ปลูกหอมแบ่ง
“ต้นหอม” หรือ “หอมแบ่ง” ผักกินใบและใช้ลำต้นปลูกไม่นาน ติดอันดับผักขายดีที่ทุกแผงผักต้องมีติดไว้ เพราะถือเป็นผักที่มีส่วนสำคัญในการปรุงอาหารทั้งคาวและหวาน ทำให้ความต้องการใช้ในแต่ละวันสูงมาก แต่ยังไงก็ตามสำหรับเกษตรกรท่านใดที่อยากปลูกหอมแบ่งเพื่อสร้างรายได้ ควรมีการศึกษาการตลาดและวางแผนจัดการปลูกให้ดี เพราะหอมแบ่งเป็นพืชที่มีราคาผันผวนสูง ในวันที่ราคาดีราคาก็พุ่งสูงไปถึงกิโลกรัมละร้อย แต่หากช่วงไหนราคาตกก็ตกลงมาอย่างน่าใจหาย เพราะฉะนั้นการวางแผนและเทคนิคการปลูกถือเป็นเรื่องสำคัญ คุณสุรางค์ นรเอี่ยม หรือ พี่ก้อย อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองกร่าง อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์คนเก่ง สร้างตัวจากอาชีพเกษตร ปลูกพืชผสมผสาน เด่นที่การจัดสรรพื้นที่และเทคนิคการปลูกการดูแล รวมถึงการวางแผนการตลาดก่อนปลูกให้มีกำไรตลอดทุกช่วงการผลิต พี่ก้อย เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเป็นเกษตรกรว่า เมื่อก่อนตนเองและสามีประกอบอาชีพเปิดร้านซ่อมรถเป็นหลัก การทำเกษตรเป็นเพียงอาชีพเสริมเท่านั้น แต่เมื่อได้ทำมาสักพัก งานเกษตรได้กลายเป็นงานสร้างรายได้หลักให้กับครอบครัวแบบไม่ได้ตั้งใจ เริ่มทำจากพื้นฐานค
วันที่ 3 มีนาคม 2560 เกษตรกรชาว อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต่างพากันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกข้าวนาปรัง แล้วหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยกันอย่างคึกคัก ภายหลังจากที่ทางชลประทานงดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากน้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในช่วงวิกฤต มีระดับน้ำเหลือน้อยกว่าทุกปี โดยเฉพาะนางพรพิมล แซ่พลกรัง อายุ 53 ปี ชาวบ้าน ต.สีมุม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ปรับพื้นที่นาจำนวน 10 ไร่ ให้กลายเป็นแปลงปลูกหอมแบ่ง ซึ่งวันนี้อยู่ระหว่างการนำพันธุ์หอมแบ่งลงปลูกใหม่ๆ จึงต้องมาดูแลตลอดทั้งวัน นางพรพิมล แซ่พลกรัง เกษตรกรผู้ปลูกหอมแบ่ง เปิดเผยว่า ปกติแล้วบริเวณนี้จะอยู่ใกล้กับลำคลองธรรมชาติ ซึ่งจะสามารถปลูกข้าวนาปรังได้บางส่วน แต่ปีนี้น้ำในคลองเหลือน้อย จึงได้พากันปรับพื้นที่นาให้เป็นแปลงผักเพื่อปลูกหอมแบ่งซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย โดยปลูกทั้งหมด 10 ไร่ ใช้เงินลงทุน ค่าต้นพันธุ์ ค่าจ้างคนงาน ค่ารดน้ำ ค่าไฟ และค่าปุ๋ย รวมประมาณ 200,000 บาท ระยะเวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 50 วัน ซึ่งหากถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็คาดว่าจะได้ต้นหอมแบ่งประมาณ 35 ตัน โดยจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่ ส่วนราคาของต้นหอมแบ่งนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆ ตอนนี้อยู