กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)
กอนช. ถกเข้มแผนบริหารจัดการน้ำปี 67 เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้งแบบเชิงรุก คาดครึ่งปีแรกฝนน้อยจากอิทธิพลเอลนีโญ สั่งเกาะติดฝนรายเดือนพร้อมปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ย้ำทุกหน่วยอย่าประมาทสงวนน้ำให้มากที่สุด ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า จากอิทธิพลของสถานการณ์เอลนีโญทำให้ประเทศไทยมีภาพรวมปริมาณฝนทั้งประเทศต่ำกว่าค่าปกติอยู่มาก และคาดการณ์ในครึ่งปีแรกจะมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติค่อนข้างมาก โดยมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่ต้องเฝ้าระวังน้ำน้อยอยู่ 98 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือถึง 40 แห่ง ภาคเหนือ 25 แห่ง ภาคตะวันออก 13 แห่ง ภาคตะวันตก 9 แห่ง ภาคกลาง 7 แห่ง รวมถึงภาคใต้ที่แม้ในภาพรวมจะมีปริมาณฝนค่อนข้างมาก แต่เนื่องจากภาคใต้ตอนบนและตอนกลางยังคงมีฝนตกน้อย ทำให้มีแหล่งน้ำเฝ้าระวังน้ำน้อย 4 แห่ง โดยขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/67 ทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้มีการรักษาปริมาณน้ำต้นทุนไว้ให้มากที่สุดโดยไม่ป
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าจะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 3-5 ธันวาคม 2565 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง กอนช. ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ในช่วงวันที่ 2-6 ธันวาคม 2565 ดังนี้ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง บริเวณ จังหวัดระนอง (อำเภอละอุ่น) จังหวัดชุมพร (อำเภอปะทิว เมืองชุมพร สวี ทุ่งตะโก หลังสวน ละแม ท่าแซะ และพะโต๊ะ) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอถลาง และเมืองภูเก็ต) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอกาญจนดิษฐ์ เกาะพะงัน เกาะสมุย และดอนสัก) จังหวัดพังงา (อำเภอคุระบุรี ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง) จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม และสิช
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนภาคใต้แล้ว โครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างในเขตสำนักงานชลประทานที่ 17 (ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและสถานการณ์น้ำหลาก ตามแผนรับมืออุทกภัยปี 2565 ของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการ กอนช. โดยสำนักงานชลประทานที่ 17 ได้เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือ การกำหนดตัวบุคคลรับผิดชอบ กำหนดพื้นที่เสี่ยง รวม 32 แห่ง การตรวจสอบอาคารชลประทานในพื้นที่รับผิดชอบให้มีสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงการนำมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลาก จาก 13 มาตรการ สู่ 4 แนวทางปฏิบัติ ได้แก่ คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง ระบบชลประทานเร่งระบาย และ Stand by เครื่องมือเครื่องจักร มาใช้เพื่อเตรียมสถานการณ์ในช่วงฤดูฝน ปัจจุบันโครงการชลประทานในสังกัดสำนักงานชลประทานที่ 17 ได้เตรียมความพร้อม ดังนี้ # โครงการชลประทานปัตตานี ได้จัดเตรียมกระสอบทราย เพื่อใช้ในการปิดท่อระบายน้ำ ณ บริเวณเขื่อนกันตลิ่ง จำนวน 100 กระสอบ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ณ บริเวณมัสยิด
วันนี้ (25 มกราคม 2565) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามมาตรการรองรับสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2564/65 และแผนบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา โดยมี นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ ณ อาคารศูนย์เรียนรู้และพัฒนาการท่องเที่ยว อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (25 มกราคม 2565) 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 13,252 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯ รวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 6,556 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 2,485 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณที่มีอย่างจำกัดจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเคร่งครัดให้เป็นไปตามแผน เพื่อให้มีน้ำเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภคต้องไม่ขาดแคลน สำหรับผลการเพาะปลูกข้าวนา
กรมชลประทาน ขอความร่วมมือเกษตรกรลุ่มน้ำเจ้าพระยาชะลอการทำนาปี หลังเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง และปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลดลงอย่างต่อเนื่อง ย้ำขอให้รอฝนตกชุกสม่ำเสมอและมีน้ำเพียงพอในพื้นที่ค่อยทำการเพาะปลูก พร้อมประสานกระทรวงมหาดไทย ประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้เกษตรกรและประชาชนทราบถึงสถานการณ์น้ำอย่างทั่วถึง ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล โดย ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นการด่วน เนื่องจากฝนทิ้งช่วงในช่วงเดือนพฤษภาคม และมิถุนายนที่ผ่านมา ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายว่าในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2564 ปริมาณฝนจะลดลง อีกทั้งปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนต่างๆ อยู่ในเกณฑ์น้อย จำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำในภาวะวิกฤตินี้ตามแผนการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 64 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกข้าวนาปีไปแล้ว ได้รับผลกระทบน้อ
กรมชลประทาน ยังคงเดินหน้ากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่องหลายพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ดำเนินการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำโดยเฉพาะผักตบชวาเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2564 นี้ ขณะนี้ยังคงเหลือการเก็บย่อยโดยใช้เรือกำจัดวัชพืชขนาดเล็ก เข้าไปดำเนินการเก็บผักตบชวาที่ตกค้างในพื้นที่ รวมไปถึงผักตบชวาที่ลอยมาตามกระแสน้ำ อาทิ ที่ จ.นนทบุรี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระยาบรรลือ ได้กำจัดวัชพืชและผักตบชวาบริเวณประตูระบายน้ำบางบัวทอง ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง ที่ จ.นครปฐม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมล นำเรือนวัตกรรมลงพื้นที่เก็บวัชพืช บริเวณคลองมหาสวัสดิ์ ต.มศาลายา อ.พุทธมณฑล ที่ จ.ปราจีนบุรี โครงการชลประทานปราจีนบุรี นำเรือกำจัดวัชพืช เข้ากำจัดผักตบชวา บริเวณบ้านคลองสารภี ต.บ้านสร้าง อ.บ