บัตรคนจน
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติมาตรการพยุงเศรษฐกิจกลางปี 2562 วงเงิน 13,200 ล้านบาท ประกอบด้วยมาตรการการเพิ่มเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้กับคน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มผู้ปกครองที่มีลูกหลานกำลังเรียน จะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 500 บาท ต่อบุตร 1 คน ซึ่งรับครั้งเดียว เพื่อซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน 2. กลุ่มเกษตรกร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะได้รับเงินคนละ 1,000 บาท เพื่อนำไปซื้อปุ๋ยไว้ใช้ทำการเกษตร ซึ่งเป็นการจ่ายครั้งเดียว ครอบคลุมเกษตรกรจำนวนประมาณ 4.1 ล้านคน 3. กลุ่มผู้พิการ ที่ขึ้นทะเบียนไว้และถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเบี้ยเพิ่มเติมเดือนละ 200 บาท ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย. 2562 และ 4.กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ขึ้นทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 5 ล้านคน จะได้รับเงินไปใช้ซื้อของผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐคนละ 500 บาทเท่ากันหมด จากเดิมที่ได้คนละ 200 หรือ 300 บาท ในเดือนพ.ค.-มิ.ย. 2562 นอกจากนี้ยังมีมาตรการทางภาษี ทั้งการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ให้ลดหย่อนภาษีแก่ผู้ที่ซื้อบ้านหลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้มีรายได้น้อยมาแสดงความประสงค์ฝึกอาชีพ 6 ล้านคน ถือว่าได้รับความสนใจที่น่าพอใจมาก หากทำให้คนทั้ง 6 ล้านคน หลุดพ้นจากผู้มีรายได้น้อยจะทำให้เศรษฐกิจไทยแข็งแรงทั้งระดับรากหญ้า ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการสตาร์ตอัพ นอกจากภาพรวมที่แข็งแรงดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแล้ว นายพรชัย ฐีระเวช โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ผู้ที่มีรายได้น้อยใช้สิทธิบัตรคนจนที่มาลงทะเบียนเพื่อขอรับการอบรมเสริมอาชีพ ระยะที่ 2 (เฟส 2) จำนวน 6 ล้านคน เป็นผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท ต่อปี ประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ 3 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ คลังจะเริ่มจัดสรรเงินช่วยเหลือผ่านบัตรเพิ่มอีก 200 บาท ต่อเดือน เป็น 500 บาท ต่อเดือน ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค. เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่ไม่มาลงทะเบียนเพื่อขอรับการอบรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ผ่านคนจน เฟส 2 ที่เหลืออีกประมาณ 5.3 ล้านราย เฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท ต่อปี กระทรวงการคลังจะเริ่มส่งเจ้าหน้าที่ เข้าไปสอบถามข้อมูลในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ ไปสอบถามความต้องการว่าทำไมจึงไม่มาร่วมโครงการ มีปัญหาหรือต้องกา
“บัตรคนจน” ชุบชีวิตโชห่วย 20,000 ร้าน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจรากหญ้า ปล่อยฟรีขายสินค้าชุมชน “สนธิรัตน์” เผยสเต็ป 2 ธงฟ้าฯ ผนึกตลาดกลางสร้างเครือข่ายค้าปลีกเข้มแข็งติดอาวุธออนไลน์ พร้อมผุดโปรเจ็กต์สร้างงานคนจน 11.4 ล้านคนเข้าสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ มั่นใจปีཹเศรษฐกิจรากหญ้าฟื้น ยอดขายตจว.คึกคัก หลังจากรัฐบาลได้จัดทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เปิดให้ลงทะเบียนประชาชนที่มีรายได้น้อยทั่วประเทศรวม 11.4 ล้านคน ซึ่งกำหนดเงื่อนไขให้ประชาชนกลุ่มนี้สามารถนำบัตรไปรูดซื้อสินค้าผ่านเครื่องรูดบัตร (EDC) จากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐได้ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีรายได้เกิน 30,000 บาท และ 300 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีรายได้น้อยกว่า 20,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมานั้น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2560 จะติดตั้งได้ 18,000- 20,000 แห่ง ซึ่งเป็นร้านที่เข้าร่วม ทั้งนี้ หากคำนวณจากยอดขายตามวงเงินที่รัฐบาลกำหนดไว้รายละ 300 บาทต่อเดือน ของประชาชน 11.4 ล้านคน เท่ากับว่า 1 เดือนจะมียอดซื้อขายกว่า 3,000 ล้านบาท ที่
