ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า วันเดียวกันนี้กรมชลประทาน ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรธรณี มณฑลทหารบกที่ 37 หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนและจิตอาสา และได้รับการสนับสนุนท่อบายพาสน้ำจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ในการทำทางเบี่ยงน้ำ (Bypass) จากฝายแห่งที่ 1 กั้นลำห้วยน้ำดั้น ฝายแห่งที่ 2 กั้นลำห้วยผาหมี บริเวณบ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย และฝายแห่งที่ 3 กั้นลำห้วยผาฮี้ บริเวณบ้านมูเซอผาฮี้ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย สามารถตัดยอดน้ำรวมกันได้ประมาณ 32,000 ลบ.ม./วัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ระดับน้ำในถ้ำหลวงได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากถ้ำให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ สำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยา กรมชลประทาน ยังคงดำเนินการสำรวจสภาพทางธรณีของลำห้วยซึ่งอยู่ในบริเวณถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชต่อไป เพื่อค้นหาร่องรอยและบริเวณที่คาดว่าน้ำไหลซึมเข้าไปภายในถ้ำ