ดอกหน้าวัว
ฝนชุก อากาศชื้นในช่วงระยะนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการปลูกหน้าวัว กรมวิชาการเกษตร แนะวิธีรับมือโรคเน่าดำที่เกิดจากเชื้อราไฟทอปธอร่า (Phytophthora parasitica) ให้เกษตรกรผู้ปลูกหน้าวัวเฝ้าระวังการเกิดโรค เพราะสามารถพบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของหน้าวัว มักพบแสดงอาการเริ่มแรกบนใบมีแผล ฉ่ำน้ำเล็กๆ ต่อมาแผลขยายลุกลามรวดเร็วเป็นแผลไหม้สีน้ำตาล แผลมีรูปร่างไม่แน่นอน และอาจพบอาการที่บนดอก ก้านดอก และหน่อ เชื้อราไฟทอปธอร่าสามารถเข้าทำลายที่รากและโคนต้น จะพบโคนต้นมีแผลช้ำ สีน้ำตาล ต่อมาขยายลุกลามไปที่ก้านใบและใบ ทำให้ก้านใบและใบเน่าหลุดจากต้นได้ง่าย รากเน่ามีสีดำ สำหรับการปลูกหน้าวัวฤดูถัดไป ควรเลือกใช้หน้าวัวพันธุ์ต้านทานโรคคุณภาพดีจากแหล่งปลอดโรค จากนั้นก่อนปลูกควรแช่ต้นพันธุ์ด้วยสารฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา 60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร และเลือกใช้วัสดุปลูกที่ไม่อุ้มน้ำจนชื้นแฉะมากเกินไป หลีกเลี่ยงการให้น้ำจนวัสดุปลูกชื้นแฉะ หมั่นเก็บวัสดุปลูกที่เสียหรือเน่าเปื่อยออกไปทิ้งนอกแปลงปลูก อีกทั้งควรปรับสภาพโรงเรือนให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ปลูกพืชหนาแน่นเกินไป และควรรักษาความสะอาดภายในโรงเรือนอย
ดอกหน้าวัว (Anthurium spp.) เป็นไม้ดอกเศรษฐกิจสำคัญ ที่นิยมใช้แพร่หลายในประเทศและส่งออก เพราะเป็นไม้ดอกที่มีหลากสีสันและหลายสายพันธุ์ ใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง และมีอายุการใช้งานได้นาน หน้าวัว เสริมรายได้ช่วงฤดูฝน-ราคายางตกต่ำ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส พบว่า เมื่อนำต้นหน้าวัวปลูกเป็นพืชร่วมในสวนยางพารา ดอกหน้าวัวสามารถเจริญเติบโตและออกดอกได้ดี จึงแนะนำให้เกษตรกร ปลูกเป็นพืชร่วมในสวนยางพารา เพื่อเสริมรายได้ในช่วงฤดูฝนที่มีจำนวนวันกรีดน้อยหรือในช่วงที่ราคายางตกต่ำ ธรรมชาติของหน้าวัว ดอกหน้าวัว เติบโตได้ดีในแหล่งปลูกที่มีร่มรำไร มีแสงแดดประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ และต้องการความชื้นสูง ทั้งนี้ แนะนำให้ปลูกในสวนยางพาราอายุประมาณ 10 ปีขึ้นไป ที่มีปริมาณแสงเพียงพอกับการเจริญเติบโตและออกดอกแล้ว ยังมีเวลายาวนานเพียงพอกับการลงทุน สายพันธุ์ที่แนะนำปลูก การปลูกหน้าวัวในสวนยางพารา ควรเลือกใช้สายพันธุ์ไทยที่ต้านทานโรคและทนทานต่อแสงแดด ได้แก่ เปลวเทียนภูเก็ต (สีชมพู) เปลวเทียนลำปาง (สีขาว) หน้าวัวผกามาศ (สีส้ม) และหน้าวัวดวงสมร (สีแดง) วิธีการปลูก ต้นดอกหน
ผู้สื่อข่าวสืบทราบว่ามีเกษตรกรในจังหวัดพัทลุง ปลูกดอกหน้าวัวขาย มีรายได้จำนวนมากเลี้ยงครอบครัว จึ่งเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยผู้สื่อข่าวพบกับ นายอธิคม ขุนแก้ว เกษตรกรวัย 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 426 หมู่ที่ 6 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สมาชิกยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง เกษตรกรผู้ปลูกดอกหน้าวัว นายอธิคม กล่าวว่า ดอกหน้าวัว เป็นไม้ตัดดอกที่นิยมปลูก และขายกันมากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ มีหลากหลายสี และมีสีสันสดใส ไม่เหี่ยวง่าย สามารถประดับได้นาน 15-20 วัน นิยมนำมาจัดแจกัน จัดซุ้มประดับตามโรงแรม จัดซุ้มประดับงานในวาระสำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นไม้ดอกที่ตลาดมีความต้องการสูง เป็นอาชีพที่น่าลองอีกอาชีพหนึ่ง ซึ่งตนได้ใช้พื้นที่ 100 ตารางวา ปลูกดอกหน้าวัวเมื่อปี 2558 จำนวน 500 ต้น โดยใช้พันธุ์ดวงสมร ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ทนทานต่อโรค นายอธิคม เล่าว่า การปลูกดอกหน้าวัวเป็นงานที่ไม่ยากและไม่ง่าย ถ้าคิดจะปลูกต้องมีใจรัก เริ่มแรกให้ปรับพื้นที่ให้เรียบ ปูพื้นด้วยทรายขี้เป็ด หนา 10 เซนติเมตร เนื่องจากทรายขี้เป็ดจะเป็นตัวเก็บความชื้นได้ดี ทำหลังคามุงด