ประมูลข้าว
ปัดฝุ่นความร่วมมือค้าข้าวไทย-เวียดนาม รุกตลาดครึ่งปีหลัง ก่อนประมูลปินส์รอบใหม่ 2.5 แสนตันเดือนหน้า จับตาราคาส่งออกข้าวเวียดนามดีดกลับ 20 เหรียญ แบกต้นทุนท่าเรือแน่นส่งมอบค้างต้นทุน-สมาคมผู้ส่งออกข้าวเดินหน้าหนุนเกษตรกร 8 จังหวัดนำร่อง ปลูกข้าวขาวพื้นนิ่ม เสริมปัจจัยการผลิตรับซื้อข้าวเปลือก ตันละ 9,000 บาท สูงกว่าตลาด ตันละ 500 บาท ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการจัดงานสัมมนา ครบรอบ 100 ปี สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยว่า ในระหว่าง วันที่ 14-15 มิถุนายน 2561 สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์และสร้างความร่วมมือการค้าข้าวร่วมกับ Vietnam Food Association (VFA) ซึ่งการประชุมครั้งนี้ถือเป็นการจัดขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เพราะขณะนี้เวียดนามพัฒนาเรื่องข้าวไปอย่างมาก พร้อมกันนี้จะมีการติดตามความเปลี่ยนแปลงภายในกรณีที่กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม ได้มีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาที่ 109 เพื่อปรับเปลี่ยนบทบาทในการบริหารจัดการโควต้าส่งออกข้าวให้เสรีมากขึ้น จากเดิม Vi-etnam Food
พาณิชย์ เปิดทีโออาร์ประมูล ‘ข้าวทั่วไปล็อตสุดท้าย’ 4.37 หมื่นตัน มั่นใจเอกชนแห่ประมูลหมด เผยล่าสุดระบายข้าวสารในสต็อกรัฐแล้ว 14.84 ล้านตัน มูลค่า 135,120 ล้านบาท นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และในฐานะรองประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 กรมฯ เปิดชี้แจงให้กับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประมูลข้าว 4.37 หมื่นตัน ซึ่งเป็นการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2561 (TOR) ปริมาณข้าวที่นำมาเปิดประมูลครั้งนี้มาจาก 20 คลัง ใน 15 จังหวัด โดยเป็นคลังของ อคส. ทั้งหมด สำหรับชนิดข้าวที่นำออกมาประมูล ประกอบด้วยข้าว 9 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5% ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ปลายข้าว A1 เลิศ ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าว A1 และข้าวท่อนหอมมะลิ โดยหลังจากนี้จะเปิดให้ผู้สนใจเข้าดูสภาพข้าวในคลังสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 8-15 พฤษภาคม 2561 และสามารถเข้ายื่นซองเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติได้ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 และประกาศผู้ที่ผ่านคุณสมบัติและยื่นซองประมูลพร้อมกับเปิดซองประมูลในวันเดียวกัน 18 พฤษภาคม 2561 “เชื
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกข้าวไทยในครึ่งหลังปีนี้ ยังเป็นตลาดของผู้ขายและราคายังดีต่อเนื่อง จึงทำให้ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ ไทยส่งออกข้าวแล้วประมาณ 5.5 ล้านตัน และมีโอกาสที่การส่งออกปีนี้จะสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 10 ล้านบาท เป็น 11 ล้านตัน เท่ากับจะทำสถิติส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หลังเคยส่งออกสูงสุด 10.8 ล้านตันในปี 2557 ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนที่ทำให้ไทยส่งออกข้าวได้มากขึ้น ได้แก่ ประเทศผู้ผลิตข้าวประสบภัยธรรมชาติ ทั้งแล้งและน้ำท่วม เช่น ศรีลังกา บังคลาเทศ ซึ่งบางประเทศผลผลิตเสียหายถึง 30% อีกทั้งสต็อกข้าวโลกลดลง ทำให้เริ่มเปิดประมูลนำเข้า อาทิ ฟิลลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง รวมถึงจีน ก็มีการเจรจาซื้อขายข้าวในกรอบข้อตกลงรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ต่อเนื่อง แต่เนื่องจากราคาข้าวโลกขณะนี้ขยับสูงขึ้น จึงต้องใช้เวลาในการตกลงนานขึ้น “ อีกประเด็นคือสต็อกข้าวไทย ได้มีการทยอยขายจนเหลือไม่ถึง 1 ล้านตัน ประมาณ 8 แสนตัน และในส่วนนี้มีทั้งข้าวเสื่อมสภาพและข้าวสภาพดี ทำให้แรงกดดันเรื่องสต็อกสูงกระทบต่อราคาขายนั้นลดลงมาก
