ผลไม้มหัศจรรย์
คีเปล หรือ Kepel เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 10-15 เมตร มีใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปวงรี ปลายแหลม ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและกิ่งก้าน มีดอกย่อยหลายดอก มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอกมีสีเหลือง ส่งกลิ่นหอมที่แรง ผลคีเปลจะออกตามลำต้นห้อยระย้าจำนวนมาก เปลือกผลสีน้ำตาลแก่ผิวหยาบ เมื่อผลแก่เปลือกจะมีผิวเรียบสีขาวอมเหลือง และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อผลแก่จัด จะส่งกลิ่นหอมมาก รสชาติหวานกลมกล่อม มีเมล็ดที่ใหญ่ ทำให้เนื้อน้อย ใน 1 ผล จะมีเมล็ด 3-6 เมล็ด คีเปลถือเป็นไม้แปลกและหายากของโลก มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย คีเปล แปลว่า กำมือ ซึ่งชาวชวาเรียกตามลักษณะของผลที่มีขนาดเท่ากำมือ คีเปลมีความต่างจากผลไม้ทั่วไป เพราะผลออกตามลำต้น คีเปลเป็นผลไม้ที่น่าสนใจ นอกจากดอกที่ส่งกลิ่นหอมแล้ว ผลสุกเมื่อทานเข้าไปก็ทำให้ร่างกายมีกลิ่นหอม นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณทางสมุนไพร คือช่วยให้ถ่ายปัสสาวะได้คล่องและมีกลิ่นหอม คีเปลเป็นพันธุ์ไม้โบราณหายาก มีบางตำนานกล่าวไว้ว่า คีเปลเป็นผลไม้ต้องห้าม ที่อนุญาตให้ปลูกได้ในเขตวังเท่านั้น เพื่อให้บุคคลในวังทาน เพราะคีเปลผลไม้ที่ทำให้กลิ่นกายหอม แต่อาจด้วยระยะเวลาที่ผ่านไป ทำใ
ฉันมาจากแดนไกล เดินทางข้ามทวีปก่อนจะมาอยู่เมืองไทย ถิ่นกำเนิดฉันในแอฟริกาตะวันตก สาธารณรัฐกานา (Ghana) ประเทศกานา อาจจะมีพูดถึงประเทศนี้น้อยแต่สีสันโดดเด่นมากทั้งสีผิวชนพื้นเมืองและสีสดใสของเสื้อผ้า แต่เมื่อฉันข้ามโลกไปอยู่ที่รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ฉันจึงมีโอกาสได้มาอยู่เมืองไทย เพราะเมื่อปี 2532 เจ้าของ “suanvarin” คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา จากสวนวารินทร์ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ได้นำเข้ามาทำการปลูกเพาะขยายพันธุ์ไว้หลายร้อยต้น เพื่อเผยแพร่ให้ผู้สนใจไม้รสชาติแปลกชนิดนี้ ให้เป็นที่รู้จักจนทุกวันนี้ ฉันจึงรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจมากที่ฉันได้อยู่ใน “โลกออนไลน์แห่งกูเกิล” ฉันคิดไม่ถึงว่าตัวฉันเอง มีนักวิชาการเด่นดังระดับประเทศหลายท่านได้กล่าวถึง นอกเหนือจากที่ อาจารย์ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ บันทึกไว้เป็นเกียรติแล้ว มี อาจารย์อานนท์ เอื้อตระกูล ผู้มีชื่อเสียงด้านการเพาะเห็ด และผู้เชี่ยวชาญองค์การค้าโลก ประจำประเทศกานา ปี พ.ศ. 2532-2535 กล่าวถึง “ต้นมหัศจรรย์” ว่าเป็นพืชประจำประเทศกานา ที่มีการปลูกมากที่สุดเพื่อส่งออกไปจำหน่ายในยุโรปและอเมริกา ได้ศึกษาแล้วไม่มีความเป็นพิษ เพียงแต่มีข้
