้ำว้าสวนมีความพิเศษคือมีรสชาติที่อร่อย กล้วยที่เลือกมาทำกล้วยทอดจะเลือกกล้วยที่แก่พอดี ไม่สุกและไม่อ่อนมีอายุตามที่กำหนด ซึ่งกล้วยน้ำว้าที่นำมาทอดจากสวนสามารถขายได้ถึงวันละ 600 ผลกันเลยทีเดียว เมื่อได้กล้วยที่มีลักษณะตามที่ต้องการจะนำมาปลอกเปลือกออก จากนั้นผ่ากล้วยน้ำว้าตามแนวยาวผล ให้มีลัก
ดูเหมือนจะดังเพียงข้ามเดือนสำหรับร้านกล้วยทอดของเจ๊วันดี แห่งวัดไร่ขิง นครปฐม ภายหลังที่ลงในสัมภาษณ์ในนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านได้ไม่นาน ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งรายการโทรทัศน์ต่างรุมเข้าหา จากร้านแผงลอยเล็กๆ ย้ายเข้าไปขายในเต้นท์ กระทั่งโด่งดังเป็นที่รู้จักทำให้มีลูกค้าเดินทางไปซื้อกันอย่างเนืองแน่น คับคั่ง ถึงกับต้องแจกบัตรคิว เดือดร้อนท่านเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เลยตัดสินใจให้ย้ายร้านออกมาขายภายในห้องแถวริมถนน เจ๊วันดี หรือ คุณวันดี ละมูลเจริญ ประกอบอาชีพขายกล้วยทอดและขนมไทยหลายชนิดร่วมกับคุณสมเกียรติ อินทรนวล ผู้เป็นสามี ที่บริเวณหน้าวัดไร่ขิงมานานกว่า 20 ปี พร้อมกับสร้างแบรนด์แล้วชูสโลแกนกล้วยทอดของร้านตัวเองว่า กล้วยทอด(ยอดอร่อย) “เจ๊วันดี”แป้งกรอบนอก เนื้อนุ่มใน กล้วยน้ำว้าที่คุณวันดีใช้เป็นกล้วยน้ำว้าดิบไม่จำกัดพันธุ์ใช้ได้ทั้งหมด มีทั้งไส้สีเหลืองและสีขาว ทั้งดิบ/สุกแต่ถ้าเป็นกล้วยสุกแล้วหรือกลัวจะสุกเร็วจะแช่เย็นไว้ในถังเพื่อให้ความเย็นควบคุมไม่ให้กล้วยสุกเร็วหรืองอมจนเกินไป โดยสั่งกล้วยมาจากสวนหลายแห่งและใช้กล้วยเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 20 หวี แต่หากบางคราวกล้วยไม่พอจะสั่งซื้อเพิ่มเติมมา