ฮือฮาโรงสี-ส่งออกข้าว แปลงร่างเข้าประมูลสต๊อกข้าวรัฐที่มิใช่อาหารคน มาหมดทั้ง “กลุ่มแสงฟ้า-สิงห์โตทอง” ขอใบ รง.4 ตั้งโรงงานอาหารสัตว์-ปุ๋ย ลุ้นรัฐเคาะขาย 2.12 ล้านตัน ให้เอกชน 16 ราย มูลค่า 11,000 ล้านบาท นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศเปิดให้เอกชนยื่นซองราคาเสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนครั้งที่ 2/2560 ปรากฏมีผู้มายื่นเสนอราคาซื้อสูงสุด 16 ราย จากที่ยื่นเสนอราคาทั้งหมด 21 ราย รวมปริมาณข้าว 2.12 ล้านตัน หรือคิดเป็น 96.36% ของข้าวสารทั้งหมดที่นำมาเปิดประมูล 2.2 ล้านตัน มูลค่ารวม 11,465.7 ล้านบาท “ผู้เข้าประมูลยื่นระดับราคาเสนอซื้อตั้งแต่ตันละ 2,000 บาทไปจนถึง 6,730 บาท หรือเฉลี่ยตันละ 4,000-5,000 บาท สูงกว่าการประมูลข้าวชนิดนี้ในรอบที่ผ่านมา หลังจากนี้กรมจะเสนอผลสรุปการพิจารณาต่อที่ประชุมคณะทำงานระบายข้าวกับคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ก่อนเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าวพิจารณาอนุมัติต่อไป” นายกีรติกล่าว แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวตั้
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติขายข้าวในสต็อกรัฐบาล 1.35 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 13,200 ล้านบาท จากที่เสนอซื้อ 2.03 ล้านตัน และคิดเป็น 47% ของปริมาณที่เปิดประมูลครั้งล่าสุดกลางเดือนกุมภาพันธ์ปริมาณ 2.86 ล้านตัน โดยราคาเสนอซื้อข้าวขาวเฉลี่ยตันละ 9,450 บาท ข้าวหอมมะลิเฉลี่ยตันละ 10,000 บาท แบ่งเป็น ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 7.45 แสนตัน ข้าวขาว 5% ปริมาณ 4.79 แสนตัน ทั้งนี้ ข้าวที่เหลือจากประมูลครั้งนี้จะเปิดประมูลต่อไป นอกจากนี้ นบข.เห็นชอบในหลักการให้เปิดประมูลข้าวในสต็อกของรัฐอีก 3.66 ล้านตัน สำหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ โดยจะชี้แจงเงื่อนไขการประมูล(ทีโออาร์) วันที่ 10 มีนาคม 2560 เปิดให้เอกชนยื่นซองเอกสารคุณสมบัติวันที่ 20 มีนาคม และเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 23 มีนาคมนี้ ซึ่งประกอบด้วยข้าว 17 ชนิด จำนวน 278 คลัง ใน 39 จังหวัด เช่น ข้าวหอมมะลิ 100 % ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ข้าวขาว 5% ข้าวปทุมธานี 5% ข้าวปทุมธานี ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อน ปลายข้าว เป็นต้น และเห็นชอบนำข้าวเสื่อมคุณภาพที่เหลือในสต็อกอ
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันที่ 14 ก.พ. 2560 กรมการค้าต่างประเทศ เปิดให้ผู้ประกอบการเข้ายื่นซองเอกสารเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนเข้าร่วมประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ครั้งที่ 1/2560 ปริมาณ 2.87 ล้านตัน ซึ่งเป็นข้าวเกรดพี เอ บี และซี ผสมไม่เกิน 20% รวม 17 ชนิดเช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวเหนียว เป็นต้น ปรากฏว่ามีเอกชนสนใจเข้าร่วมยื่นซองเอกสารเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ 73 ราย เช่น บจ.มหาทรัพย์ ฟีด, บจ.กรุงไทยพืชผล, บจ.แคปปิตัลซีเรียลส์, บจ.วัฒนพร อินเตอร์โกลเด้นไรซ์, บจ.พงษ์ลาภ, บจ.ธนสรรไรซ์ เป็นต้น จะประกาศรายชื่อที่ผ่านคุณสมบัติและให้ยื่นซองเสนอราคา 16 ก.พ. 2560 จาก 22 พ.ค.-6 ก.ย. 2559 ได้ระบายข้าวในสต๊อกไปแล้ว 8.4 ล้านตัน ครั้งนี้ระบายหมดเท่ากับระบายได้รวม 11.27 ล้านตัน ด้านผู้ประกอบการที่เข้าร่วมยื่นซองประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล กล่าวว่า การเสนอราคาซื้อข้าวในสต๊อกรัฐน่าจะไม่สูงนัก ราคาต่อกิโลกรัมอาจไม่ถึง 2 หลัก เพราะการที่รัฐนำข้าวหอมมะลิออกมาประมูลมากถึง 1.4 ล้านตันถือว่ามากเกินไป ควรแบ่งประมูลครั้งละ 4 แสนตัน เพื่อไม่ให้มีผลต่อตลาด เพราะช่วงนี้ยังเป็นช่วง