ท่าเทียบเรือประมง
อสป. จัดทัพคุมเข้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบ 2 สะพานปลาและท่าเทียบเรือประมงทั้ง 18 แห่ง ทั่วไทย เร่งสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค-ประชาชน ว่าทุกพื้นที่สะอาด ปลอดเชื้อแน่นอน พร้อมย้ำ อสป. ไม่เคยการ์ดตก ดร. มณเฑียร อินทร์น้อย ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) เปิดเผยว่า การระบาดรอบ 2 ของโควิด-19 (covid-19) องค์การสะพานปลา ในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแลสะพานปลาและท่าเทียบเรือประมงทั้ง 18 แห่ง ทั่วประเทศ และมีคนทำงานอยู่ในพื้นที่แต่ละแห่งจำนวนมาก ก็ได้มีการวางแผนและหามาตรการต่างๆ มาไว้รองรับอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพื่อป้องกันการระบาดของโรคต่างๆ รวมถึงไวรัสโคโรน่า (covid -19) ด้วย โดยได้ออกหนังสือเวียน กำชับ และตรวจเข้มให้ทุกสะพานปลาและท่าเทียบเรือประมงทุกแห่งเข้มงวดในเรื่องดังกล่าวอย่างเคร่งครัด พร้อมให้บูรณาการประสานงานร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมมือในการป้องกันโรคระบาด “ผมได้กำชับเจ้าหน้าที่สะพานปลาและท่าเทียบเรือประมงทั้ง 18 แห่ง ขององค์การสะพานปลา ให้ตรวจเข้ม คัดกรองการเข้า-ออก ของผู้คนที่เข้ามาใช้บริการตลอดทั้งวัน ทั้งในเรื่องการวัดอุณหภูมิร่างกาย การสวมหน้ากากอนามัย และจ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามมาตรา 84 แห่งพ.ร.ก.การประมง 2558 กำหนดให้ท่าเทียบเรือประมงต้องจดทะเบียนเป็นท่าเทียบเรือประมงต่อกรมประมง โดยกรมประมงได้ประกาศกฎกระทรวงไว้เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 โดยอนุโลมให้ยื่นหนังสือรับรองฯได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ทั้งนี้กรมฯต้องดำเนินการตรวจมาตรฐานสุขอนามัยท่าเทียบเรือที่ต้องตรวจสุขอนามัยทั้งสิ้น 829 ท่า ได้ดำเนินการแล้ว 579 ท่า แบ่งเป็น ท่าเทียบเรือประเภท เอ1 ตรวจแล้ว 23 ท่าจากเป้าหมาย 25 ท่า ผ่านเกณฑ์ 11 ท่า ไม่ผ่านเกณฑ์ 5 ท่า และรอผลการประเมินอีก 7 ท่า ท่าเทียบเรือประเภท เอ2 ทำการตรวจแล้ว 121 ท่า ผ่านเกณฑ์ 70 ท่า ไม่ผ่านเกณฑ์ 28 ท่า รอผลการประเมิน 23 เท่า ท่าเทียบเรือประเภท บี ตรวจแล้ว 234 ท่า ผ่านเกณฑ์ 119 ท่า ไม่ผ่านเกณฑ์ 37 ท่า รอผลการประเมิน 78 ท่า ท่าเทียบเรือประเภท ซี ตรวจแล้ว 219 ท่า ผ่านเกณฑ์ 32 ท่า ไม่ผ่านเกณฑ์ 15 ท่า รอผลตรวจ 172 ท่า พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ในส่วนของท่าเทียบเรือที่ไม่ผ่านมาตรฐานสุขอนามัย หากไม่สามารถปรับปรุงมาตรฐานและไม่ยื่นหนังสือรับรองสุขอนามัยฯ ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด จะต