ทำดีเพื่อพ่อหลวง
แม้ว่าโครงการจะสิ้นสุดไปแล้ว แต่ผลจากการทำ “ฟาร์มชุมชน ตำบลดอนรัก” ภายใต้โครงการ ๙๑๐๑ ตามรอยเท้าพ่อ กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการพลิกผืนแผ่นดินเปล่า แปลงเป็นทุนตั้งต้นในการทำอาชีพของผู้คนในตำบลดอนรัก ชุมชนเล็ก ๆ ที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ด้วยแรงร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นกรมส่งเสริมการเกษตร กำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต.ดอนรัก และขาดไม่ได้ คือ ชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้โครงการเกิดเป็นรูปร่าง เวลานี้ใครขับรถจากสงขลามาปัตตานี ตามถนนหลวงหมายเลข 42 จะเห็นป้ายฟาร์มชุมชนตำบลดอนรักตั้งเด่นหรา ด้านหน้ามีซุ้มจำหน่ายผักผลไม้สดปลอดสารพิษ น้ำสมุนไพรเย็นชื่นใจ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากฝีมือชุมชน เช่น เสื้อยืด หมวก ลึกเข้าไปด้านในเป็นฟาร์มปลูกผักหลากหลายชนิดที่งอกงาม และกำลังทยอยออกผล “จักรี เจ๊ะสอเหาะ” กำนันตำบลดอนรัก อำเภอหนองจิก เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีแนวคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อชุมชน และให้ชาวบ้านได้ประโยชน์ด้วย มีการพูดคุยกับชาวบ้านในร้านน้ำชาถึงเรื่องปลูกผัก ขณะนั้นได้ทำเป็นกลุ่มเล็ก ๆ 7-15 คน กระทั่งมีโครงการ ๙๑๐๑ ที่มีงบประมาณมาให้ 2.5 ล้านบาท จึงได้ทำประชาคมร่วมกับชาวบ้านอีกครั้
ตลอด 70 ปีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์ พระองค์ทรงงานเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรมาโดยตลอด ประชาชนชาวไทยจึงน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ ดังนั้น แม้หลายคนจะอยู่ไกลถึงต่างจังหวัด หรือต้องเดินทางลำบากเพียงใดก็ตั้งปณิธานไว้ว่าจะต้องเข้าถวายสักการะพระบรมศพ และลงนามน้อมถวายความเคารพที่บริเวณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวังให้ได้ อย่างเช่น ด.ช.บุญเลิศ สุชีพเชยสุวรรณ ซึ่งป่วยเป็นโรคเซลล์ประสาทไขสันหลังฝ่อ ในวันนี้ (27 ตุลาคม) ก็ได้เดินทางมายังศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง โดยมีนางกัลยา ไม้เหลือง มารดาเป็นผู้พามา ร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีก 5 คน โดยนางกัลยากล่าวว่า บุตรชายเป็นโรคเซลล์ประสาทไขสันหลังฝ่อ คล้ายๆ กล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ว่าอยากมามาก ตั้งแต่วันแรกๆ แต่ตนเห็นว่าคนยังเยอะอยู่จึงไม่อยากพามา แต่วันนี้โรงเรียนพังตรุราษฎร์รังสรรค์ ที่บุตรชายเรียนอยู่ได้เปิดเทอมเป็นวันแรก แต่ยังไม่มีการเรียนการสอน จึงได้ขับรถมาจากจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจอดไว้ที่โรงพยาบาลศิริราช และนั่งเรือข้ามฝากมา “ก่อนหน้านี้ที่ในหลวงทรงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชก็เคยมาเพื่อถวา