ผักโขม
พืชที่คนบ้านเรานำมาประกอบเป็นอาหาร เป็นกับข้าว หรือเป็นผักสด ส่วนใหญ่ที่เป็นชนิดนำเอาใบมาเป็นอาหาร มักจะเรียกคำนำหน้าว่า “ผัก” มีตั้งแต่ต้นที่ยอดใบต่ำเรี่ยดิน จนถึงไม้สูงใหญ่ที่มีใบยอดให้เอื้อมสอยเด็ดได้ ผักบางอย่างต้องปีนป่าย ใช้บันได ใช้ไม้สอย ผักบางอย่างต้องก้มเก็บแทบจะหมอบคลาน บ้างก็ต้องลุยน้ำ พายเรือเก็บยอดใบอ่อน เพียงเพื่อนำมาเป็นผักเป็นอาหาร เหล่านั้นคือวิถีชีวิตของคนกับธรรมชาติที่อยู่ร่วมกันมาแต่โบราณกาล มีผักชนิดหนึ่งที่มีต้นเตี้ยต่ำติดดิน บางคนจัดให้เป็นวัชพืช มีชื่อเรียกหลายอย่าง แล้วแต่พื้นถิ่นนั้นจะเคยเรียกว่าอะไร “ผักขม ผักโขม ผักโหม ผักหม” ซึ่งมีหลากหลายชนิด ที่จะกล่าวถึง คือ “ผักโขมไทย หรือ ผักหมหัด” ซึ่งดูจะเป็นผักพื้นบ้านของไทยเรา เป็นชนิดแรกที่เรารู้จักกัน จากนั้นจึงมีผักโขมชนิดอื่นๆ เช่น ผักโขมหิน ผักโหมเกลี้ยง ผักโขมหนาม ผักโขมสวน ผักโขมฝรั่ง หรือผักหมหลวง ผักโขมจีนต้นก้านใบใหญ่ยาวอวบ คล้าย “ป๋วยเล้ง” ผักบำรุงกำลังของ ป๊อปอาย ผักโขมไทย ผักหมหัด จะนับเป็นผักก็ได้ เป็นวัชพืชก็ได้ เป็นพืชสมุนไพรก็ได้ โดยเฉพาะ ผักหมหัด จะเรียกผักโขม ผักโหม ผักขม ก็เรียกได้ตามพื้นถิ่น เ
หลายคนบ่น ยุคนี้ข้าวยากหมากแพง ต้นทุนค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น ไม่คุ้มกับต้นทุนค่าจ้างแรงวันละ 300 บาทเลย ภาคเกษตรก็เจอภาระต้นทุนที่สูงขึ้นเช่นกัน ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าอาหารสัตว์ เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายของเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ จึงขอแนะนำสูตรการผลิตอาหารสัตว์ต้นทุนต่ำจากทั่วประเทศมาฝากกัน ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตไม่ยุ่งยาก สามารถใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น อาหารสัตว์ต้นทุนต่ำสูตรแรก เป็นของ ผู้ใหญ่สงบ หาญกล้า แห่งบ้านดอนตะหนิน 18 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองค่าย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา และเป็นเจ้าของศูนย์เครือข่ายเรียนรู้การเลี้ยงสัตว์อินทรีย์ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ที่นี่ทำการเกษตรแบบไม่พึ่งพาสารเคมี และมีการศึกษาเรียนรู้วิธีการนำเอาวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ในการลดต้นทุนอย่างได้ผล การลดต้นทุนค่าอาหารในการเลี้ยง ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ใหญ่สงบ เลี้ยงหมูหลุมรุ่นละ 10 ตัว ระยะเวลาเลี้ยง 4-5 เดือน ต่อรุ่น มูลหมู นำไปใส่แปลงปลูกพืช ผัก และการเลี้ยงหมูหลุมลดรายจ่าย ประหยัดมากกว่าการเลี้ยงหมูปกติ และไม่มีปัญหากลิ่นและน้ำเสียจากการล้างคอก อาหารที่ใช้เป็นผักผสมกับปลายข้าวต้ม ผสมกับ
