บุก
ชื่อสามัญ : Konjac/Konyakky/Devil’s tongue ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amorphophallus campanulatus/Amorphophallus paeoniifolius (Dennst.) Nicolson Family : ARACEAE เมื่อถึงฤดูต้นฝน คนที่ชอบเดินเที่ยวตามป่าเขามักจะได้เห็นพืชประหลาดจำพวกหนึ่ง แทงก้านใบสูงขึ้นมาโผล่พ้นดินเป็นยอดแหลมๆ แล้วอีกไม่นานนักก็จะค่อยๆ คลี่ใบกางออกมาคล้ายร่ม ดูสวยงามสะดุดตา เจ้าต้นไม้ที่ว่านี้ก็คือ ต้นบุก นี่เอง พืชตระกูลบุกทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 90 กว่าชนิด พบมากแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอินโดนีเชีย มาเลเซีย พม่า ลาว เขมร ฯลฯ ส่วนในบ้านเรา พบประมาณ 10 กว่าชนิด แต่ที่นิยมเอามาทำประโยชน์บริโภคได้จริงๆ มีแค่ 3 ชนิด ได้แก่ Amorphophallus oncophyllus Prain ex Hook f. บุกไข่ หรือ บุกทรายเนื้อในหัวสีเหลือง ขาวอมชมพูใบใหญ่ กว้างประมาณ 1 เมตร ก้านใบสีเขียวมีลายขาวเป็นปื้นๆ รูปไข่สมชื่อช่อดอกยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร มีกาบหุ้มสีม่วงอมน้ำตาล หัวใหญ่กลมๆ แป้นๆ มีร่องบุ๋มตรงกลางด้านบน ชนิดนี้จะมีสาร Glucomannan อยู่ข้างในมากกว่าบุกชนิดอื่น พบมากทางแถบตะวันตก กาญจนบุรีสุพรรณบุรี ราชบุรี ฯลฯ Amorphophallus kerrii NE. พบมากทางแถบภาคเห
ชื่อสามัญ : Konjac/Konyakky/Devil’s tongue ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amorphophallus campanulatus/Amorphophallus paeoniifolius (Dennst.) Nicolson Family : ARACEAE เมื่อถึงฤดูต้นฝน คนที่ชอบเดินเที่ยวตามป่าเขามักจะได้เห็นพืชประหลาดจำพวกหนึ่ง แทงก้านใบสูงขึ้นมาโผล่พ้นดินเป็นยอดแหลมๆ แล้วอีกไม่นานนักก็จะค่อยๆ คลี่ใบกางออกมาคล้ายร่ม ดูสวยงามสะดุดตา เจ้าต้นไม้ที่ว่านี้ก็คือ ต้นบุก นี่เอง พืชตระกูลบุกทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 90 กว่าชนิด พบมากแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอินโดนีเชีย มาเลเซีย พม่า ลาว เขมร ฯลฯ ส่วนในบ้านเรา พบประมาณ 10 กว่าชนิด แต่ที่นิยมเอามาทำประโยชน์บริโภคได้จริงๆ มีแค่ 3 ชนิด ได้แก่ Amorphophallus oncophyllus Prain ex Hook f. บุกไข่ หรือ บุกทรายเนื้อในหัวสีเหลือง ขาวอมชมพูใบใหญ่ กว้างประมาณ 1 เมตร ก้านใบสีเขียวมีลายขาวเป็นปื้นๆ รูปไข่สมชื่อ ช่อดอกยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร มีกาบหุ้มสีม่วงอมน้ำตาล หัวใหญ่กลมๆ แป้นๆ มีร่องบุ๋มตรงกลางด้านบน ชนิดนี้จะมีสาร Glucomannan อยู่ข้างในมากกว่าบุกชนิดอื่น พบมากทางแถบตะวันตก กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี ฯลฯ Amorphophallus kerrii NE. พบมากทางแถบภาค
ด้วยคุณสมบัติเด่นด้านพืชสมุนไพรของ “บุก” จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพที่เรียกได้ว่า เป็นสินค้าดาวรุ่งพุ่งแรง ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลกนิยมใช้ผงบุกกลูโคแมนแนนเป็นสารให้ความข้นหนืด และทำให้เกิดเจลในผลิตภัณฑ์แยมและเจลลี่ รวมทั้งพัฒนาบุกเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้หลากหลายรูปแบบ ใช้เพื่อทดแทนไขมันและเพิ่มเส้นใยอาหารในผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ คุณธนิสตา ชูทวี ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท มังคิ คิง ฟูด จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลากว่า 16 ปี โดยพัฒนาจากการสร้างการขยายเครือข่ายแบบ SME จากนั้นเมื่อต่อยอดธุรกิจได้ดีขึ้นจึงปรับรูปแบบมาเป็นบริษัท มังคิ คิง ฟูด จำกัด โดยมีความมุ่งหวังว่าจะพัฒนาให้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต โดยก่อนที่ตนเองจะย้ายมาเป็นผู้อำนวยการใหญ่บริหารการตลาดและนวัตกรรมอาหาร เคยทำงานในวงการบันเทิงมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซเนอร์ ช่วยเบื้องหลังในวงการบันเทิง รวมถึงเคยร่วมงานกับ บริษัท ซีพีเอฟ ประเทศไทย มาก่อน เรียกได้ว่าผ่านประสบการณ์ทำงานมาหลากหลายบทบาท แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแนวการบริหารงาน ในด้านการตลาด การโปรโมชั่น และการขาย ส่
