ปลูกพืชสมุนไพร
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงอาหารโลก (Committee on World Food Security: CFS) ครั้งที่ 52 ระหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม 2567 ณ สำนักงานใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี โดยมี Ms. Nosipho Nausca-Jean Jezile เป็นประธานการประชุม พร้อมผู้แทนจากประเทศสมาชิก 121 ประเทศ และผู้แทนจากหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ ภาคเอกชน และองค์กรภาคประชาสังคม ร่วมกันหารือในหัวข้อ สร้างความแตกต่างในด้านความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ (Making a Difference in Food Security and Nutrition) มุ่งเน้นการผลักดันนโยบายการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร สิทธิในอาหาร การส่งเสริมบทบาทของสตรี และการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการของชุมชน ชนบทและเมือง และทาง Mr. Alvaro Lario ประธานกองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม (IFAD) ได้กล่าวเปิดการประชุม โดยเรียกร้องให้ทั่วโลกเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารอย่างเร่งด่วน ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย ราคาไม่แพง เพียงพอ ใ
บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด จับมือ วิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน สร้างชุมชนต้นแบบด้านการเกษตร เดินหน้าเปิด “ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – เขานาใน” ความภาคภูมิใจครั้งยิ่งใหญ่แห่งแรกของภาคใต้ ภายใต้บทบาทการส่งเสริมองค์ความรู้ด้วยระบบ KUBOTA (Agri) Solutions หรือ KAS นวัตกรรมเกษตรครบวงจรของสยามคูโบต้า ในการปลูกพืชสมุนไพร ชูจุดเด่น Womenomics พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ด้วยบทบาทกลุ่มเกษตรกรหญิงแกร่งแห่งวิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน พร้อมต่อยอดผลผลิต “ขมิ้นชัน” จากแหล่งปลูกที่ดีที่สุดของไทย สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูป สร้างแหล่งงานและรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกร พร้อมต่อยอดให้เกิดการถ่ายทอดให้เกษตรกรและผู้สนใจต่อไป ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายบันดาล สถิรชวาล ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – เขานาใน ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจูนจิ โอตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงการเข้าไปสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสู่การเป็น ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคู
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “การยกระดับคุณภาพชีวิตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม: ด้านพืช สมุนไพร” ร่วมกับ 3 จังหวัดในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม รวมทั้งสถาบันการศึกษาในพื้นที่ นำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ยกระดับการปลูกพืชสมุนไพร นำร่องขิง ไพล ฟ้าทะลายโจร พร้อมเชื่อมโยงบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และบริษัท กุยลิ้มฮึ้ง จำกัด รับซื้อผลผลิตคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการตลาด เปิดช่องทางการตลาดใหม่ สร้างเศรษฐกิจชุมชนและฐานรากให้ยั่งยืนโดยใช้ฐานทรัพยากรในพื้นที่ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ประเทศไทยมีสมุนไพรกว่า 10,000 ชนิด โดยร้อยละ 15.5 ของชนิดสมุนไพร นำมาใช้ประโยชน์ได้ในหลายอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยก่อนสถานการณ์โควิดมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรของประเทศไทยขยายตัวถึง 5.2 หมื่นล้านบาท สวทช. ในฐานะหน่วยงานวิจัยและพัฒนาได้ดำเนินงานด้านสมุนไพรตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ผ่านการทำงานร
“อโรคยา ปรมาลาภา … ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ยิ่งในยุคโควิด สุขภาพดีต้องมาก่อน “ดร. โชติมา ชุบชูวงศ์” แห่งไร่โชตวัน Organic Farm ในพื้นที่อำเภอปากช่อง ตั้งใจผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์คุณภาพดี ป้อนเข้าสู่ตลาด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพดีกันถ้วนหน้า ก้าวสู่อาชีพเกษตรกร ดร. โชติมา ชุบชูวงศ์ เป็นนักการตลาดผู้ปั้นแบรนด์สินค้าในองค์กรเอกชนมานานกว่า 10 ปี ได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อกลับไปฟื้นฟูสวนเกษตรในพื้นที่ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ดินทำกินของครอบครัวมานานกว่า 100 ปี เป็นแปลงปลูกพืชไร่ประเภทอ้อย มันสำปะหลัง รวมทั้งพืชผัก ผลไม้นานาชนิด เช่น น้อยหน่าพันธุ์พื้นเมือง กระท้อน เงาะ ทุเรียน ลำไย ฯลฯ ดร. โช ได้เปลี่ยนแปลงไร่แห่งนี้ให้กลายเป็นสวนเกษตรผสมผสาน ที่ปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ โดยเข้าร่วมกับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ SDGsPGS ปัจจุบันไร่แห่งนี้ ปลูกทั้งพืชผักไม้ผลนานาชนิด เช่น อะโวกาโด มัลเบอร์รี่ แก้วมังกรเหลืองอิสราเอล หมากเม่า ตะลิงปลิง เสาวรส ฯลฯ “ระหว่างทำดุษฎีนิพนธ์ ช่วงศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธจิตวิทยา ที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไ
สถานการณ์ของการทำอาชีพเกษตรกรรมมักเกิดการเปลี่ยนแปลงตามเหตุปัจจัยได้ตลอดเวลา ฉะนั้น การเรียนรู้เพื่อความอยู่รอดของชาวบ้านด้วยการปรับอาชีพเกษตรกรรมให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความเป็นอยู่ในแต่ละท้องถิ่นมักต้องทำอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการทำเกษตรกรรมเดิมที่ทำอยู่ พื้นที่จำนวน 5 ไร่ ตั้งอยู่เลขที่ 27/1 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านหาร อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ของ คุณยิ่งมณี โยะหมาน ได้จัดทำเป็นแปลงปลูกพืชสมุนไพรและผักพื้นบ้านแบบอินทรีย์ จำนวนกว่า 10 ชนิด เพื่อนำไปขายทุกวันที่ตลาดสดในอำเภอหาดใหญ่ ทำให้มีรายได้ทุกวันโดยไม่สนใจกับรายได้จากพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น คุณยิ่งมณี ปลูกพืชสมุนไพรและผักพื้นบ้านมา 2 ปีแล้ว โดยมองว่าพืชผักเหล่านี้มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น บางชนิดตัดยอดขายทำให้มีรายได้ทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพียงอาศัยความใส่ใจและทุ่มเทอย่างเต็มที่เท่านั้น พืชสมุนไพรและผักพื้นบ้านที่คุณยิ่งมณีปลูกไว้มีจำนวนหลายชนิด โดยจะปลูกสลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามความเหมาะสม ซึ่งในแต่ละครั้งจะปลูกจำนวนกว่าพันต้น ลักษณะแปลงปลูกเป็นแถว/แนว วางผังการปลูกให้เหมาะสมอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ พืช/ผักชนิดหลักที่ปลูกตา