ชาไทย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ชาเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจึงให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์และติดตามความพร้อมของเกษตรกรและผู้ประกอบการชา และผลิตภัณฑ์ชาของไทยในการเปิดตลาดภายใต้เอฟทีเอต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมฯ ได้เตรียมจัดสัมมนาและลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้ประกอบการชา ระหว่างวันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ 2562 ณ ไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย โดยการจัดงานสัมมนาและลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากการสัมมนาและลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจชา ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อมิถุนายน 2561 ทั้งนี้ ผลจากการลงพื้นที่ในครั้งดังกล่าว พบว่า เกษตรกรบางพื้นที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการผลิตชาให้ได้มาตรฐาน ขณะที่ผู้ประกอบการมีความต้องการชาคุณภาพจากเกษตรกร ในการสัมมนาและพบปะเกษตรกรที่ผ่านมา กรมฯ จึงได้พยายามเน้นเรื่องการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการผลิต การพัฒนาคุณภาพของใบชา ซึ่งมีผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ชา ที่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสำคัญ ส่วนการลงพื้นที่และจัดสัมมมนาในครั้งนี้ (20-21 กุมภาพันธ์ 25
กรมเจรจาฯ เผยเอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย ลดภาษีสินค้าชา 0% ปี”63 ไม่กระทบไทย มั่นใจเป็นโอกาสส่งออกชาไทยสดใส หวังภาครัฐช่วยหนุนนวัตกรรมแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่ความตกลงทางการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (เอฟทีเอ) กำหนดว่าจะทยอยลดภาษีนำเข้าชาจากปัจจุบันอัตราภาษี 4% ทยอยลดเหลือ 2% ในปี 2562 และเป็น 0% ในปี 2563 นั้น จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ผลิตชาในประเทศอย่างแน่นอน เนื่องจากออสเตรเลียไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตและส่งออกชา ส่วนผู้ส่งออกสำคัญของตลาดโลก คือ แคนาดา สหรัฐ และจีน ขณะที่การเปิดเสรีนี้น่าจะเป็นโอกาสในการขยายตลาดส่งออกชาและผลิตภัณฑ์ชา ของไทยมากขึ้น เพราะปัจจุบันที่ไทยส่งออกชาคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% บริโภคภายใน 30% โดยส่งออกไปยังตลาดหลักที่ประเทศอินโดนีเซีย กัมพูชา และจีน เป็นต้น แต่หากเปรียบเทียบแล้วไทยเป็นผู้ส่งออกรายเล็กมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 8% ของตลาดใบชาโลก จึงมีโอกาสที่จะส่งออกเพิ่มขึ้นได้อีกมาก “ในการลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อทำความเข้าใจกับเกษตรกรผู้ปลูกชาในพื้นที่ และติดตามปัญหา อุปสรรค ข้อกังวลที่เกี่ยวข้