ปัญหาสิ่งแวดล้อม
สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค พร้อมตัวแทน ผู้อำนวยการกองควบคุมอาคาร กรุงเทพมหานครร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม เอส ประดิพัทธ์ (ซอยประดิพัทธ์ 21 และ 23) โครงการเอส รัชดา (รัชดา ซอย 44 ) และโครงการเดอะมูฟ (พหลโยธิน 37) ที่อยู่ในซอยแคบ หลังมีประชาชนชุมชนดั้งเดิมกว่า 1 พันคน ร้องเรียนว่า การใช้ชีวิตประจำวันได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างหลายเรื่อง โดยเฉพาะการก่อสร้างอาคารที่มีขนาดมากกว่า 9 พันตารางเมตร ภายในซอยแคบที่ถนนสาธารณะต้องมีความกว้าง 6 เมตรขึ้นไป จากการลงสำรวจพื้นที่ พร้อมทดสอบวัดระยะความกว้างของถนนภายในซอยประดิพัทธ์ 23 ทางเข้าโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม เอส ประดิพัทธ์ พบตลอดเส้นของถนนทางเข้า เป็นย่านชุมชน มีทั้งตลาด ร้านค้า อพาร์ตเมนต์พบว่า ความกว้างของถนนสาธารณะมีระยะกว้างไม่ถึง 6 เมตร โดยวัดได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.6 – 5.8 เมตร ขณะที่ผิวการจราจรกว้าง 3.8 – 4 เมตร มีเพียงบางช่วงเท่านั้น ที่ความกว้างเกิน 6 เมตร ขณะที่พื้นที่ก่อสร้างคอนโดมิเนียมเดอะมูฟ ในซอย พหลโยธิน 37 ซึ่งสภาพพื้นที่ก่อสร้างเป็นซอยคับแคบและลึก มีชุมชนดั้งเดิม รวมถึง โรงเรียนม
ในงานประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2562 (NAC2019) ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับไม้เศรษฐกิจ รวม 12 หน่วยงาน เปิดตัว “กลุ่มพัฒนาอุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจร” ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจร ให้เป็นเครื่องมือตัวใหม่ในการพัฒนาประเทศที่จะสร้างรายได้ปีละ 2-4 ล้านล้านบาท ดร. ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ทำให้โลกหันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ และนำไม้จากแหล่งที่จัดการอย่างยั่งยืนมาใช้ประโยชน์ ความต้องการไม้ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มเช่นนี้ไปอีกนาน การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น ชีวมวลยิ่งเร่งอัตราความต้องการใช้ไม้ของโลกให้เร็วและมากขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยปลูกต้นไม้ได้โตกว่าเขตอบอุ่น 5-7 เท่า และภาคเกษตรของไทยกำลังประสบปัญหาหลายด้าน การปรับเปลี่ยนไปปลูกไม้เศรษฐกิจเป็นทางเลือกที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