ตลาดข้าว
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ ปัจจุบัน บ้านเรามีข้าวสารพัดสายพันธุ์ มีทั้งข้าวสีและข้าวขาว ที่น่าสนใจคือ ผมยังไม่เข้าใจความหมายของ ข้าวตลาดเฉพาะ ว่าเป็นข้าวชนิดไหน พันธุ์อะไร ขอให้คุณหมอเกษตรอธิบายให้เข้าใจด้วยครับ ผมขอขอบคุณมาในโอกาสนี้ ขอแสดงความนับถืออย่างสูง สุรัตน์ เพียนทองคำ นครนายก ตอบ คุณสุรัตน์ เพียนทองคำ ข้าวตลาดเฉพาะ (Rice in Niche Market) หมายถึง ข้าวที่มีระบบการผลิตให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสินค้า มีคุณลักษณะพิเศษ หรือมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นตลาดและผู้บริโภคเฉพาะ ข้าวชนิดดังกล่าวประกอบด้วย ข้าวอินทรีย์ (Organic Rice) : เป็นการผลิตข้าวที่เกื้อหนุนจากระบบนิเวศน์ และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยไม่มีการใช้สารเคมีทุกขั้นตอนการผลิต และการแปรรูป ข้าวผลิตตามแหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ Protected Goodraphic Indecation) : เป็นข้าวที่ผลิตโดยชุมชนที่มีลักษณะเฉพาะของพื้นที่ ทั้งสภาพดินฟ้า อากาศ วัตถุดิบ รวมทั้งการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สืบทอดกันมาใช้ในการเพาะปลูก หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากแหล่งอื่นๆ เช่น ข้าวพันธุ์เจ๊กเชย เสาไห้ ข้าวสังข์หยด เมืองพัทลุง หรือไข่เค็ม
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยตามข้อมูลใบอนุญาตส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 8 ส.ค. 2561 มีปริมาณส่งออก 6.79 ล้านตัน มูลค่า 3,425 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 108,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 2560 ที่มีปริมาณส่งออก 6.66 ล้านตัน มูลค่า 2,871 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 98,995 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.82% และ 9.85% ตามลำดับ โดยชนิดข้าวที่ไทยส่งออกมากเป็นอันดับ 1 คือ ข้าวขาว 51% รองลงมาได้แก่ ข้าวนึ่ง 25% และข้าวหอมมะลิไทย 16% ทั้งนี้ ในทุกตลาดสำคัญพบว่าปริมาณการส่งออกข้าวไทยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ รวมทั้งกลุ่มประเทศนำเข้าสำคัญในตลาดแอฟริกา ได้แก่ แอฟริกาใต้ แองโกลา เป็นต้น อย่างไรก็ดี สำหรับตลาดหลักข้าวหอมมะลิไทยพบว่ามีปริมาณการส่งออกลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว อาทิ ฮ่องกง และจีนเนื่องจากราคาข้าวหอมมะลิไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา สำหรับภาพรวมการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีตามความต้องการข้าวในตลาดหลักที่มีอย่
บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการบริหารสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจาก 6 พื้นที่ มาร่วมแลกเปลี่ยนและเพิ่มพูนความรู้ในด้านการทำเกษตรกรรมยุคใหม่ ในงาน “สานความร่วมมือของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืน” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกและจำหน่ายผลผลิตข้าวของวิสาหกิจชุมชนให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง โดยเน้นให้ความรู้แก่ชาวนาเพื่อพัฒนาจุดแข็ง สร้างเสริมเครือข่ายการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ มองหาโอกาสและช่องทางการตลาดใหม่ๆ ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อันจะช่วยสร้างรายได้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนนำไปสู่การกินดี อยู่ดี มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐด้านการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศ Smart Agricultural Curve เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ที่จัดขึ้นนี้เป็นการต่อยอดมาจาก โครงการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพโดยอินทัช ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 มีวิสาหกิจชุมชนและศูนย์การเรียนรู้ที่มาเข้าร่วมงาน ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกข้าวเพื่อสุขภาพบ้