ต้นฤดูฝนของทุกปี เมื่อผมไปปั่นจักรยานออกกำลังแถวๆ บ้านย่านชานเมืองฝั่งธนบุรี ผมมักเก็บได้ผักหญ้าข้างทางกลับมามากบ้างน้อยบ้าง ค่าที่ว่าเมื่อฝนแรกๆ ของฤดูเริ่มโปรยปราย บรรดาพืชที่พอจะขึ้นได้ในพื้นที่สาธารณะรกร้างริมถนนก็จะแข่งกันแตกใบแตกยอดเต็มไปหมด การที่ยังพอมีพื้นที่แบบนี้อยู่ จึงคือความมั่นคงทางอาหารของผู้คนในระดับหนึ่ง คือพอจะให้พวกเขาสามารถกลับบ้านพร้อมยอดกระถินอ่อน ตำลึง จิงจ้อ ขลู่ กะทกรก ผักเบี้ย ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เอามาปรุงอาหารสูตรง่ายๆ ที่เรากินกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน อย่าง ผัดผักราดน้ำมันหอย ต้มจืด แกงส้ม หรือนึ่ง ลวก ต้มจิ้มน้ำพริกได้เป็นปกติ เมื่อเดินลงไปที่ดงต้นกระถินบางดง แล้วพบร่องรอยมีคนมาเด็ดยอดอ่อน เก็บฝักแก่ฝักอ่อนไปก่อนแล้ว ผมแอบรู้สึกดีใจ ว่าอย่างน้อยวิถีท้องถิ่นที่สืบทอดมาตั้งแต่ชุมชนเก็บของป่าล่าสัตว์ (Hunting – gathering society) สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยังไม่ล้มหายตายจากไปไหน แต่ถูกนำมาปรับใช้เสริมปัจจัยการกินอยู่ในสังคมปัจจุบันได้ดี แต่ผมสังเกตของผมเองว่า ในบรรดาผักข้างทางที่แตกใบแตกยอดสะพรั่งทุกต้นฤดูฝนนั้น ที่ถูกเก็บถูกเด็ดยอดไปน้อยกว่าเพื่อน คือ “ผักโขม” (Amaran
หลายคนอาจเคยผ่านหูผ่านตากับกระแสข่าวในสังคมออนไลน์ถึง “ผัก 5 ชนิดห้ามกินดิบ” เพราะมีสารที่อาจก่ออันตรายได้ ประกอบด้วยกะหล่ำปลี ถั่วงอก หน่อไม้และมันต่างๆ ถั่วฝักยาว และผักโขม แต่ทราบหรือไม่ว่า ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร เนื่องจากผักเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการและสารสำคัญช่วยป้องกันโรคบางชนิดเช่นกัน ผศ.ชนิพรรณ บุตรยี่ อาจารย์ประจำหลักสูตรพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ตอบข้อสงสัยในประเด็นข้างต้นว่า จริงๆ แล้วผักทั้ง 5 ชนิด ไม่ได้ห้ามรับประทานดิบโดยสิ้นเชิง เพียงแต่ว่าผู้ป่วยบางกลุ่มอาจต้องระวัง ประกอบด้วย 1.กะหล่ำปลี ข้อจำกัดของการห้ามกินดิบ คือ กลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) ซึ่งเป็นภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ โดยในกะหล่ำปลี จะมีสารชื่อกอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งอยู่ในกลุ่มของสารที่ขัดขวางการสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ทำให้ร่างกายนำไอโอดีนไปใช้สร้างฮอร์โมนธัยรอกซินได้น้อยกว่าปกติ หรือทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำยิ่งขึ้น แต่หากนำกะหล่ำปลีไปผ่านความร้อน สารกอยโตรเจนก็จะสลายไปได้ “แต่สำหรับคนปกติที่ร่างกายไม่มีปัญหาอะไร ก็สามารถกินได้ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วก