“จะต้องค้นหาพืชที่ความแปลกใหม่ จะต้องไม่ปลูกพืชตามกระแส พืชอะไรก็ตามที่มีการซื้อ-ขายกันมากไม่แนะนำให้ปลูก จะต้องหลีกเลี่ยง ที่ผ่านมาจะเป็นผู้นำในการพัฒนาการปลูกไม้ผลที่แปลกและตลาดมีความต้องการ ถึงแม้ตลาดจะไม่มากเท่ากับไม้ผลเศรษฐกิจที่เกษตรกรมักจะฮือฮาปลูกตามกัน จะไม่ปลูกไม้ผลตามคนอื่น” นี่คือ ปรัชญาในการปลูกพืชของ คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา จัดเป็นนักพัฒนาการปลูกไม้ผลที่มีความแปลกใหม่และสามารถปลูกให้เป็นเศรษฐกิจได้ในประเทศไทย คุณวารินทร์นับเป็นเกษตรกรไทยรายแรกที่เป็นต้นแบบในการบังคับให้น้อยหน่าออกนอกฤดูจนประสบความสำเร็จ, พัฒนาการปลูกต้นมิราเคิลหรือต้นมหัศจรรย์ซึ่งเป็นไม้ผลจากต่างประเทศจนประสบความสำเร็จ, พัฒนาการปลูกมะม่วงอาร์ทูอีทูซึ่งเป็นมะม่วงของประเทศออสเตรเลีย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางด้านการตลาด และพัฒนาไม้ผลที่ฮือฮามากที่สุดในขณะนี้ ก็คือ พุทรายักษ์พันธุ์ซุปเปอร์จัมโบ้ ซึ่งมีขนาดของผลใหญ่มาก มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 4-5 ผล ต่อกิโลกรัม ปัจจุบัน พุทราพันธุ์ซุปเปอร์จัมโบ้ ยังสร้างรายได้หลักให้กับคุณวารินทร์ โดยขายผลผลิตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 50 บาท ต่อกิโลกรัม การพัฒนาการปลูกต้นมิราเคิลซึ่งเป็นที
ชื่ออื่นๆ พรหมตีนสูง, ขันหมากเศรษฐี ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aglaonema tenuipes Engl. วงศ์ : ARACEAE ว่านขันหมากป่า ในตำราฝรั่งบันทึกไว้ว่า อยู่ในจำพวก Aglaonema เช่นเดียวกับ เขียวหมื่นปี กวักทองคำ กวักใบลาย กวักมรกต ฯลฯ ที่เป็นไม้ประดับทั่วไปตามท้องตลาด แต่คงไม่มีว่านชนิดไหน หรือต้นไม้อะไรที่จะมีช่วงระยะเวลาการสุกของผลนานเท่ากับว่านขันหมากป่านี้อีกแล้ว โดยปกติผู้เขียนเองก็เป็นคนดื้อ ไม่ค่อยยอมเชื่ออะไรง่ายๆ จากการที่เคยอ่าน เคยศึกษาค้นคว้ามาบ้าง ถ้านับจากเมล็ดเริ่มงอกจนถึงต้นสมบูรณ์พอที่จะให้ลูกติดผลได้ก็ปาเข้าไป 6-7 ปีโน่น ด้วยเหตุและผลประมาณนี้เอง จากการที่ว่านขันหมากป่ามีการเจริญเติบโตค่อนข้างช้ามากๆ จึงพอจะเป็นสมมุติฐานได้ว่า เมื่อตัวว่านขันหมากป่าเองยังแก่ช้า ก็ย่อมมีสรรพคุณชะลออายุ ชะลอความเหี่ยวชราได้เป็นอย่างดี มีส่วนจริงนะ ขนาดมะพร้าวต้นสูงๆ ผลโตกว่าว่านขันหมากป่าตั้งหลายเท่ากว่าจะแก่ยังใช้เวลาแค่ปีเดียวเอง แล้วเจ้าว่านนี่ผลเล็กนิดเดียวเท่าปลายก้อย ทำไมมันจึงได้สุกยากสุกเย็นพรรค์นี้ก็ไม่ทราบ ด้วยความอยากรู้ อยากพิสูจน์ จึงได้ขุดลงมาจากยอดเขาสองต้น ติดลูกเขียวๆ มาด้วยสองช่อ เอามาปลูก