น้ำหมัก
“น้ำหมัก” หรือ น้ำหมักชีวภาพ คือ น้ำหมักอินทรีย์รูปแบบหนึ่งที่ได้จากวัสดุธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเศษพืชผัก เศษอาหาร ผลไม้หรือสมุนไพรด้วยวิธีการทางธรรมชาติ และมีลักษณะเป็นของเหลวสีน้ำตาลโดยอาศัยการทำปฏิกิริยาระหว่างน้ำตาล แบคทีเรีย และกรดแลกติก (Lactic acid) ซึ่งน้ำหมักแต่ละสูตรนั้นจะให้การบำรุงที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้เศษผักหรือเศษผลไม้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการประหยัดต้นทุนและเพิ่มสารอาหารแก่พืชแล้ว ยังเป็นลดขยะจากการทำการเกษตรและการลดต้นทุนค่าบำรุงพันธุ์พืชอีกด้วย วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านชวนมาดูน้ำหมัก 7 รส ที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ด้วยของที่มีอยู่ที่บ้าน บำรุงได้จริงภายในไม่กี่ขั้นตอน! น้ำหมักรสจืด ได้จากการหมักพืชสมุนไพรและผลไม้ เช่น ข้าว ใบย่านาง รวงข้าว ผักตบชวา หน่อกล้วย และผักบุ้งไทย มีคุณสมบัติในการบำรุงดิน บำบัดน้ำเสียและขยะ และล้างสารพิษในพืช น้ำหมักรสเปรี้ยว ได้จาก เปลือกส้ม มะกรูด มะขาม มะนาว มะเฟือง ตะลิงปลิง มะนาว หรือผลไม้ที่ให้รสเปรี้ยวอื่นๆ สามารถใช้ในการป้องกันแมลง ฆ่าเชื้อรา และบำรุงพืช น้ำหมักรสฝาด ได้จาก ปลีกล้วย เปลือกมังคุด มะยมหวาน เปลือกฝรั่ง และสมุนไพรรส
คุณสุวรรณ วัฒนาวงศ์ (คุณป็อป) อายุ 44 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 339/52 หมู่ที่ 3 บางกรวย-ไทรน้อย เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ปัจจุบัน คุณสุวรรณเป็นเจ้าของฟาร์มไส้เดือนผักกินดี ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรเพาะไส้เดือน ปุ๋ยมูลไส้เดือน และปลูกผักปลอดสารพิษ คุณสุวรรณ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นความเป็นมาของฟาร์มไส้เดือนผักกินดี เริ่มมาจากตนเองทำงานประจำและทำงานเสริมเป็นช่างถ่ายภาพ หลังจากเวลาว่างจึงอยากหารายได้เสริมเพิ่มที่สามารถทำที่บ้านได้ จึงเริ่มมองดูพื้นที่บริเวณบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่อาศัยพื้นที่บริเวณบ้านจึงอยู่ใต้หลังคา จึงได้หาข้อมูลพืชที่สามารถปลูกในร่มได้ และใช้ระยะเวลาในการปลูกไม่นาน จึงตัดสินใจว่าจะปลูกต้นทานตะวันอ่อน เริ่มจากปลูกทานเอง เมื่อเหลือก็นำไปจำหน่ายให้กับคนในพื้นที่ จึงตั้งชื่อฟาร์มในตอนแรกว่า ผักกินดี ถือว่าเป็นรายได้เสริมอีกทางที่เข้ามาและยังเป็นกิจกรรมยามว่างให้กับลูกได้ดีอีกด้วย แต่แน่นอนว่าทุกสิ่งที่ลงมือทำกว่าจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ต้องมีปัญหาเข้ามาให้ได้แก้ไข คุณสุวรรณ กล่าวว่า เมื่อเข้าช่วงฤดูฝน ต้นอ่อนที่ปลูก พบเจอกับปัญหาเชื้อราหนักมาก พยายามหาวิธีแก้ปัญห
ส้มโอขาวแตงกวา เป็นไม้ผลเศรษฐกิจเฉพาะถิ่นของจังหวัดชัยนาท ที่ปลูกสืบต่อกันมากว่า 100 ปี ปลายปี 2554 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้พื้นที่ปลูกส้มโอเสียหายอย่างมาก สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาท จึงเร่งฟื้นฟูและส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกทดแทนหรือปลูกในพื้นที่ใหม่ ให้ปลูกในระบบเกษตรดีที่เหมาะสมเพื่อผลิตส้มโอขาวแตงกวาคุณภาพ และเพื่อให้เกษตรกรสามารถยกระดับรายได้นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่มั่นคงยั่งยืน เมื่อปลายปี 2554 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้พื้นที่ปลูกส้มโอขาวแตงกวาเสียหายไปมาก จึงต้องเร่งฟื้นฟูการปลูกและผลิตส้มโอขาวแตงกวาคุณภาพให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 จังหวัดชัยนาท (สสข.