สศก.เผยผลศึกษา “บัตรคนจน” ของ ม.เกษตรฯ คาดจะสร้างมูลค่าทาง ศก.ของประเทศกว่าแสนล้าน ขณะที่ภาคเกษตรได้รับประโยชน์คิดเป็นมูลค่าทาง ศก.ถึง 2.1 หมื่นล้าน แนะรัฐพัฒนาทักษะทำงานและให้ทบทวนสิทธิแรงงานอายุ 15 ด้วย นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ( KOFC) ได้ศึกษาวิเคราะห์โครงการประชารัฐสวัสดิการ 46,000 ล้านบาท ตามรายชื่อผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 11,431,681 คน ในจำนวนนี้เป็น เกษตรกรจำนวน 3,322,214 คน หรือประมาณ 30% ซึ่งจากวิเคราะห์ด้านการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางภาพรวม คาดว่าจะทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศประมาณ 118,077.82 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาผลกระทบในภาคเกษตรจำนวน 3.32 ล้านคน ใช้งบประมาณ 13,368.59 ล้านบาท จะทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจในภาคเกษตร 21,215.50 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ 21,134.27 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมูลค่า 70.73 ล้านบาท และส่วนลดในการซื้อก๊าซหุงต้ม มูลค่า 10.50 ล้านบาท นายวิณะโรจน์กล่าวว่า เมื่อพิจารณาตามรายสาขา พบว่าสาขาการผลิตที
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวระหว่างการประชุมทางไกล (วิดีโอ คอนเฟอเรนซ์) กับพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามความคืบหน้าการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า สั่งให้พาณิชย์จังหวัด ทั่วประเทศมีความพร้อมในการรายงานสถานการณ์โดยตรงมายังกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตั้งเป็นศูนย์ติดตาม หรือวอร์รูม พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศรายงานว่าส่วนใหญ่พบผู้ถือบัตรไม่รู้วงเงินที่ชัดเจนว่าสามารถใช้ซื้อสินค้าได้ 200 บาท หรือ 300 บาท ทำให้เกิดความล่าช้าในการซื้อสินค้า รวมทั้งคิดว่าใช้บัตรได้เพียงวันเดียว เนื่องจากแต่ละร้านมีผู้ใช้บัตรจำนวนมาก สินค้าที่มียอดซื้อสูงสุดคือกลุ่มอาหาร เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำปลา และน้ำมันพืช รองลงมาเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน ย้ำร้านค้าช่วยตรวจสอบวงเงินของผู้ซื้อให้ชัดเจนก่อน เพื่อความรวดเร็ว ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 7 จังหวัดที่จะเริ่มใช้วันที่ 17 ต.ค.นี้ กำลังเร่งดำเนินการประสานติดตั้งเครื่อง EDC เพื่อให้ทันในช่วงเปิดใช้ เฉพาะกรุงเทพมหานคร มีจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 600 ร้าน จากเป้าหมาย 800 ร้านค้า ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด
รองผู้ว่าฯอุทัยธานี ลงพื้นที่แก้ปัญหาความแออัด หลังผู้มีรายได้น้อยกลัวเงินในบัตรถูกตัด แห่ใช้บัตรรูดซื้อสินค้าจนแน่นร้านค้าใหญ่ สั่งพาณิชย์จังหวัดเร่งติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ร้านที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมสร้างความเข้าใจการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐแก่ผู้มีรายได้น้อย วันที่ 3 ต.ค.60 เวลา 08.00 น. ที่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี นายไมตรี ไตรติลานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย นายวีระพงษ์ สืบค้า พาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี การค้าภายในจังหวัดอุทัยธานี และส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจร้านสร้างวงศ์ ซึ่งเป็นร้านค้าใหญ่ในตัวอำเภอเมืองที่เข้าร่วมโครงการติดตั้งเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของผู้มีรายได้น้อย ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง หลังจากที่มีการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา พบว่าในวันนี้ถือเป็นวันที่ 3 ของการเปิดให้มีการจับจ่ายซื้อของด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ประชาชนที่มารอรูดบัตรมีเป็นจำนวนมาก จนต่อแถวยาวออกไปนอกร้าน ทำให้ร้านค้าต้องแจกบัตรคิวเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและลดความแออัด เนื่องจากประชาชนนั้นไม่ทราบว่ามีร้านค้าใดบ้างที่เข้าร่วมโครงการ
พาณิชย์ปล่อยขบวนรถธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่เข้าพื้นที่ 2,000 ตำบลทั่วประเทศ ยืนยัน 1 ต.ค. พร้อมรูดปรี๊ดสินค้าราคาถูกกว่า 300 รายการ ส่วนร้านค้าติดอีดีซีขณะนี้มีรวมกว่า 5,000 ร้านค้า ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 20,000 ภายในปีนี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวในการเปิดตัวร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่าได้ปล่อยขบวนคาราวานรถธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ กว่า 365 หน่วย ไปยังหมู่บ้าน และตำบลต่างๆ ทั่วประเทศ กว่า 2,000 ตำบล เพื่อกระจายสินค้าธงฟ้าประชารัฐ กว่า 300 รายการ ไปให้ผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้ยัตรซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมทั้งยังแก้ปัญหาบางพื้นที่ที่ร้านค้าประชารัฐมีไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ถือบัตร และบางพื้นที่ที่ยังไม่สามารถเข้าไปติดตั้งเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีดีซี ซึ่งขณะนี้มีร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องอีดีซีแล้ว รวมกว่า 4,100 แห่ง ส่วนรถธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ อยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องอีดีซี คาดว่าภายในวันที่ 4 ต.ค. จะสามารถติดตั้งเครื่องอีดีซีได้ครบทั้งหมด 365 หน่วย แล้วยังจะมีจำนวนรถเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมบัญชีกลางระบุว่
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวหลังประชุมความคืบหน้าโครงการบัตรสวัสดิการของรัฐ ร่วมกับกรมบัญชีกลางว่า วันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะมีร้านธงฟ้าประชารัฐ ประมาณ 2,000 แห่ง ติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีดีซี ให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาใช้ซื้อสินค้าก่อน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 6,000 แห่ง กระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลางและธนาคารกรุงไทย จะเร่งติดตั้งให้เร็วที่สุด ให้เสร็จใน 1-2 เดือน ยอมรับว่าการติดตั้งเครื่องล่าช้าเนื่องจากมีระบบขั้นตอนเงื่อนไข ทำให้การติดตั้งในระยะเวลาที่จำกัดอาจติดขัด เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จึงเตรียมจัดทำรถธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่หรือโมบาย ยูนิต นำสินค้าธงฟ้าจำหน่ายบนรถ ซึ่งจะติดตั้งเครื่องอีดีซีให้ผู้มีรายได้น้อย ใช้บัตรสววัสดิการรูดซื้อได้ โดยจะประชุมร่วมกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 920 อำเภอ ในวันที่ 16 กันยายนนี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อเชิญชวนการร่วมทำร้านธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ อย่างน้อยอำเภอละ 1 คัน เพื่อให้กระจายสินค้าธงฟ้าประชารัฐถึงผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการให้ครอบคลุมมากที่สุด ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด
คลังนัดตรวจสอบสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ 15 กันยายนนี้ 3 ช่องทาง ก่อนรับบัตรคนจนได้ตั้งแต่ 21 กันยายนเป็นต้นไป เปิดทางอุทธรณ์หลังพบ 2.7 ล้านคนไม่ผ่านเกณฑ์ระบุมีที่ดิน เงินฝาก รายได้สูง แจงมีจบดอกเตอร์จริงแค่ 5 คน ได้รับสิทธิช่วยเหลือด้วย จากยืนขอมากว่า 500 คน นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังได้สรุปยอดผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จากที่มาลงทะเบียนทั้งหมด 14.17 ล้านคน ลดเหลือ 11.43 ล้านคน โดยมีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ 2.74 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ถือครอบครองที่ดินเกินกว่าเกณฑ์ 1.6 ล้านคน มีเงินฝาก 6.8 แสนคน และมีรายได้สูง 4 แสนคน ส่วนกรณีที่มีผู้ที่มีการศึกษาในระดับปริญญาเอก (ดอกเตอร์) มาลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิกว่า 500 คน จากการตรวจสอบเบื้องต้น 100 คน พบว่ามีผู้จบดอกเตอร์จริงเพียง 5 คน และตรงตามเงื่อนไขรับสวัสดิการ ส่วนอีก 95 คน เป็นผู้ที่ไม่ได้จบดอกเตอร์จริง เปิดให้ตรวจสอบสิทธิ 15 กันยายนนี้เป็นต้นไป เพื่อยืนยันสิทธิก่อนรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามหน่วยงานที่ได้ลงทะเบียนไว้ ตั้งแต่ 21 กันยายน 2560 ผ่าน 3 ช่องทาง คือ 1. ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th, www.mo
‘พาณิชย์’ เผยสัปดาห์นี้ร้านขายของรับรูดบัตรคนจนครบ 1 หมื่นแห่ง เตรียมปล่อยสินค้า 150 รายการ ลดราคาอย่างน้อย 10% ก่อนใช้บัตร 1 ตุลาคมนี้ คลังโชว์ความพร้อมสังคมไร้เงินสด เปิดโรงอาหารที่แรกรับชำระด้วยคิวอาร์โค้ด ที่กระทรวงพาณิชย์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเพื่อรองรับการบริโภคผ่านบัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อยว่า มีร้านค้าทั่วประเทศแสดงความจำนงร่วมโครงการแล้ว 4,500 แห่ง และได้ส่งรายชื่อให้กระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการติดตั้งเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) ต่อไป คาดว่าในสัปดาห์นี้จะส่งรายชื่อร้านค้า ร้านค้าชุมชน ร้านโชห่วย ได้ถึง 10,000 แห่ง และจะพยายามทำให้ได้ 1 ตำบลมี 1 แห่ง นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขณะที่ผู้ประกอบการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าร่วมแล้ว 30 ราย ตั้งเป้าหมายจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดอย่างน้อย 10% จากเดิมตั้งเป้าถูกกว่า 15-20% เพื่อเปิดให้ผู้ผลิตเข้าร่วมได้มากขึ้น จากขณะนี้มีรายการสินค้าให้พิจารณาแล้ว 150 รายการ ซึ่งจะเร่งสรุปให้เร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้เพื่อให้ทันการใช้บัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อยตั้งแต่วันที่ 1