ปูนิ่ม
ปูทะเลเป็นอีกหนึ่งสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะเกษตรกรผู้เลี้ยงนำมาทำตลาดได้หลากหลายขึ้นอยู่ที่ลูกค้าต้องการนำไปประกอบอาหารประเภทใด จึงทำให้อาหารที่ทำขึ้นจากปูทะเลได้รับความนิยมและตลาดมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันการทำเกษตรให้ได้คุณภาพและจำหน่ายได้ราคาสูง ถือเป็นอีกหนึ่งการผลิตที่เกษตรกรให้ความสนใจมากขึ้น เพราะความต้องการของตลาดเป็นตัวแปรสำคัญ ช่วยให้สินค้าที่ผลิตออกมาขายได้ราคาสูง คุณโอม-ธนกฤต พลอยงาม ผู้คิดค้นและริเริ่มเรื่องของการเลี้ยงปูทะเลในภาคเหนือ โดยทำน้ำเค็มให้คล้ายกับน้ำทะเลไว้ใช้เองจนประสบผลสำเร็จ ทดลองเลี้ยงตั้งแต่กุ้งไปจนถึงปูทะเล พร้อมกับทำตลาดปูทะเลให้เป็นสินค้าปูนิ่ม จนสามารถจำหน่ายได้ราคาสูงเป็นที่ต้องการของตลาด เรียกได้ว่าในช่วงนี้ผลิตไม่ทันขายกันเลยทีเดียว อดีตช่างแอร์ ผู้มีใจมุ่งมั่น เลี้ยงปูทะเลคุณภาพสูง คุณโอม เล่าให้ฟังว่า เดิมนั้นทำอาชีพเป็นช่างแอร์มาประมาณ 15 ปี ซึ่งช่วงหลังๆ จำนวนช่างมีมากขึ้นทำให้รู้สึกต้องมองหาอาชีพใหม่ เพื่อให้มีรายได้จากจำนวนงานช่างแอร์ที่ลดน้อยลง เริ่มแรกได้นำกุ้งแม่น้ำมาทดลองเลี้ยง หลังจากนั้นนำปูทะเลมาเลี้ยงด้วยเช่นกัน คุณโอม บ
2 ถึง 3 ชั่วโมง คือ ช่วงเวลาทองที่ปูทะเลหลังลอกคราบจะต้องถูกนำขึ้นจากบ่อ เพื่อไปทำเป็น “ปูนิ่ม” เพราะหากช้ากว่านี้ปูตัวนั้นก็จะดึงแร่ธาตุในน้ำเค็มมาสร้างกระดองแข็ง ทำให้เป็นภาระที่ต้องเลี้ยงรอการลอกคราบครั้งต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 1 เดือน ที่สำคัญการใช้คนทำหน้าที่ส่องดูปูในตะกร้าทีละใบและทำอย่างต่อเนื่องนั้น นอกจากจะต้องใช้คนงานบ่อละหลายคนแล้ว จะมีโอกาสผิดพลาดหรือไม่เจอปูลอกคราบได้ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากเป็นฟาร์มปูทะเลขนาด 500,000 ตัว จะเป็นเงินที่ถูกปล่อยคืนบ่อไปเฉยๆ เดือนละ 864,000 บาท” น้องบีมจากทีม “ปูนิ่มจิ้มซีฟู้ดส์”กล่าวถึงที่มาของแนวคิดการพัฒนา “ระบบตรวจจับและเก็บเกี่ยวปูนิ่มในการเลี้ยงระบบปิดแบบธรรมชาติ (System for Detecting and Harvesting Soft-shell Crabs in Closed Natural Farming Systems)” ที่คว้ารางวัล Ford Popular Vote สุดยอดนวัตกร จาก Ford Innovator Scholarship 2024 ซึ่งเป็นการประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูง Ford Innovator Scholarship 2024 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทีม “ปูนิ่มจิ้มซีฟู้ดส์” ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน คือ นางสาวบุณยาพร ปรีชาศุทธิ์ (น้องบีม), นางสาววรกาญจน์ ลาสุดี (น
บริษัท เก้าดาวฟาร์ม (2005) จำกัด ผู้ผลิตปูนิ่มแช่แข็ง ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ที่ประสบความสำเร็จภายใต้โครงการ “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” ที่แม็คโครสนับสนุน จากการทำงานร่วมกันมากว่า 15 ปี วันนี้เก้าดาวฟาร์มมีสินค้าวางจำหน่ายที่สาขาของแม็คโครทั่วประเทศ และส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา และเมียนมา สร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง “ธัญวิทย์ ธรรมสุนทร” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เก้าดาวฟาร์ม (2005) จำกัด กล่าวว่า ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับแม็คโครมานานกว่า 15 ปี ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ที่ต้องการทำตลาดสินค้าปูนิ่มให้คนไทยได้กินกัน ประจวบกับช่วงนั้นแม็คโคร ต้องการสินค้าปูนิ่มมาวางจำหน่ายที่สาขาของแม็คโครในประเทศไทย จึงเริ่มทำงานร่วมกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแม็คโครได้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องมาตรฐานต่างๆ ทั้งเรื่องคุณภาพ การทำตลาด ตลอดจนเปิดโอกาสให้นำเสนอสินค้าเข้าสู่สาขาของแม็คโครในต่างประเทศ ทั้งที่กัมพูชา และเมียนมา “คุณภาพและมาตรฐาน คือหัวใจสำคัญของสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เราวางจำหน่ายในแม็คโคร กระบวนการผลิตปูนิ่มแช่แข็งของเราจึงต้องใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกพันธุ์ปูดำตามขนาดที่เหมาะสม ให้มีความสม
“ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย” เป็นหนึ่งในเมนูอาหารทะเลยอดนิยมที่หลายคนติดอกติดใจ แต่หลายคนที่ไม่รู้จักว่าปูนิ่มคืออะไร บ้างครั้งเข้าใจผิดว่าปูนิ่มเป็นปูพันธุ์ใหม่ที่มีเปลือกนิ่มโดยธรรมชาติ ความจริงแล้ว ปูนิ่ม คือ ปูทะเลหรือปูดำที่อาศัยอยู่ในทะเลตามธรรมชาติ แต่ช่วงการเจริญเติบโต ปูจะมีการลอกคราบเหมือนกุ้ง เมื่อลอกคราบแล้วตัวปูจะโตขึ้นกว่าเดิม ในช่วงชีวิตการเจริญเติบโต ปูจะลอกคราบหลายสิบครั้ง หลังลอกคราบตัวจะนิ่มทั้งหมดรวมถึงกระดองด้วย หลังจากนั้น จะค่อยๆ แข็งขึ้นในไม่กี่ชั่วโมงหลังลอกคราบ ในการลอกคราบตามธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาลอกคราบปูก็จะต้องหาที่หลบซ่อนเพื่อให้พ้นจากศัตรูหรือแม้แต่พวกเดียวกันเอง เพราะในช่วงจังหวะนั้นปูจะไม่สามารถต่อสู้หรือหลบหนีศัตรูได้ มีแต่ตกเป็นอาหารของสัตว์อื่นอย่างเดียว สมัยก่อน ปูนิ่มสามารถจับได้จากธรรมชาติแต่เพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันผู้คนรู้จักและเข้าใจวิถีการเจริญเติบโตของปูมากขึ้น จึงนำปูทะเลหรือปูดำมาเพาะเลี้ยงเพื่อผลิตปูนิ่มออกจำหน่าย ทำให้คนไทยสามารถบริโภคปูนิ่มได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ราคาแพงอยู่บ้างแต่ก็คุ้มค่าเพราะปูนิ่มสามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งตัวนั่นเอง จังหวัดส
เกษตรกรชาวตำบลท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ใช้นากุ้งร้างมาเพาะเลี้ยงปูนิ่มเพื่อขายเป็นรายได้เสริม ตอบโจทย์ของตลาดได้ดีทำยอดขายพุ่งมีไม่พอกับความต้องการของลูกค้า เผยหลังสึนามิและเลิกทำอวนรุนมานานกว่า 10 ปี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมากรายได้เหยียบแสนบาทต่อเดือน นายจันทร์ รอดเข็ม อายุ 54 ปีอยู่บ้านเลขที่ 229 หมู่ 6 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เล่าาว่า ซึ่งในอดีตเคยประกอบอาชีพประมงอวนรุนต่อมาทางหน่วยงานราชการให้เงินชดเชยผู้ที่เลิกอาชีพการทำอวนรุน เพื่อปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ที่ไม่ทำลายสัตว์น้ำวัยอ่อน ประกอบกับเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้ตัดสินใจรับเงินชดเชยและขายอุปกรณ์การทำอวนรุน เพื่อมาลงทุนเลี้ยงปูนิ่มในพื้นที่นากุ้งร้างของตนมานานกว่า 10 ปีแล้ว ทั้งนี้ ประกอบกับตนเองได้ศึกษาความต้องการของตลาดแล้วพบว่ายังขาดแคลนปูนิ่มอยู่มาก ทำให้ได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 310 บาท โดยส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการเพาะเลี้ยงปูนิ่มโดยรวมกลุ่มกับเพื่อนบ้าน ส่งปูนิ่มขายให้กับร้านอาหารต่าง ๆ ทั้งใน จ.ตรังและหลายจังหวัดทางภาคใต้ จนปูนิ่มไม่เพียงพอต่อความต้อง
