ผลิตภัณฑ์นม
ความยากจนไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เป็นเพียงบททดสอบชีวิต ที่ทุกคนต้องพยายามก้าวข้ามให้ได้ หากสอบผ่าน ครอบครัวจะมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเหมือนกับ “ลุงเชือน ชัยพร้อม” เกษตรกรวัย 73 ปี เจ้าของกิจการธุรกิจเลี้ยงวัวนม ชื่อ “สำราญฟาร์ม” ตั้งอยู่ หมู่ที่ 4 ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ลุงเชือนเกิดในครอบครัวเกษตรกร ยึดอาชีพทำเกษตรตามรอยพ่อแม่ ลุงเชือนทำเกษตรบนที่ดิน 50 ไร่ ปลูกพืชหลายชนิด เนื่องจากที่ดินดังกล่าวอยู่ห่างจากแหล่งน้ำชลประทาน จึงเพาะปลูกพืชไร่เป็นหลัก เริ่มจากปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง ทำไร่สับปะรด แต่ไม่ประสบความสำเร็จในด้านรายได้ เนื่องจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ตลาดมีความเสี่ยงสูง ราคาสินค้าปรับขึ้นๆ ลงๆ ตามภาวะตลาด เลือกอาชีพเลี้ยงวัวนม ลุงเชือนตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพหันมาเลี้ยงโคขุนแทน แต่ได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ในปี 2542 องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรในจังหวัดเพชรบุรีหันมาเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพ โดย อ.ส.ค. ร่วมกับวิทยาลัยเกษตรกรรมเพชรบุรี อบรมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรายใหม่ โครงการดังกล่าวนับเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพเลี้ยงวัวนมของลุงเช
นายพุทธพงษ์ สุริยะสิงห์ นายอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี พร้อมด้วย นายประชา ธนบัตรวิโรจน์ สาธารณสุขอำเภอหนองแค รับมอบผลิตภัณฑ์นมคุณภาพ จาก ซีพี-เมจิ เป็นมูลค่ากว่า 100,000 บาท ภายใต้ โครงการ “ซีพี-เมจิ ส่งต่อพลัง สตรองไปด้วยกัน” เพื่อเสริมพลัง สร้างความแข็งแรงให้กับทีมแพทย์ และผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวที่ศูนย์พักคอยชุมชนวัดบ้านลาด และศูนย์พักคอยชุมชนวัดโคกมะตูม โดยมี นายภูวนาถ โชคเพิ่มพูน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เป็นผู้แทนมอบ พร้อมทั้งชาวจิตอาสา ซีพี-เมจิ ร่วมมอบ ณ วัดโคกมะตูม อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี นายพุทธพงษ์ สุริยะสิงห์ นายอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า ศูนย์พักคอยชุมชนวัดบ้านลาด และศูนย์พักคอยชุมชนวัดโคกมะตูม รองรับการบริการผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งในอำเภอหนองแคและพื้นที่ใกล้เคียง ได้มากกว่า 300 เตียง ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ในการดูแลทั้งทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวหนองแคเป็นอย่างดี ไม่เพียงในวิกฤตโควิด-19 เท่านั้น ยังมีการร่วมผนึกกำลังและยกระดับการพัฒนาชุมชน ร่วมกันกับภาครัฐโดยอำเภอหนองแคมาโด
“มนัญญา” ลุยเอง นำทัพผู้บริหาร อ.ส.ค. “นมไทย-เดนมาร์ค” หาลู่ทางเปิดตลาดผลิตภัณฑ์นมในประเทศจีน หวังผลักดัน อ.ส.ค. เป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำของประเทศ และเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมนมในอาเซียน ตลอดจนขยายการรองรับการเติบโตน้ำนมดิบของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย นส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กำลังเร่งผลักดัน อ.ส.ค. ให้เติบโตเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำของประเทศไทยและเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมนมในอาเซียน โดยนำคณะผู้บริหารระดับสูงขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เดินทางไปศึกษาและสำรวจตลาดผลิตภัณฑ์นม ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหาลู่ทางในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ในตลาดต่างประเทศให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยการเดินทางครั้งนี้ได้สำรวจตลาดที่ Hema Supermarket ที่มีจุดแข็งในการบริหารการขายทาง Online – Offline และห้าง Carrefour ปัจจุบัน ประเทศจีน ได้มีการพัฒนาในเรื่องบรรจุภัณฑ์ ดีไซน์และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์นม ที่ตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก หากสามารถส่งออกได้ ก็จะรองรับการเติบโตน้ำนมดิบของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังเปิดงานสัมมนา เรื่อง “โคนมไทย ก้าวไปพร้อมกับ เอฟทีเอ” เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2562 ณ โรงแรมเซอร์เจมส์รีสอร์ทแอนด์คันทรีคลับ จังหวัดสระบุรี ร่วมกับอธิบดีกรมปศุสัตว์ว่า สองหน่วยงานได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโคนมไทย รับมือข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า และใช้ประโยชน์จาก เอฟทีเอ บุกตลาดต่างประเทศ โดยได้จับมือร่วมกันทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2561 ที่ผ่านมา ในโอกาสที่เกษตรกรและผู้ประกอบการโคนมจากทั่วประเทศเดินทางมาเข้าร่วมงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2562 ที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 30 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2562 ณ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี จึงได้ร่วมกันจัดสัมมนา เรื่อง “โคนมไทย ก้าวไปพร้อมกับ เอฟทีเอ” ในวันที่ 29 มกราคม 2562 โดยมีเกษตรกรและผู้ประกอบการโคนมไทยที่เกี่ยวข้องทั้งระบบห่วงโซ่การผลิต ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ กว่า 150 คน เข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้จากความสำเร็จของเกษตรกรและผู้ประกอบการโคน
รายงานข่าวจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเฉิงตู ได้รายงานถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมนมในประเทศจีน หลังจากจีนมีปัญหานมผงเลี้ยงเด็กที่มีส่วนผสมของเมลามีนเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โดยพบว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมนมได้กลับมาฟื้นตัว หลังจากที่รัฐบาลจีนได้เข้าไปควบคุมดูแลในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้า ทำให้ความต้องการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์นมขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในรายงานระบุอีกว่า ผลจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การบริโภคนมและผลิตภัณฑ์นมของผู้บริโภคชาวจีนขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคชาวจีนก็ยังมีความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์นมในประเทศค่อนข้างต่ำ แม้ว่ารัฐบาลจะมีการเข้าไปควบคุมคุณภาพการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแล้วก็ตาม โดยผู้บริโภคชาวจีนมักจะนิยมและให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์นมที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐาน “ผู้ส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมของไทย ทั้งที่เป็นโรงงานผู้ผลิต สหกรณ์นิคมฯ หรือ กลุ่มเอสเอ็มอีรายย่อยในภูมิภาค ควรใช้โอกาสที่ตลาดนมในจีนฟื้นตัว ทำการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมของไทยเจาะเข้าสู่ตลาดจีน เพราะสินค้าไทยมีคุณภา
สภาวะอากาศผันผวนหนัก ฝนตกชุกสารพัดโรครุม ทั้งโรคปากเท้าเปื่อย เต้านมอักเสบและปอดบวมเฉียบพลันกระหน่ำโคนมตาย 10-20% ส่งผลผลิตนมดิบ 3 ไตรมาสแรกปีนี้วูบ 17% โฟร์โมสต์ปรับแผนเร่งส่งเสริมเกษตรกรหน้าใหม่-เก่าผลิตเพิ่มในปีหน้า รับมือผลผลิตทรงตัว จับมือ อ.ส.ค.-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ผลิตหลักสูตรโคนมแห่งชาติแก้วิกฤตทั้งระยะสั้น-ยาว ดร. โอฬาร โชควิวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศของไทยในปีนี้ ทั้งภัยแล้งช่วงต้นปี ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงโคนมในประเทศ โดยพืชอาหารสัตว์ได้รับความเสียหาย ในขณะที่เกิดฝนตกชุกตั้งแต่กลางปีเป็นต้นมา ทำให้แม่โคนมเป็นโรคเต้านมอักเสบ ส่งผลให้น้ำนมโคที่รีดได้จำนวนหนึ่งไม่สามารถนำมาบริโภคได้ ปัญหาการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยอย่างต่อเนื่อง เพราะเกษตรกรไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันพร้อมกันในระยะ 5-7 วัน เพราะกลัวแม่โคแท้งลูก และโรคปอดบวมเฉียบพลันในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ที่ทำให้แม่โคล้มตายกว่า 10-20% อันเนื่องมาจากความชื้นในอากาศสูง จึงทำให้เกษตรกรโคนมต้องคัดทิ้งแม่โ