ปลอดสารพิษ
“โอ้ อกสาวชาวสวน นอนหนาวใจรัญจวนอยู่บ้านกลางสวนทุเรียน ลมหนาวพาพัดอยู่ฤดูผลัดหมุนแปรเปลี่ยน วัยสาวหมุนเวียน มาสิบแปดหน้าฝน…” สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักและคิดถึงทุกท่าน แว่วเสียงเพลงสาวชาวสวน ที่เคยได้ยินมาตั้งแต่สมัยเด็ก น้ำเสียงคุณ (ป้า) ลัดดาวัลย์ ประวัติวงศ์ ยังแจ่มชัดในมโนมิคลาย ผมพลันนึกไปถึงสาว (เหลือ) น้อยอีกคนหนึ่ง อดีตสาวออฟฟิศ ผู้หันหน้าเข้าหาผืนดินและสวนผลไม้ที่จากมาเป็นสิบปี เพื่อมารับงานทำสวนต่อจากพ่อแม่ที่เป็นเกษตรกรอยู่แล้ว ทิ้งเรื่องราวในเมืองหลวงและผู้คนออกมาสู่ความสุขที่หาได้อย่างแท้จริง “เบื่อค่ะพี่ โลกของเมืองใหญ่ตอบสนองเราได้ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ผู้คนที่ห่างเหินต่อกัน ทุกอย่างต้องใช้เงิน คิดถึงบ้านสวน คิดถึงพ่อแม่ เราคงถึงวัยแล้วมั้ง” “ไม่เสียดายเหรอ เงินเดือนก็ตั้งเยอะ” “คำนวณแล้วไม่คุ้มหรอกพี่ บ้านต้องเช่าข้าวต้องซื้อ ทำงานมาแต่ละเดือนก็จ่ายไปหมด ไหนจะเหนื่อยเรื่องเดินทางด้วย อยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวแบบไม่รีบร้อนมากกว่า” ที่สวน 20 ไร่ ที่ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี คุณอัญชุลี บุญเชิด เดินหน้าลุยด้วยตัวเองและลูกชาย ปลูกทุกอย่างที่อยากกิน ทั้งพืชผักและผลไ
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน หรือ บจธ. เผยการให้ความช่วยเหลือจัดหาที่ดินทำกินกับเกษตรกรผู้ยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกิน และต้องการหาที่ดินประกอบอาชีพเกษตรกรรม เพื่อกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ 65 ครัวเรือน เกินเป้าหมาย ภายใต้โครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร นายกุลพัชร ภูมิใจอวด รองผู้อำนวยการ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า การลงพื้นที่พบกลุ่มสมาชิกเกษตรกรในจังหวัดเชียงราย ของคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินและผู้บริหาร บจธ. นำโดย ผศ.ดร. จิตติ มงคลชัยอรัญญา ประธานกรรมการบริหาร บจธ. ในพื้นที่เป้าหมายชองชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ ตั้งอยู่บริเวณหมู่ที่ 7 บ้านใหม่กือนา ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ห่างจากสนามบินแม่ฟ้าหลวง ประมาณ 7 กม. เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาให้ความช่วยเหลือสมาชิกเกษตรกรผู้ยากจนและไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ภายใต้โครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร ของ บจธ. ในรูปแบบของโฉนดชุมชนหรือโฉนดรวม โดยจะมีการจัดสรรแบ่งแปลงตาม
เงาะ เป็นผลไม้ที่สำคัญของภาคตะวันออกและภาคใต้ และปัจจุบันได้ถูกนำมาปลูกในพื้นที่จังหวัดต่างๆ รวมทั้งจังหวัดหนองบัวลำภูด้วย สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอยู่ในระดับที่น่าพอใจ อย่างเช่น คุณสง่า สารพัฒน์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ที่ 9 บ้านต่างแคน ตำบลบ้านโคก อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู โทรศัพท์ (085) 456-5990 และ (063) 056-2688 (ภรรยา) คุณสง่า เล่าให้ฟังว่า มีพื้นที่การเกษตรกว่า 100 ไร่ เป็นที่ นส. 3 และ ส.ป.ก. โดยได้ทำการเกษตรหลายอย่าง ได้แก่ ยางพารา ประมาณ 50 ไร่ มีรายได้ปีละ 4 แสน ถึง 5 แสนบาท และแนวโน้มมีรายได้ลดลงเรื่อยๆ ทำไร่อ้อย 20 กว่าไร่ มีรายได้ปีละประมาณ 20,000 บาท และมีแนวโน้มรายได้ลดลงเช่นกัน ปี 2541 ได้ทดลองปลูกเงาะโรงเรียน จำนวน 200 ต้น โดยใช้ระยะปลูก 7×7 เมตร พื้นที่ประมาณ 6 ไร่ ได้จัดทำระบบน้ำไปยังต้นเงาะทุกต้น ลงทุนประมาณ 40,000 บาท สามารถให้น้ำเงาะได้ตลอดปี ในระยะแรกได้มีการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แซมช่องว่างระหว่างของเงาะ ทำให้มีรายได้เสริมในระหว่างที่ยังไม่ให้ผลผลิต การให้ปุ๋ย ได้นำแม่ปุ๋ยมาผสมใช้เองเพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยใช้สูตร 46-0-0 อัตรา 50