กระทรวงเกษตรฯ กำหนดแผนการผลิตข้าว ปี 2561/62 จำนวน 70.42 ล้านไร่ ผลผลิต 33.422 ล้านตันข้าวเปลือก ตามกรอบเป้าหมายความต้องการใช้ข้าว ภายใต้ตลาดนำการผลิต (Demand Driven) จำนวน 30.42 ล้านตันข้าวเปลือก นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร (ด้านการผลิต) ณ กรมการข้าว ว่า จากมติที่ประชุมคณะทำงานวางแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้มีการเห็นชอบกรอบเป้าหมายความต้องการใช้ข้าว สำหรับการผลิต ปี 2561/62 ภายใต้ตลาดนำการผลิต (Demand Driven) จำนวน 30.42 ล้านตันข้าวเปลือก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว จึงได้กำหนดแผนการผลิตข้าว ปี 2561/62 ตามความต้องการใช้ข้าวดังกล่าว จำนวน 70.42 ล้านไร่ ผลผลิต 33.422 ล้านตันข้าวเปลือก แบ่งเป็น รอบที่ 1 จำนวน 58.21 ล้านไร่ ผลผลิต 25.336 ล้านตันข้าวเปลือก และรอบที่ 2 จำนวน 12.20 ล้านไร่ ผลผลิต 8.084 ล้านตันข้าวเปลือก นายลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบการกำหนดพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าว ปี 2561/62 รอบท
ตลาดข้าวไตรมาสแรกคึกคัก ไทยชนะประมูลอินโดนีเซีย 1.2 แสนตัน-มาเลเซีย 40,000 ตัน ดันราคาข้าวขยับ ปิดบัญชีส่งออกข้าวปี”60 ทะลุ 11.6 ล้านตัน “เอเซียโกลเด้นไรซ์” ครองเบอร์ 1 ด้าน “เมอร์รี่ไรซ์แลนด์” ลูก “อินดิก้า” ส่งออก 6 หมื่นตัน แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ตลาดส่งออกข้าวในไตรมาสแรกค่อนข้างคึกคัก มีมาเลเซียเปิดประมูลซื้อข้าวขาว 5% ไปแล้ว 40,000 ตัน ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2561 โดยมีบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลไป ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานจัดซื้อข้าวรัฐบาลอินโดนีเซีย (Bulog) ได้ประกาศซื้อข้าวขาว 5% และข้าวขาว 25% ปริมาณ 346,000 ตัน จากปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด 500,000 ตัน จากผู้ส่งออก 8 ราย จากไทย เวียดนาม ปากีสถาน และอินเดีย กำหนดส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ทั้งนี้ผู้ส่งออก 8 รายที่ชนะประมูล ได้แก่ เวียนนาฟู้ดส์ 1 ปริมาณ 70,000 ตัน ราคาตันละ 466 เหรียญสหรัฐ เวียนนาฟู้ดส์ 2 ปริมาณ 71,000 ตัน ตันละ 464 เหรียญสหรัฐ ผู้ส่งออกไทยชนะประมูลครั้งนี้ 3 ราย รวม 1.2 แสนตัน คือ บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด ปริมาณ 40,000 ตัน ตันละ 473 เหรียญสหรัฐ, บริษั
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 ที่บริเวณสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาด ลูกค้า ธ.ก.ส. นครพนม จำกัด (สกต.) ตำบลนาทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายจาตุรันต์ สมิทธ์ภินันท์ สหกรณ์จังหวัดนครพนม พร้อมประธานกรรมการ ผู้จัดการ ทีมงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับนายประทีป ฤทธิกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ที่ลงพื้นที่ตรวจติดตามการเตรียมความพร้อม ก่อนการเปิดตลาดนัดรับซื้อข้าวเปลือก ฤดูกาลผลิต 2560/61 ของจังหวัดนครพนม สำหรับสถาบันเกษตรกรในสังกัดสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนม ที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มในสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต ๒๕๖๐/๖๑ ทั้งหมด ๘ แห่ง มีแผนรวบรวมข้าว ๓๒,๑๕๐ ตัน ขอกู้เงิน ธกส. ๒๔๐ ล้านบาท ขณะนี้มีสหกรณ์ที่ได้รับอนุมัติเงิน กู้ ธกส.จำนวน ๔ แห่ง เป็นเงิน ๑๕๖ ล้านบาท ผลรวบรวมข้าว ณ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ รวม ๑,๑๙๑.๔๕ ตัน มูลค่า ๑๒.๐๘ ล้านบาท ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส.นครพนม จำกัด ได้รับอนุมัติเงินกู้จากธกส. ๔๐ ล้านบาท ผลรวบรวมข้าว ๕๖๐ ตัน มูลค่า ๕.๕๗ ล้านบาท ราคารับซื้อข้าวหอมมะลิความชื้นไม่เกิน ๑๕ % ๑๒,๕๐๐ บาท ราคาโ
