ของดีเบตง
ประเทศไทยของเราถือว่าเป็นดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีผลไม้นานาชนิดให้เลือกรับประทานตลอดทั้งปี ถ้าให้เลือกนึกถึงผลไม้ในประเทศไทย หลายๆ ท่านมักจะนึกถึงราชาและราชินีของผลไม้ไทยอย่าง “มังคุด” และ “ทุเรียน” เพราะด้วยรสชาติและเอกลักษณ์ หากใครได้ลิ้มลองรับรองต้องติดใจแทบทุกราย หากกล่าวถึง “ทุเรียน” เป็นผลไม้ที่มีเปลือกเป็นหนาม เนื้อสีเหลืองทอง กลิ่นมีเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัว ซึ่งราคาในการจำหน่ายทุเรียนนั้นจะมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะสายพันธุ์และขนาด ซึ่งถือว่าเป็นที่คุ้นเคยกันอย่างดีของคนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คำว่า ทุเรียน มาจากภาษามาลายู คือคำว่า duri ที่แปลว่า หนาม เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศบรูไน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นที่รู้จักในโลกตะวันตกมาประมาณ 600 ปีมาแล้ว ซึ่งในปีคริสต์ศตวรรษที่ 19 อัลเฟรด รัสเซล วอลเลซ นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ ได้พรรณนาถึงทุเรียนว่า “เนื้อในมันเหมือนคัสตาร์ดอย่างมาก รสชาติคล้ายอัลมอนด์” หากกล่าวถึงพื้นที่ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา หนึ่งสิ่งที่เป็นไฮไลต์สำคัญและเป็นมรดกล้ำค่าที่ชาวไทยและชาวมาเลย์ต่างตามหา คงหนีไม่พ้น “ทุเรียนยาวลิ้นจี่” แห่งส
เมื่อวันที่ 4 เมษายน นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานเปิดงานกิจกรรมเทศกาลอาหารและของดีเมืองเบตง บริเวณลานวัฒนธรรม เทศบาลเมืองเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จัดโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา ถึงวันที่ 7 เมษายน เน้นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ปลุกกระแสนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นสู่อาเซียน คาดมีผู้ร่วมงาน วันละ 5,000 คน นายกิจจา ไวชมพู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา เผยว่า ยะลาเล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยว และมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญ โดยเฉพาะอำเภอเบตง เพื่อเป็นการปลุกกระแสการท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ที่ดี รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้เมืองเบตงมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และทำให้อำเภอเบตง ที่มีความหลากหลายวัฒนธรรม สามารถขับเคลื่อนสู่การเป็นเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ต่อไป ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด