ปลูกถั่วเหลืองหลังนา
นิคมสหกรณ์แม่แตง สนองนโยบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งขับเคลื่อนเกษตรมูลค่าสูงด้วยการปลูกถั่วเหลืองหลังนาเพิ่มรายได้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรผ่านสหกรณ์นิคมแม่แตง จำกัด ด้านเกษตรกรปลื้มมีรายได้ทั้งปี หลัง ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน “นวัตกรรมเสริมแกร่งถั่วเหลืองไทย เพิ่มรายได้เกษตรกร” ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา พร้อมมอบนโยบายให้หน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขับเคลื่อนโครงการเกษตรมูลค่าสูง ตามนโยบายรัฐบาล “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อยกระดับรายได้ครัวเรือนเกษตรกรให้เพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2570 โดยเริ่มนำร่องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นแหล่งปลูกถั่วเหลืองคุณภาพสามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันถั่วเหลือง เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร แต่ปัจจุบันประเทศไทยผลิตถั่วเหลืองได้เพียง 2-3 หมื่นตันต่อปี ขณะที่ตลาดมีความต้องการมากถึง 3.2 ล้านต้นต่อปี นอกจากนี้ ถั่วเหลืองยังเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย จึงเหมาะที่จะนำม
จากสภาพดินเค็ม เสื่อมโทรม และขาดความอุดมสมบูรณ์มีอินทรียวัตถุต่ำ การขาดแคลนน้ำต้องอาศัยพึ่งพาเพียงน้ำฝนในการเพาะปลูกปีละครั้ง นับเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสาน ทำให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งวิถีชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ เกษตรกรเป็นจำนวนมากจำต้องละทิ้งผืนนาและบ้านเกิดเข้ามาขายแรงงานในเมืองหลวง เนื่องจากรายได้จากการเพาะปลูกพืชผลในผืนดินที่แห้งแล้งและขาดความอุดมสมบูรณ์ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพและครอบครัว ปี 2537 เกษตรกรที่บ้านหนองว้า อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบจากสภาพปัญหาดังกล่าว นาข้าวให้ผลผลิตต่ำ ทำให้มีฐานะยากจน แต่ในวันนี้ แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อเกษตรกรปรับเปลี่ยนวิถีการประกอบอาชีพ ด้วยการปลูกถั่วเหลืองหลังการเก็บเกี่ยวข้าว กลายเป็นอาชีพเสริมที่ช่วยสร้างรายได้ และช่วยพลิกผืนนาให้คืนสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ทั้งนี้ ถั่วเหลือง ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ และเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถนำไปแปรรูปอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น น้ำมันถั่วเหลือง นมถั่วเหลือง เต้าเจี้ยว เต้าหู้