บริเวณสวนผักทั่วไป มักพบการแพร่กระจายไปทั่วของต้น “ผักโขม” เจ้าของแปลงผักบางรายขยันหน่อยคอยถอนต้นผักโขมเล็กๆ รากออกสีม่วงอมชมพู มีใบอ่อนเล็กๆ 2-3 ใบ ล้างน้ำเอาเศษดินเศษทรายออก วางขายตลาดสดกองละ 10 บาท เห็นมีคนแห่กันซื้อไปเป็นผัก ทำกับข้าว บางสวนปล่อยให้โตขึ้นอีกหน่อย ถอนต้นจะทิ้งก็ยังเด็ดยอดไปทำอาหารได้ หลายแห่งเอาต้นผักโขมไปต้มเลี้ยงหมูบ้าน (หมูดำ) ผสมรำ ปลายข้าว หยวกกล้วย ทุ่นค่าอาหารหมูได้มากมาย ผักโขม หรือผักขม หรือผักโหม เป็นพืชที่นักวิทยาศาสตร์รุ่นก่อนๆ พยายามวิจัยถึงคุณค่าทางอาหาร ในชื่อที่เรียกพืชชนิดนี้ว่า อะมารานธ์ (Amaranth) เขาว่าเป็นพืชหลักของชาวแอซเท็ก พบว่าในเมล็ดผักโขม มีปริมาณกรดอะมิโนมากกว่าธัญพืชหลักอื่นๆ ใบใช้รับประทานเป็นผักสีเขียว ยังมีอีกหลายประเทศศึกษาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเม็กซิโก อินเดีย สหรัฐอเมริกา ในเมืองไทยเราถือว่า ผักโขมเป็นพืชพื้นบ้านของเรา มีหลายชนิด เช่น ผักโขมหนาม ผักโขมหิน ผักโขมหัด ผักโขมสวน ผักโขมเกลี้ยง ที่เข้ามาตีตลาดคือ ผักโขมจีน ผักโขมเป็นพืชที่ให้สารวิตามินเอแก่ร่างกายเช่นเดียวกับฟักทอง ผักบุ้ง พริกชี้ฟ้า มีรสขมเล็กน้อย มีสรรพคุณแก้เลือดเป็นพิษ ดี
ผลจากสภาวะทางธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง สร้างปัญหาส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรกรรมของชาวบ้านทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเกษตรกรรมในยุคก่อนที่ชาวบ้านนิยมปลูกพืชเชิงเดี่ยวกันเป็นส่วนใหญ่ พอเกิดปัญหาความแปรปวนทางธรรมชาติจึงสร้างความเสียหายโดยตรงกับการทำเกษตรเชิงเดี่ยวทันที ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกับรายได้ในการทำมาหากิน หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทยเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต สามารถดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นคง ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการเปลี่ยนจากปลูกพืชเชิงเดี่ยวมาเป็นสวนผสมผสานบนเงื่อนไขของความพอเพียง พึ่งพาตนเอง และลดรายจ่าย เมื่อชาวบ้านได้น้อมนำไปปฏิบัติต่างประสบผลสำเร็จกันถ้วนหน้า อีกทั้งบางรายสามารถผลักดันไปสู่แนวทางเกษตรอินทรีย์แล้วจับมือกับกลุ่มธุรกิจเปิดตลาดเป็นสินค้าออร์แกนิก นายสมัย แก้วภูศรี หรือ ลุงสมัย อายุ 64 ปี เจ้าของสวนสองพิมพ์ เลขที่ 45/1 หมู่ที่ 12 ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน อีกทั้งยังเป็นผู้นำกลุ่มเกษตรกรทำสวนผลไม้อินทรีย์ลุ่มน้ำลี้ และเกษตรกรผู้ป