ปูนิ่ม ที่เรารู้จักและรับประทานกันเป็นอาหาร หลายคนเข้าใจกันว่าแหล่งผลิตส่วนใหญ่จะอยู่ติดกับทะเลหรือในท้องทะเลที่กว้างใหญ่ ต้องบอกว่า ทำความเข้าใจกันใหม่ ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาคิดค้นวิธีการเลี้ยงปูนิ่มจากที่เลี้ยงบริเวณริมทะเลหรือในท้องทะเล มาเป็นบ่อเพาะเลี้ยงแบบพัฒนาในหลายพื้นที่ ซึ่งมีการเลี้ยงทั้งแบบตัดก้ามและแบบธรรมชาติ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีอาชีพที่ไม่คาดคิดว่าจะมีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งอยู่ห่างจากรุงเทพมหานครเพียง 100 กว่ากิโลเมตร คือ อาชีพเพาะเลี้ยงปูนิ่ม พี่พิธาน ลิปิสุนทร เจ้าของฟาร์ม ให้การต้อนรับและอธิบายเล่าถึงที่มาที่ไปของอาชีพเพาะเลี้ยงปูนิ่มให้กับทีมงานได้ฟังทุกขั้นตอนการเลี้ยง พี่พิธาน เล่าให้ฟังว่า ที่ดินผืนนี้ เป็นของป้าและย่า ซึ่งเดิมจะปล่อยให้เช่าทำฟาร์มเลี้ยงกุ้ง แต่หลังจากสัญญาเช่าหมดลง ตนก็มาขอเช่าต่อ เพื่อจะใช้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งหวังจะสร้างเป็นอาชีพให้กับตนเอง “ตอนนั้นเองผมยังไม่ได้คิดว่าจะเลี้ยงอะไร ไปปรึกษากับเพื่อนที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องสัตว์น้ำ เขาก็บอกว่า อย่างเราเนี้ย ประสบการณ์เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำก็ยังมีน้อย อย่างการเลี้ยงกุ้งมันก็
ปูนิ่ม ที่เรารู้จักและรับประทานกันเป็นอาหาร หลายคนเข้าใจกันว่าแหล่งผลิตส่วนใหญ่จะอยู่ติดกับทะเลหรือในท้องทะเลที่กว้างใหญ่ ต้องบอกว่า ทำความเข้าใจกันใหม่เถอะครับ ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาคิดค้นวิธีการเลี้ยงปูนิ่มจากที่เลี้ยงบริเวณริ่มทะเลหรือในท้องทะเลมาเป็นบ่อเพาะเลี้ยงแบบพัฒนาในหลายพื้นที่ ซึ่งมีการเลี้ยงทั้งแบบตัดก้ามและแบบธรรมชาติ มีอาชีพที่ไม่คาดคิดว่าจะมีอยู่ในพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างจากรุงเทพมหานครเพียง 100 กว่ากิโลเมตร คือ อาชีพเพาะเลี้ยงปูนิ่ม เมื่อรถของทีมงาม กว่า 20 ชีวิต มาถึง พี่พิธาน ลิปิสุนทร เจ้าของฟาร์ม ก็เข้ามาตอนรับและอธิบายเล่าถึงที่มาที่ไปของอาชีพเพาะเลี้ยงปูนิ่มให้กับทีมงานได้ฟังอย่างลวงลึก ในทุกขั้นตอนการเลี้ยง พี่พิธาน เล่าให้ฟังว่า ที่ดินผืนนี้เป็นของป้าและย่า ซึ่งเดิมจะปล่อยให้เช่าทำฟาร์มเลี้ยงกุ้ง แต่หลังจากสัญญาเช่าหมดลง ตนก็มาขอเช่าต่อ เพื่อจะใช้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งหวังจะสร้างเป็นอาชีพให้กับตนเอง “ตอนนั้นเองผมยังไม่ได้คิดว่าจะเลี้ยงอะไร ไปปรึกษากับเพื่อนที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องสัตว์น้ำ เขาก็บอกว่า อย่างเรานี่ ประสบการณ์เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำก็ยังมีน้อย
นายสมนึก มณีพินิจ ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามผลดำเนินงานของกลุ่มสมาชิกกองทุน “กลุ่มเลี้ยงปูนิ่ม” ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง นายสมนึก มณีพินิจ ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กล่าวว่า จ.ระนอง มีสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีประเภทบุคคล 38,616 คน และสมาชิกประเภทองค์กร 154 องค์กร มีโครงการได้รับการอนุมัติงบประมาณประเภทเงินอุดหนุน 47 โครงการ เป็นเงิน 3,000,000 บาท ผู้ได้รับประโยชน์ 5,151 คน และมีโครงการได้รับการอนุมัติงบประมาณประเภทเงินหมุนเวียน 71 โครงการ เป็นเงิน 12,000,000 บาท ผู้ได้รับประโยชน์ 1,955 คน สำหรับกิจกรรมการลงพื้นที่ จ.ระนอง ครั้งนี้ นอกจากจะมีการจัดเวทีเสวนา กิจกรรม “Inside Product By Thai Womenfund สัญจร” โดยผู้บริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานและความคืบหน้าการขับเคลื่อนภารกิจการสนับสนุนบทบาทสตรีในภาพรวม ทั่วประเทศและในพื้นที่ จ.ระนองแล้ว พร้อมกันนี้ ยังลงพื้นที่เพื่อพบปะและตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานของกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในพื้นที