ที่ 1) จึงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในระบบเกษตรดีที่เหมาะสม GAP (Good Agricultural Practice) เพื่อผลิตส้มโอขาวแตงกวาคุณภาพ ส่งเสริมให้ทุกฝ่ายร่วมกันอนุรักษ์ส้มโอขาวแตงกวา จีไอ หรือ GI (Geographical Indications) สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่มีคุณลักษณะพิเศษเฉพาะ ซึ่งเป็นไม้ผลท้องถิ่นพันธุ์ดั้งเดิมคุณภาพดีและเป็นไม้ผลเศรษฐกิจสำคัญ ให้คงอยู่คู่กับจังหวัดชัยนาทสืบไป คุณลุงเสรี กล่อมน้อย
ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ หรือ ปุ๋ยน้ำหมัก เกษตรกรสามารถทำใช้เองได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อให้เสียเงิน ซึ่งปัจจุบันมีมากมายหลายร้อยสูตร มีการประยุกต์หรือดัดแปลงสูตรตามความรู้ ความสามารถ ของแต่ละคน เพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์กับพืชแต่ละชนิดแตกต่างกันไป เช่น ใช้ในการเร่งการเจริญเติบโต เร่งดอกผล หรือลดการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช คุณละมุด คำจินดา ผู้ใหญ่บ้านบ้านโกทา อยู่บ้านเลขที่ 291 หมู่ 9 ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น คณะกรรมการศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลศิลา เป็นบุคคลหนึ่งที่เห็นความสำคัญของปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ได้คิดค้นสูตรส่วนผสมหลายสูตร แต่ละสูตรได้ผลดีแตกต่างกันไป เช่น สูตรฮอร์โมนไข่ คุณละมุด บอกว่า ทำนาปีและนาปรัง พื้นที่ 9 ไร่ มีสระน้ำประจำไร่นา พื้นที่ครึ่งงาน มีที่ดอน 1 งาน ปลูกพืชหมุนเวียนตลอดทั้งปี เช่น ฤดูฝนปลูกบวบ เข้าสู่ฤดูหนาวปลูกดาวเรือง สามารถทำรายได้พืชละ 10,000-15,000 บาท เคล็ดลับในการเพิ่มผลผลิตและลดปัญหาศัตรูพืชคือ การผลิตปุ๋ยน้ำหมัก และฮอร์โมนพืชหลากหลายสูตร เช่น สูตรฮอร์โมนไข่ ส่วนผสม ได้แก่ ไข่ไก่ 10 ฟอง ยาคูลท์ 3 ขวด แป้งข้าวหมาก 2-3 เม็ด สารเร่ง พด.2 จำนวน
ปัจจุบัน การทำสวนยางพารามีต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก เนื่องจากปุ๋ยเคมีราคาแพง เกษตรกรรายย่อยไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะซื้อปุ๋ยเคมีใส่ยางพาราให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเกษตรกร ทำให้ได้รับผลผลิตตกต่ำ รายได้ลดลง สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรเป็นอย่างมาก แต่มีเกษตรกรหัวไว ใจสู้ ที่ไม่ยอมแพ้ คิดค้นวิธีการที่จะลดต้นทุนการผลิตในเรื่องของปุ๋ยเคมี โดยหันมาใช้น้ำหมักชีวภาพแทน คุณลุงสุริยา เพชรเกษม อยู่บ้านเลขที่ 46/2 หมู่ที่ 4 ตำบลท่านา อำเภอกะปง จังหวัดพังงา เป็นเกษตรกรหัวไว ใจสู้ ซึ่งได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย ทำการเกษตรไร่นาสวนผสม โดยการเลี้ยงสัตว์ ปลูกไม้ผลและยางพารา ได้ตัดสินใจเลิกใช้ปุ๋ยเคมี มาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน โดยยึดหลักการทำเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยทำน้ำหมักชีวภาพใช้เอง ต้นทุน 2,000 บาท/พื้นที่ปลูกยางพารา 10 ไร่ ผลผลิตที่ได้รับ 26 กิโลกรัม/วัน สูตรน้ำหมักชีวภาพที่ใช้บำรุงต้นยางพารา ประกอบด้วย 1. กล้วย จำนวน 1 กิโลกรัม ราคา 5 บาท 2. ปลา จำนวน 1 กิโลกรัม ราคา 30 บาท 3. ฟักทอง จำนวน 1 กิโลกรัม ราคา 20 บาท 4. มะละกอ จำนวน 1 กิโลกรัม ราคา 20 บาท 5. กากน้ำตาล จำนวน 1 ก