บริเวณสวนผักทั่วไป มักพบการแพร่กระจายไปทั่วของต้น “ผักโขม” เจ้าของแปลงผักบางรายขยันหน่อยคอยถอนต้นผักโขมเล็กๆ รากออกสีม่วงอมชมพู มีใบอ่อนเล็กๆ 2-3 ใบ ล้างน้ำเอาเศษดินเศษทรายออก วางขายตลาดสดกองละ 10 บาท เห็นมีคนแห่กันซื้อไปเป็นผัก ทำกับข้าว บางสวนปล่อยให้โตขึ้นอีกหน่อย ถอนต้นจะทิ้งก็ยังเด็ดยอดไปทำอาหารได้ หลายแห่งเอาต้นผักโขมไปต้มเลี้ยงหมูบ้าน (หมูดำ) ผสมรำ ปลายข้าว หยวกกล้วย ทุ่นค่าอาหารหมูได้มากมาย ผักโขม หรือผักขม หรือผักโหม เป็นพืชที่นักวิทยาศาสตร์รุ่นก่อนๆ พยายามวิจัยถึงคุณค่าทางอาหาร ในชื่อที่เรียกพืชชนิดนี้ว่า อะมารานธ์ (Amaranth) เขาว่าเป็นพืชหลักของชาวแอซเท็ก พบว่าในเมล็ดผักโขม มีปริมาณกรดอะมิโนมากกว่าธัญพืชหลักอื่นๆ ใบใช้รับประทานเป็นผักสีเขียว ยังมีอีกหลายประเทศศึกษาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเม็กซิโก อินเดีย สหรัฐอเมริกา ในเมืองไทยเราถือว่า ผักโขมเป็นพืชพื้นบ้านของเรา มีหลายชนิด เช่น ผักโขมหนาม ผักโขมหิน ผักโขมหัด ผักโขมสวน ผักโขมเกลี้ยง ที่เข้ามาตีตลาดคือ ผักโขมจีน ผักโขมเป็นพืชที่ให้สารวิตามินเอแก่ร่างกายเช่นเดียวกับฟักทอง ผักบุ้ง พริกชี้ฟ้า มีรสขมเล็กน้อย มีสรรพคุณแก้เลือดเป็นพิษ ดี
ปลูกง่าย โตเร็ว ปลูกได้ตลอดปี อุดมด้วยวิตามินเอ กรดโฟเลต แคโรทีน และ สารต้านอนุมูลอิสระ แหล่งที่มา : บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด จ.นนทบุรี (ศรแดง) โทรศัพท์ 02-831-7777
ข้อมูลสุขภาพมีประโยชน์ เผยแพร่โดย Mahidol Channel ถึงเรื่อง “ผัก 5 อย่าง ที่ห้ามกินดิบ” โดยระบุว่า เราต่างรู้กันดีว่าการกินผักนั้นเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไร โดยเฉพาะผักสด ทั้งยังมีการบอกต่อกันอย่างแพร่หลาย ถึงข้อดีของการบริโภคผักแต่ละชนิด แต่ยังมีอีกด้านหนึ่งของการบริโภคผักสดที่เราคิดว่าดีนั้น แฝงไว้ซึ่งอันตรายบางอย่าง ที่เราคาดไม่ถึง เราจะมีวิธีระมัดระวังก่อนการกินได้อย่างไร ต้องติดตาม โดยคลิปได้ระบุ ว่าผัก 5 ชนิด คือ 1 ถั่วงอก มีซาโมเนล่า อีโคไล จากกระบวนการเพาะ เชื้อจะถูกทำลายด้วยความร้อนเท่านั้น 2 กระหล่ำปลี ดิบ มีไกโตเจน ยับยั้งการดูดซึมไอโอดีน ทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนได้น้อยลง ซึ่งจะกระทบต่อผู้มีปัญหาเรื่องต่อมไทรอยด์ แต่คนปกติไม่ต้องกังวลเรื่องไทรอยด์ แต่ต้องกังวลเรื่อง สารเคมี 3 หน่อไม้ มันฝรั่ง ต้องระวังเรื่องสารไซยาไนด์ 4 ถั่วฝักยาว มีการดูดซึมสารเคมีสูงและเป็นกลุ่มที่ใช้สารเคมีสูง กว่าสารเคมีจะสลายตัวใช้เวลาประมาณ 7 วัน และ ผักโขม มีกรดออกซาลิค ขัดขวางให้ร่างกายเอาแคลเซียม กับธาตุเหล็กไปใช้ การกินผักโดยรวมให้ปลอดภัยก็ต้องล้างให้สะอาด แต่บางชนิดก็ต้อ