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจัดประชุมคณะทำงานกำหนดมาตรฐานสารสกัดบุกผง ถกเนื้อหา “ร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบุกผง” เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ก่อนส่ง สมอ.พิจารณา เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดประชุมคณะทำงานกำหนดมาตรฐานสารสกัดบุกผง ครั้งที่ 1/2564 ขึ้น เพื่อให้คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้แทนกองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร ผู้แทนจากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม นักวิชาการ และกลุ่มผู้ประกอบการบุก ได้ร่วมกันพิจารณาร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบุกผง (POWDERED KONJAC) โดยมี นางอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานฯ ให้เกียรติเปิดการประชุม จากนั้นคณะทำงานกำหนดมาตรฐานสารสกัดบุกผงได้หารือในหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องเกณฑ์ที่กำหนดคุณลักษณะทางฟิสิกส์และทางเคมีของบุก ประกอบด้วย กลูโคแมนแนน ความหนืด ปริมาณออกซาเลต และค่าสี นายมรุต จิรเศรษฐสิริ อดีตอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานฯ กล่าวว่า การจัดทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบุกผง โดยเฉพาะเรื่องเกณฑ์คุณลักษณะนั
บุก เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ซึ่งฤดูแล้งส่วนต้นจะตายเหลือแต่หัวอยู่ใต้ดิน เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดตั้งแต่ทางตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัยไปจนถึงประเทศจีน ญี่ปุ่น และทางใต้ไปถึงประเทศไทย อินโดจีน และฟิลิปปินส์ ทั่วโลกมีพืชสกุลบุกอยู่ประมาณ 170 ชนิด แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดที่นำมาใช้ประโยชน์ ประเทศไทยมีบุกทั้งชนิดหัวกลมและหัวยาวอยู่ประมาณ 45 ชนิด ขึ้นอยู่ในสภาพพื้นที่ที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่นำต้นอ่อนและช่อดอกมาปรุงเป็นอาหารตามฤดูกาล คุณวิทยา วนาสถิตย์ อดีตเกษตรอำเภอสบเมย ผู้ริเริ่มส่งเสริมการปลูกบุก หากเป็นเมื่อก่อน ต้องยอมรับเลยว่า “บุก” เป็นพืชที่มาจากป่าจริงๆ แม้กระทั่งปัจจุบัน “บุก” ก็ยังเป็นพืชที่มีชาวบ้านหรือเกษตรกรเข้าไปเก็บจากป่ามาขายเป็นรายได้ นับย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน คุณวิทยา วนาสถิตย์ อดีตเกษตรอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เคยดำรงตำแหน่งเกษตรอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในคราวนั้นคุณวิทยารับทราบข้อมูลเรื่องการเข้าป่าขุดหัวบุกไปขาย โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้เคยหารือเรื่องการเข้าป่าหาของป่าไปขายของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียงที่มีมาก จากการที่มีบริษัทสัมปทานพื้นที่ป่าเพื่อให้ชาวบ้านเข้าไปขุด
บุก เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ซึ่งฤดูแล้งส่วนต้นจะตายเหลือแต่หัวอยู่ใต้ดิน เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดตั้งแต่ทางตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัยไปจนถึงประเทศจีน ญี่ปุ่น และทางใต้ไปถึงประเทศไทย อินโดจีน และฟิลิปปินส์ ทั่วโลกมีพืชสกุลบุกอยู่ประมาณ 170 ชนิด แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดที่นำมาใช้ประโยชน์ ประเทศไทยมีบุกทั้งชนิดหัวกลมและหัวยาวอยู่ประมาณ 45 ชนิด ขึ้นอยู่ในสภาพพื้นที่ที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่นำต้นอ่อนและช่อดอกมาปรุงเป็นอาหารตามฤดูกาล หากเป็นเมื่อก่อน ต้องยอมรับเลยว่า “บุก” เป็นพืชที่มาจากป่าจริงๆ แม้กระทั่งปัจจุบัน “บุก” ก็ยังเป็นพืชที่มีชาวบ้านหรือเกษตรกรเข้าไปเก็บจากป่ามาขายเป็นรายได้ นับย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน คุณวิทยา วนาสถิตย์ อดีตเกษตรอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เคยดำรงตำแหน่งเกษตรอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในคราวนั้นคุณวิทยารับทราบข้อมูลเรื่องการเข้าป่าขุดหัวบุกไปขาย โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้เคยหารือเรื่องการเข้าป่าหาของป่าไปขายของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียงที่มีมาก จากการที่มีบริษัทสัมปทานพื้นที่ป่าเพื่อให้ชาวบ้านเข้าไปขุดหัวบุกนำมาขาย ความจำเป็นในการทำสัมปทานก็เพื่อให้มีการซื้อขายอย่างถูก
ชื่อวิทยาศาสตร์ บุกไข่ Amorphophallus muelleri Blume บุกคางคก Amorphophallus paeoniifolius Nicholson ชื่อวงศ์ Araceae ชื่อสามัญ White spot arum ,,Elephant Foot yam Konjac ฉันรู้สึกตัวว่า “อาภัพ” เพราะไม่รู้ว่าจะหาจุดเด่นของตัวเองอย่างไร จะมองหุ่นทรวดทรงก็มีคนบอกว่า เหมือน “ไข่” แต่อีกกลุ่มไม่รู้ว่ามองอย่างไร บอกว่าเหมือน “คางคก” จึงเก็บความกดดันไว้ในใจ หากระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่ จะ “บุก” ให้ราบเป็นหน้ากลอง เพราะตอนเด็กๆ เคยดูหนังเรื่อง “ชาติเสือต้องเหลือลาย” มีพระเอกถือปืน นำลูกน้องร้องตะโกนว่า “ไอ้เสือบุก” ไม่รู้ว่าจะบุกไข่ หรือ บุกคางคก เรื่อง “Konjac” ก็อีกเรื่องที่เคยเสียหน้ามาครั้งหนึ่งแล้ว ช่วงตอนวัยรุ่นอยากจะดื่มเหล้า แล้วไปอ่านออกเสียงว่า “โคแนค” เพิ่งมารู้ว่าเขาอ่านว่า “คอนยัค” หน้าแตกไปแล้ว และก็รู้ว่าเกี่ยวข้องกับตัวเองด้วยเหมือนกัน คือแอบอ่านในหนังสือชื่อ “มหัศจรรย์ผัก 108” พิมพ์ครั้งที่ 4 โครงการหนูรักผักสีเขียว โดยมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย และสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเรื่องฉันไว้ ทำให้ฉันภูมิใจมาก เขาบอกว่า “คอนยัค” ไม่ใช่เหล้า แต่เป็นเส้นทางลัด สู่ทรวดทร
โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org เมื่อช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา กระแสนิยมดื่มน้ำสมุนไพรบุก หรือน้ำคอนยัก เพื่อลดหุ่นให้สลิมมาแรงมาก แต่เนื่องจากสูตรน้ำสมุนไพรบุกไม่มีความเข้มข้นพอ จึงทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล ความนิยมในสมุนไพรตัวนี้จึงลดน้อยลงอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่หากมีการใช้อย่างถูกต้องแล้ว บุก เป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพรที่เป็นตัวเลือกที่ช่วยลดน้ำหนัก และช่วยรักษาโรคอ้วนได้ผลดีมาก บุก เป็นตัวเลือกสมุนไพรที่ “ใช่เลย” สำหรับการลดน้ำหนัก เพราะ 1. บุก เป็นสมุนไพรไร้แคลอรี องค์ประกอบส่วนใหญ่ของแป้งบุกคือ คอนยัก กลูโคแมนแนน (Konjac glucomannan) ซึ่งแม้จะเป็นน้ำตาลตัวหนึ่ง แต่ก็เป็นโพลีแซกคาไรด์ (polysaccharides) ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลใหญ่ ที่ไม่มีการย่อยสลายแตกตัวเป็นน้ำตาลโมเลกุลเล็กในระบบย่อยอาหาร ดังนั้น จึงไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแม้แต่โมเลกุลเดียว แต่จะขับถ่ายออกมาในรูปเดิม พูดง่ายๆ คือ เข้าทางปากเท่าไร ก็ระบายออกทางทวารเท่านั้น บุก จึงไม่ให้พลังงานใดๆ ไร้แคลอรีหรือซีโร่ชูการ์ (Zero sugar) โดยสิ้นเชิง มีการคำนวณว่า มีผู้ใหญ่คนหนึ่งบริโภคอาหาร 2,000-4
บุก เป็นพืชเศรษฐกิจที่ปลูกดูแลง่าย โรคและแมลงน้อย เป็นพืชอาหารมหัศจรรย์ที่ดีต่อสุขภาพ เพราะผงบุกมีสารสำคัญเรียกว่า “กลูโคแมนแนน” เป็นสารเส้นใยอาหารมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดความอ้วน ควบคุมน้ำหนักตัว เนื่องจากทำให้อิ่มเร็วและอิ่มนาน ผงบุกช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดี ขับถ่ายสะดวก สามารถลดอาการท้องผูกลงถึง 93% ในต่างประเทศนิยมนำบุกมาใช้เลี้ยงหมู กากจากหัวบุกอาจใช้ผสมดินทำเป็นแนวกันพังทลายในพื้นที่เชิงเขาได้ แหล่งที่มา : คุณศิริพร พณิชย์สานนท์ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โทร. 080-819-2494