ครูบัญชีอาสา
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนทั่วโลก รวมถึงครัวเรือนภาคเกษตรไทย บางคนได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้างงาน รายได้ลดลง ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลงตามไปด้วย การปรับตัวโดยลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ปรับเปลี่ยนช่องทางการหารายได้ ที่สำคัญคือ การใช้ “บัญชี” เป็นภูมิคุ้มกัน ช่วยวางแผนการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ในครัวเรือน ตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นทางออกที่ช่วยให้เกษตรกรและประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างไม่ติดขัดภายใต้วิกฤตในครั้งนี้ ดังเช่นเกษตรกรตัวอย่างคือ นายไชยยา วิมูลชาติ เกษตรกรดีเด่นระดับภาค สาขาบัญชีฟาร์ม ประจำปี พ.ศ. 2564 เป็นเกษตรกรที่ปรับตัวให้อยู่รอดและสร้างความมั่นคงในอาชีพ โดยนำบัญชีมาใช้เป็นภูมิคุ้มกันในการประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิต นายไชยยา วิมูลชาติ เกษตรกรดีเด่นระดับภาค สาขาบัญชีฟาร์ม ประจำปี พ.ศ. 2564 จากตำบลไผ่หูช้าง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ตนเองประกอบอาชีพทำนาและเป็นประธานกลุ่มนาแปลงใหญ่ ตำบลไผ่หูช้าง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม รายได้ที่ได้มาก็นำไปใช้
“รจนา สีวันทา” เกษตรกรจากจังหวัดสุรินทร์ คว้ารางวัลเกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์มระดับภาค ปีพ.ศ. 2564 เผยเคล็ดลับความสำเร็จ ยึด “บัญชี” เป็นภูมิคุ้มกันความจน ใช้วิเคราะห์ และวางแผนการประกอบอาชีพลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ในครัวเรือน พร้อมเดินหน้าสร้างเครือข่ายถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชีสู่ชุมชน นางรจนา สีวันทา เกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์มระดับภาค ประจำปี พ.ศ.2564 ชาวตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ วัย 46ปี กล่าวว่า เริ่มต้นอาชีพทำนาโดยใช้ปุ๋ยเคมีมาตั้งแต่ปี 2539 ในระหว่างนั้นมีหนี้สิ้นนอกระบบอยู่หลายหมื่นบาทจนกระทั่งได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านบัญชีจากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์สุรินทร์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงเริ่มหันมาจดบันทึกบัญชีรับ – จ่ายในครัวเรือนและจดบันทึกต้นทุนในการทำนาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ทำให้รู้รายรับ รายจ่ายในครัวเรือนและต้นทุนในการทำนา จากเดิมที่ใช้ปุ๋ยเคมีซึ่งมีต้นทุนการผลิตสูง แต่ได้กำไรต่ำ จึงได้ปรับเปลี่ยนมาทำนาเกษตรอินทรีย์ ที่ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าและเป็นไปตามความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนปัญหาหนี้สิ้นที่เคยมี จากต้นทุนที่ลดลงทำให้มีกำไรมากขึ้น ทำ
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สนับสนุนและพัฒนาให้อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี หรือครูบัญชีอาสา เป็นตัวแทนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการทำหน้าที่สอนแนะและกระตุ้นการเรียนรู้และติดตามผลการจัดทำบัญชี เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปนำ “บัญชี” ไปใช้เป็นเครื่องมือนำทางให้ผู้ทำบัญชี รู้จักคิด รู้จักจ่าย รู้จักออม และเกิดแรงจูงใจที่จะปรับเปลี่ยนตนเองสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ก่อเกิดแนวคิดพัฒนาอาชีพ ทำให้รู้รายได้ รู้รายจ่าย มีเงินออม ก้าวสู่การดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ศุภธนิศร์ ภูเวียงจันทร์ ครูบัญชีดีเด่น ระดับภาค ประจำปี 2561 วัย 29 ปี จากตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นครูบัญชีรุ่นใหม่ที่ปฏิบัติงานเป็นครูบัญชีอาสาของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดยส่งเสริมการทำบัญชีให้เกษตรกรและชาวบ้านในชุมชนมาเป็นเวลากว่า 11 ปี เพื่อให้เกษตรกรและคนในชุมชนเห็นความสำคัญของการทำบัญชี ซึ่งประสบการณ์การสอนและติดตามการทำบัญชี ทำให้ทราบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นหนี้จากการทำการเกษตร ไม่สามารถชำระหนี้ได้ จึงมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะใช้บัญชี เป็นเครื่องมือ ปลดหนี้ให้เกษตรกร โดยคำนึงถึงหนี้เป็นหลั