การเลี้ยงชันโรง
หากจะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะพืชที่ต้องการออกผล นอกจากการดูแลใส่ใจในพืชชนิดนั้นๆ แล้ว การผสมเกสรที่มีคุณภาพก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้ เพราะจะช่วยให้ผลผลิตที่ได้ออกผลผลิตดี ซึ่งแมลงที่ช่วยผสมเกสรให้กับพืชนั้นมีด้วยกันหลายชนิด แต่ที่นิยมเลี้ยงและนำมาใช้ประโยชน์นั้นก็คือผึ้งและชันโรง สำหรับมือใหม่ที่สนใจอยากจะเลี้ยงชันโรง ต้องเข้าใจก่อนว่าชันโรงนั้นมีประโยชน์อย่างไร และมีนิสัยอย่างไรบ้างก่อนที่จะเลี้ยงในพื้นที่บริเวณบ้าน ชันโรงเป็นแมลงที่มีอยู่ในธรรมชาติและบางครั้งก็อยู่ตามบ้านเรือน คนสมัยก่อนไม่ชอบชันโรงมากนักเพราะมักจะสร้างรังตามบ้าน ทำให้ยางจากรังที่ได้จากรังชันโรงทำให้บ้านเลอะเทอะ ปัจจุบันเริ่มมีเกษตรกรและผู้คนทั่วไปให้ความสนใจการเลี้ยงชันโรงมากขึ้น เพราะจะเห็นได้จากตามสื่อโซเชียลและการศึกษาข้อมูลต่างๆ ว่าชันโรงนั้นมีคุณค่าและคุณประโยชน์มากมาย ส่งผลให้เกิดการศึกษาเรียนรู้และศึกษาข้อมูลการเลี้ยงชันโรงมากขึ้น และที่เป็นสิ่งพิเศษของชันโรงเจ้าแมลงตัวเล็กๆ นี้เลยนั้นก็คือ ชันโรงไม่มีเหล็กใน จึงไม่สามารถต่อยได้เหมือนผึ้ง จึงเรียกแมลงนี้ว่า “ผึ้งจิ๋ว” ชันโรง หรือ เจ้าผึ้งจิ๋ว จะกิ
“ชันโรง” เป็นแมลงขนาดเล็กที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก มีอุปนิสัยชอบเก็บน้ำหวานและละอองเกสรดอกไม้เป็นอาหารคล้ายๆ กับผึ้ง ซึ่งชันโรงจะไม่เหมือนกับผึ้งตรงที่ไม่มีเหล็กในจึงไม่สามารถต่อยได้ หลายภูมิภาคของประเทศไทยสามารถพบชันโรงได้และมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป ภาคใต้เรียกชันโรงขนาดเล็กว่า อุงหรือแมลงโลม และชันโรงขนาดใหญ่ว่า อุงหมี ส่วนทางภาคตะวันตกเรียกว่า ตัวตุ้งติ้งหรือตัวติ้ง ภาคเหนือเรียกชันโรงที่มีขนาดเล็กว่า แมลงขี้ตึงหรือตัวขี้ตังนี แต่ถ้าเป็นชันโรงที่มีขนาดใหญ่เรียกว่า ขี้ย้าด้าหรือขี้ย้าแดง เรียกตามสีของลำตัว โครงสร้างภายในรังของชันโรงจะประกอบไปด้วย ปากทางเข้ารังที่หลายลักษณะ เช่น เป็นหลอดหรือปล่อง รูปปากแตรหรือมีรูเล็กๆ และมียางเหนียวๆ อยู่บริเวณปากทางเข้าออกรัง ชันโรงสามารถสร้างรังได้หลากหลายที่ ตั้งแต่โพรงลำต้นไม้ใหญ่ ในดินจอมปลวกหรือแม้แต่รอยแยกของบ้าน ซอกตึก กล่องไม้ต่างๆ ก็สามารถทำรังได้ด้วยเช่นกัน ภายในรังมีการสร้างห้องหรือที่เรียกอีกอย่างว่ากระเปาะ แบ่งแยกกันตามประโยชน์ใช้สอยคือ การสร้างกระเปาะเก็บเกสร กระเปาะสำหรับวางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน กระเปาะเก็บน้ำหวาน ซึ่งการสร้างในลักษณะน
ชาวเกาะลันตา รวมกลุ่มเลี้ยงชันโรง ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ชูน้ำผึ้งชันโรงคุณภาพ จากป่าที่มีความหลากหลายทางพันธุ์พืชและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชันโรงเป็นแมลงผสมเกสรชนิดหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับ การผสมเกสร ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งนอกจากมีประโยชน์ต่อการผลิตทางการเกษตรแล้ว ชันโรง ยังสามารถเลี้ยงเพื่อเก็บเกี่ยวน้ำผึ้ง สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย ดังเช่น เกษตรกรตำบลคลองยาง อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ที่เลี้ยงชันโรงเป็นอาชีพเสริม ขยายจากกลุ่มผู้เลี้ยงรายย่อยกลุ่มแปลงใหญ่ที่เข้มแข็ง ก้าวสู่ตลาดท้องถิ่นและทั่วประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในปี 2567 สำนักงานเกษตรอำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ได้สนับสนุนให้เกษตรกรที่เลี้ยงชันโรงในตำบลคลองยาง อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ รวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ชันโรงตำบลคลองยาง ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ มีเกษตรกรผู้เลี้ยงชันโรงรายย่อยในพื้นที่ตำบลคลองยาง จำนวน 34 ราย เข้าร่วมโครงการ พื้นที่ดำเนินการครอบคลุม 320.75 ไร่ โดยมีกา
วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2565) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำสื่อมวลชน ลงพื้นที่ วิสาหกิจชุมชน อำเภอรัตภูมิ และอำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ดูความสำเร็จโครงการวิจัย “การพัฒนาชุมชนเพาะเลี้ยงชันโรงสู่การเป็นชุมชนนวัตกรรมอย่างยั่งยืนจังหวัดสงขลา” เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งชันโรง การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ การตลาด ตลอดจนผลักดันจากอาชีพเสริมสู่อาชีพหลัก สร้างรายได้มั่นคง ผศ.ดร.ปกรณ์ ลิ้มโยธิน คณบดีคณะรัฐศาสตร์ ในฐานะผู้อำนวยการแผนโครงการฯ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ มีองค์ความรู้ด้านการเลี้ยงผึ้งชันโรงอยู่แล้ว ผนวกกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนในพื้นที่ต่างๆ จากการทำงานวิจัย จึงได้นำองค์ความรู้ที่เรามีมาถ่ายทอดแก่เกษตรกร ตั้งแต่การเริ่มต้นเลี้ยง การเก็บผลผลิต การสร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ชุมชนสามารถสร้างอาชีพและรายได้ พร้อมผลักดันให้จังหวัดสงขลาเป็นเมืองแห่งชันโรง โดยพยายามจะลดความเหลื่อมล้ำของสังคมเมืองและสังคมชนบทให้ได้ ผศ.ดร.นุกูล ชิ้นฟัก ผู้ช่วยคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ในฐานะหัวหน้าโครงการย่อย เล่าว่า จากความสำเร็จ ภายใต้โครงการกา
“คุณออน” หรือ คุณนวลลออ เทอดเกียรติกุล อดีตมนุษย์เงินเดือน ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อก้าวเข้าสู่อาชีพเกษตรกรรมตามความใฝ่ฝัน แม้เธอไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องการทำเกษตรมาก่อน แต่เธอตั้งใจเรียนรู้การทำเกษตรจากหนังสือตำรา สืบค้นข้อมูลจากโลกอินเตอร์เน็ต และเข้าร่วมกิจกรรมด้านเกษตรต่างๆ กับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จัดการสวนมะพร้าวด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ คุณออน หรือ คุณนวลลออ เทอดเกียรติกุล ในฐานะผู้ก่อตั้งแบรนด์ “Aromatic Farm” ผู้ผลิตมะพร้าวน้ำหอมปลอดสารพิษ ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัยมาใช้ในกระบวนการเกษตรแบบครบวงจร บริหารจัดการสวนมะพร้าวด้วยผังการปลูกอัจฉริยะจัดสรรพื้นที่ 24 แปลง รวมเป็น 469 ต้น โดยแบ่งเป็น Zoning สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีแดง เพื่อความสะดวกในการดูแลจัดการ ตั้งแต่การเก็บเกี่ยว ตรวจสอบคุณภาพผลผลิตแต่ละต้น ในแต่ละแปลง หากพบปัญหาสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย จุดเด่นที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครของสวนมะพร้าวน้ำหอม “Aromatic Farm” ได้แก่ 1. ติดเครื่องหมาย QR CODE บนมะพร้าวทุกต้นในสวน เก็บข้อมูลมะพร้าวทุกต้น เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการดูแลต้นมะพร้าวอย่างเหมาะสม 2. ทำวิจัย ร่วมกับ