นายถวิล มั่งนุ้ย รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านปฏิบัติการ ลงพื้นที่จังหวัดตรัง ตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรกรเครือข่ายศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน สถานีพัฒนาที่ดินตรังของ นายมนตรี แสงแก้ว หมู่ที่ 2 บ้านโหละท่อม ตำบลเขาไพร อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ซึ่งได้ปลูกทุเรียนจนประสบความสำเร็จและได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกยางพาราเป็นทุเรียน ไม้ผลอื่นๆ มีพื้นที่รวม 15 ไร่ มีการปรับปรุงคุณภาพดินด้วยสารปรับปรุงดิน การปรับปรุงบำรุงดินและลดต้นทุนการผลิตด้วยปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ป้องกันโรครากเน่าโคนเน่าด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพด้านการพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่อง ตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ที่เห็นได้ชัดเจนคือ มีไส้เดือนดินและมูลไส้เดือนดินในแปลงเป็นจำนวนมาก ผลผลิตทุเรียนมีคุณภาพ ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP พื้นที่ให้ผลผลิตแล้ว 8 ไร่ ได้ผลผลิต 17 ตัน มีรายได้สุทธิจากทุเรียนประมาณ 1.33 ล้านบาท และได้มอบบัตรดินดี (ID DINDEE) ให้แก่เกษตรกร รวมทั้งให้กำลังใจกับเกษตรกรและหมอดินอาสาในการปฏิบัติงานขับเคลื่อนงานและโอกาสด้านการพัฒนาที่ดินในพื้นที่จังหวัดตรัง ช่วงบ่ายวันเดียวกัน รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ตรวจเยี่ยมศูนย
คณะผู้บริหารคลังประจำจังหวัดพะเยา เปิดโครงการคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดพะเยา (คบจ.) ร่วมใจส่งเสริมเกษตรปลอดภัย ด้วยน้ำหมักชีวภาพ โดยใช้โดรน ฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพลดต้นทุนการผลิต คุณณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิดโครงการ คบจ. ร่วมใจส่งเสริมเกษตรปลอดภัย ด้วยน้ำหมักชีวภาพ ที่บ้านจำป่าหวาย ตำบลจำป่าหวาย อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดพะเยา หรือ คบจ. ประกอบด้วยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และสถาบันการเงินในสังกัดกระทรวงการคลัง ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อให้การดำเนินงานของคณะผู้บริหารการคลัง ประจำจังหวัดพะเยา สอดรับกับยุทธศาสตร์จังหวัด ด้านการส่งเสริมเกษตรปลอดภัย และการค้าการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีเป้าประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และจังหวัดพะเยามีพื้นที่เกษตรปลอดภัยเพิ่มขึ้น พื้นที่เพาะปลูก 975 ไร่ ได้รับผลกระทบราคาใบยาสูบตกต่ำ จากโครงการรณรงค์งดสูบบุหรี่ของทุกภาคส่วน ดังนั้น สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่พะเยา และสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดพะเยา ได้คิดค้นสูตรน้ำหมักชีวภาพ กำจัดแมลงศ