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมชลประทานร่วมกับกรมการข้าว เร่งสำรวจผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมและฝนตกชุกในช่วงนี้ อาจกระทบต่อผลผลิตได้มากกว่าที่เคยประมาณการไว้ปี 2560/61 จะมีปริมาณข้าวออกสู่ตลาดประมาณ 29 ล้านตันข้าวเปลือก กระทบต่อการบริหารจัดการในช่วงปลายฤดูกาล ทั้งนี้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ในฐานะอนุกรรมการกำกับติดตามแผนการผลิตและตลาดข้าวครบวงจรได้เชิญประชุมวันที่ 2 มิถุนายน เพื่อประเมินสถานการณ์ผลผลิตข้าวทั้งปีก่อนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แหล่งข่าวจากกรมการข้าว กล่าวว่า ได้ประเมินผลผลิตข้าวปี 2560/61 ใหม่ โดยคาดว่าจะมีการปลูกข้าว 66.69 ล้านไร่ ได้ผลผลิต 29.50 ล้านตันข้าวเปลือก กระทรวงเกษตรฯจึงเตรียมเสนอมาตรการการปรับพื้นที่นาและลดการปลูกข้าวให้ที่ประชุมนบข. เห็นชอบ 3 โครงการ พื้นที่เป้าหมายรวม 1.08 ล้านไร่ วงเงิน 4,718.545 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการปลูกพืชอาหารสัตว์ทดแทนนาข้าว(รอบที่1) จำนวน 6.3 แสนไร่ วงเงิน 3,803.88 ล้านบาท 2.โครงการปลูกพืชหลากหลาย(ร
จากปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำโดยช่วงเปิดฤดูเก็บเกี่ยวข้าว ปี 2559 ชาวนาถูกพ่อค้าคนกลางกดราคารับซื้อข้าวเปลือก กข 15 กิโลกรัมละ 5-6.50 บาท หรือประมาณ 5,000-6,500 บาท/ตัน ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากต้นทุนการผลิตข้าวขยับตัวสูงขึ้น ทั้งค่าเตรียมดิน ค่าปุ๋ย และค่าเก็บเกี่ยวข้าว เป็นต้น ทางรัฐบาลต้องเร่งระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ได้เร่งประสานความร่วมมือขบวนการสหกรณ์กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำด้วย โดยมุ่งเชื่อมโยงเครือข่ายตลาดและเพิ่มช่องทางจำหน่ายข้าวสารคุณภาพของสหกรณ์ เพื่อยกระดับราคาข้าวเปลือกช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิก นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาตลาดและราคาข้าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ว่า นอกจากกรมส่งเสริมสหกรณ์จะดำเนิน “โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร” ปีการผลิต 2559/60 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยรัฐบาลได้จัดสรรสินเชื่อให้สหกรณ์กู้ยืมไปเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อรวบรวมข้าวเปลือกและแปรรูปข้าวผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
“กัมพูชา” หนึ่งในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงที่มีรายได้หลักมาจากการส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ “ส่งออกข้าว” ซึ่งความท้าทายใหญ่ก็คือ ขีดความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่างประเทศไทยและเวียดนาม ผู้ส่งออกข้าวอันดับต้น ๆ ของเอเชียอาคเนย์ ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี “ฮุนเซน” ต้องฝันสลายหลังพลาดเป้าส่งออกข้าว 1 ล้านตัน ซึ่งตั้งไว้ตั้งแต่ปี 2553 โดยมีปัจจัยหลักอย่างปัญหาการขาดแคลนโรงสี โกดังเก็บข้าว และเงินทุนในการพัฒนาเมล็ดข้าวพันธุ์ใหม่ ๆ และช่วยเหลือเกษตรกร โดยปี 2558 กัมพูชาส่งออกข้าวได้เพียงแค่ 500,000 ตัน หรือเพียง 50% ของเป้าหมายเท่านั้น นอกจากนี้นายกฯฮุนเซนเคยประกาศในเวทีการประชุมระดับนานาชาติ เมื่อปีก่อนว่า การแข่งขันอย่างหนักของผู้ส่งออกข้าวรายอื่น ๆ เช่น ไทย เวียดนาม เมียนมา และอินเดีย เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้กัมพูชาไม่ประสบความสำเร็จในเป้าหมาย ภาพจาก : www.phnompenhpost.com โดยกระทรวงเกษตรของกัมพูชาประเมินว่าปีนี้ผลผลิตข้าวของกัมพูชาจะเกิน 9.2 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้กัมพูชามีข้าวส่งออกเกิน 3 ล้านตันในปีหน้า วีโอเอ แคมโบเดีย รายงานว่า นายกรัฐมนตรีกัม