ข้าวหลาม
สาวไทยอยู่บ้านนอกอเมริกา ขายกระบอกไม้ไผ่ทำข้าวหลาม ขุดหน่อไม้ ได้แสนอัปต่อเดือน! เผยไม่คิดไม่ฝัน ออร์เดอร์ทะลักขายปังทั่วอเมริกา “ฝรั่ง งงตาแตกเลยสิคะ แบกพัสดุไปส่งไปรษณีย์ร้อยกว่ากล่อง เขาก็ถาม บีขายอะไร ทำธุรกิจอะไรของเธอ บีก็บอกขายกระบอกไม้ไผ่ทำข้าวหลาม เขาก็งง ทำตาค้าง อะไรนะ” คุณบี – สมฤดี แก้วมณีวงศ์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก บี อินเมกาชนบท สาวไทยจากจังหวัดสกลนคร ปัจจุบันอาศัยอยู่ในรัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกา สาวสวยผู้รักการค้าขายมาตั้งแต่อนุบาล ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Thai Story รีวิวชีวิตต่างแดน จากครูสถาปัตย์สู่ชาวสวนอเมริกา บีจบคณะสถาปัตย์มหาสารคาม เอกวิชาสถาปัตยกรรมเมืองและชุมชนค่ะ พอจบออกมาบีก็มาทํางานเป็นครูสอนอยู่ที่แผนกวิชาช่างโยธา วิทยาลัยเทคนิคสกลนครอยู่ 6 ปี บีแต่งงานกับสามีชาวอเมริกัน จากนั้นจึงย้ายมาอยู่ที่อเมริกา อยู่รัฐมิสซิสซิปปี เมืองบอร์ดวิน (Baldwyn) รัฐนี้ไม่ค่อยมีคนไทยนะคะ คนไทยอยู่น้อย คนแถวนี้เขาก็จะทําเกษตรกรรมทําฟาร์มเป็นหลักค่ะ ชนบทไทยvsอเมริกา ชนบทในอเมริกาโดยรวมบริบทก็ไม่ค่อยแตกต่างจากต่างจังหวัดที่ไทยมากเท่าไหร่ค่ะ ทั้งผู้คน วิถีชีวิตก็คล้ายกับที่เ
หกโมงเย็นครอบครัวส่วนใหญ่ล้อมวงรับประทานอาหาร จากนั้นดูละครหย่อนใจ เตรียมเข้านอน แต่ปราโมทย์ ทองสิงห์ เขาเริ่มทำงาน โดยบรรจุข้าวหลามใส่ท้ายรถมอเตอร์ไซค์ออกตระเวนขาย ผลิตภัณฑ์จะขายหมดก็เช้าวันใหม่ตีสองตีสาม การทำงานของคุณปราโมทย์เป็นอยู่อย่างนี้ คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นงานหนัก แต่สำหรับคุณปราโมทย์แล้วบอกว่าชิน งานที่ทำอยู่สร้างเงิน เขามีบ้านในต่างจังหวัด มีที่ดิน ได้ส่งเงินไปเลี้ยงดูปู่ย่าตายาย ที่สำคัญส่งลูกเรียนจบปริญญาตรี ถิ่นฐานบ้านเดิมของคุณปราโมทย์ อยู่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เมื่อแต่งงานกับ คุณฉวีวรรณ พวกเขาทำนา ว่างจากนาก็ทำงานก่อสร้างตามพี่ๆ น้องๆ คุณฉวีวรรณบอกว่า งานก่อสร้างทำได้ แต่ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ช่วงที่กำลังหางานเหมาะสมอยู่นั้น คนแถวชุมแพ ทำข้าวหลาม แล้วเช่าเหมารถมาขายกันแถวปิ่นเกล้า มานอนค้างขายกันจนหมดแล้วก็กลับไปทำกันใหม่ คุณปราโมทย์และคุณฉวีวรรณไปคุยกับญาติพี่น้อง เรื่องการทำข้าวหลาม ซึ่งก็ไม่ยาก จากนั้นจึงทำขาย แต่แทนที่จะทำอยู่ชุมแพ เขามาปักหลักเช่าบ้านอยู่ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม รวมระยะเวลาที่ทำข้าวหลาม ผ่านมานานถึง 16 ปีแล้ว ใช้ไม้ไผ่ข้าวหลามโดยต
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า ทุกเช้าของทุกๆวัน บริเวณสี่แยกป่าหมาก ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง บรรยากาศหอมตลบอบอวลของกลิ่นข้าวหลาม ที่ครอบครัวและเครือญาติพี่น้องของหนุ่มใหญ่เมืองตรัง ทำการหลามกันใหม่ ๆ ทำให้ผู้คนที่ขับรถผ่านไปผ่านมาต้องแวะซื้อไปชิม ลิ้มลอง และเป็นของฝากกันอย่างไม่ขาดสาย ในวันปกติจะหลามประมาณวันละ 200 กระบอก แต่หากเป็นช่วงเทศกาลจะหลามเพิ่มเป็น 2-3 เท่าตัว และจะขายหมดทุกวัน นายเพียร เมืองไทย หรือ โกเม่น อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/7 หมู่ 4 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง เจ้าของ ข้าวหลาม OTOPโกเม่นเจ้าเก่า สี่แยกป่าหมาก ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ประกอบอาชีพกรีดยางพารา ต่อมายางพาราราคาตกต่ำ จึงหันมาประกอบอาชีพทำข้าวหลามขาย ซึ่งตอนแรกก็ไม่มั่นใจมากนักว่าจะประคับประคองอาชีพนี้ได้นานแค่ไหน ตนเองและครอบครัวได้ยึดอาชีพทำข้าวหลามมาเรื่อย ๆ และเห็นว่าอาชีพขายข้าวหลามอยู่ได้ สามารถสร้างรายได้ดีกว่าทำสวนยางพารา จึงทำเรื่อยมาเป็นเวลา 10 กว่าปี แล้ว วัตถุดิบต่าง ๆ เช่น ไม้ไผ่ จะใช้ไม่ไผ่สีสุก ไผ่หวาน ซึ่งต้องเดินทางไปซื้อที่จังหวัดพัทลุงและสงขลา เนื่องจากจังหวัดตรังมีไม้ไผ่ไม่เพียงพอ ก