พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
วันพืชมงคล เป็นวันสำคัญที่กำหนดขึ้นเพื่อระลึกถึงความสำคัญของเกษตรกรที่มีต่อเศรษฐกิจไทย มีการจัดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งเป็นพระราชพิธีโบราณ สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย วันพืชมงคล 2568 ตรงกับวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568 พระราชพิธีพืชมงคลเป็นประเพณีเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา เพื่อขอพรให้การเพาะปลูกในปีนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น อุดมสมบูรณ์ และปลอดภัยจากภัยพิบัติต่างๆ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าฯ ให้รวม “พิธีพืชมงคล” (พิธีทางศาสนาเพื่อทำขวัญเมล็ดพืช) และ “พิธีแรกนาขวัญ” (พิธีจำลองการไถหว่าน) เข้าด้วยกัน และใช้ชื่อว่า พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งถือปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน การเกษตรกรรมนับว่ามีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมวลมนุษย์อย่างมาก เพราะธัญญาหารที่บรรดาเหล่าเกษตรกรปลูกได้ในแต่ละปี ถูกนำมาใช้เป็นอาหาร ดัดแปลงเป็นอุปโภคต่างๆ เช่น ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ด้วยเหตุนี้ ทุกปีทางราชการจึงจัดให้มีพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญขึ้น โดยกำหนดในเดือนพฤษภาคมของทุกปี พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมจัดงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ (วันไถหว่าน) ประจำปี 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคลและส่งเสริมบำรุงขวัญเกษตรกร รวมถึงเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการเพาะปลูกของเกษตรกร ในวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568 ระหว่างเวลา 08.29-09.09 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในปีนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมการข้าว ทำหน้าที่ในการจัดเตรียมพันธุ์ข้าวพระราชทานและพันธุ์พืช สำหรับนำมาใช้ในงานพระราชพิธีฯ โดยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำพันธุ์ข้าวทรงปลูกในฤดูนาปี 2567 โครงการนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา มาใช้ในงานพระราชพิธีฯ ประจำปี 2568 ประกอบด้วย พันธุ์ข้าวนาสวน 6 พันธุ์ น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 2,590 กิโลกรัม ได้แก่ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 พันธุ์กข 79 พันธุ์กข 85 พันธุ์กข 99 (หอมคลองหลวง 72) พันธุ์กข 6 และ พันธุ์กข 24 (สกลนคร 72) ส่วนเมล็ดพันธุ์ที่เหลือ กรมการข้าวขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำไปเก็บไว้ทำพันธุ์ในฤดูกาล ปี 2568 เพื่อเป็นต้นตระกูลของพืชพันธุ์ดีเผยแพร่สู่เกษตรกรต่อไป สำหรับพระราชพิธีพืชมงคลฯ ประจำปี 2568 จะมีเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นที่ได้รับการคัดเลือ
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพระราชพิธีที่สืบทอดมาแต่โบราณ พระมหากษัตริย์ทรงโปรดให้จัดขึ้นเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหาร เป็นขวัญกำลังใจแก่ราษฎรผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และเพื่อความเป็นสิริมงคลของบ้านเมือง ในพระราชพิธีอันสำคัญนี้ พระโคคู่งามซึ่งทำหน้าที่ไถนาและเสี่ยงทายเพื่อทำนายสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำมาหากินของผู้คน ในปีนั้นๆ ส่วนใหญ่เป็นพระโคที่คัดเลือกมาจากโคสายพันธุ์ “ขาวลำพูน” โคพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดลำพูนและพื้นที่ใกล้เคียง อันเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นโคที่มีลักษณะดีครบถ้วนสมบูรณ์ตามตำรา เช่น ขนสวยเป็นมัน เขาโค้งงามสีน้ำตาลส้ม ขอบตาสีชมพู นัยน์ตาแจ่มใส หูไม่มีตำหนิ มีขวัญหน้า ขวัญทัดดอกไม้ซ้ายขวา หางยาวสีขาว ขนฟู กีบและข้อเท้าแข็งแรง เป็นต้น และต่อไปนี้คือลักษณะเด่น 15 อย่าง ของโคขาวลำพูน 1.ตะโหนกปานกลาง 2.หนังสีชมพู หนังบาง 3.ขนสีขาวเกรียน 4.เนื้อทวารต่างๆ มีสีชมพูส้ม ไม่มีจุดด่างขาว 5.พู่หางสีขาว 6.เนื้อกีบสีชมพูส้ม 7.ลำลึงค์แนบพื้นท้อง 8.เหนียงสะดือสั้น ติดพื้นท้อง 9.เหนียงคอปานกลาง 10.เนื้อจมูกสีชมพูส้ม 11.สีนัยน์ตาน้ำตาลดำ 12.ขนตายาว 13.หน้
งานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2562 ประกอบด้วย 2 พระราชพิธี ได้แก่ พระราชพิธีพืชมงคลซึ่งเป็นพิธีสงฆ์ใน วันที่ 8 พฤษภาคม 2562 เพื่อประกอบพิธีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นการทำขวัญเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ เพื่อให้ปลอดจากโรคและเจริญงอกงามสมบูรณ์ จากนั้นจึงเริ่มพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นพิธีพราหมณ์เริ่มต้นด้วยการไถหว่านเมล็ดข้าว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง อันเป็นการส่งสัญญาณการเข้าสู่ฤดูกาลทำนาและเพาะปลูกประจำปี นายประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าว ได้ขอพระราชทานพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทาน ณ แปลงนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา จำนวน 4 พันธุ์ รวมน้ำหนักเมล็ดพันธุ์ข้าวทั้งสิ้น 1,206 กิโลกรัม เพื่อใช้ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ บรรจุในกระบุงเพื่อใช้หว่าน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ส่วนที่เหลือบรรจุใส่ซองพลาสติกแจกจ่ายให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลในการประกอบอาชีพทางการเกษตรตามประเพณีนิยม จำนวนทั้งสิ้น 366,000 ซอง ประกอบด้วย ข้าวนาสวน จำนวน 4 พันธุ์ ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณลักษณะและค
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวผ่านรายการ ‘ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน’ ตอนหนึ่งว่า วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะมีพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับเมืองไทยของเราที่เป็น ชาติเกษตรกรรม สะท้อนถึงความผูกพันอันใกล้ชิด ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับปวงชนชาวไทย โดยกำหนดให้เป็นพระราชพิธี ประจำปี ที่สืบทอดมายาวนานตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงสุโขทัย จวบจนปัจจุบันนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลและบำรุงขวัญเกษตรกรให้เกิดความมั่นใจในการเพาะปลูก โดยนับว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นฤดูทำนา อันเป็นอาชีพหลักของประชาชนคนไทย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้วันพืชมงคล ถือเป็นวันเกษตรกร ประจำปีอีกด้วย ทั้งนี้นับเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่ได้ทราบข่าวจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยว่า ครึ่งปีแรก ประเทศไทยครองแชมป์ส่งออกข้าวได้เป็นอันดับ 1 ของโลก โดยส่งออกข้าวได้กว่า 4.99 ล้านตัน และกรมการค้าต่างประเทศรายงานว่า ได้ปรับเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ “เพิ่มขึ้น จาก 9.5 ล้านตัน เป็น 10
กรมส่งเสริมการเกษตรเผยผลการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ 2561 นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นสาขาอาชีพต่าง ๆ ให้เป็นเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2561 เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณและเผยแพร่ผลงานดีเด่นให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จักและยึดถือเป็นแบบอย่างแนวทางในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อประเทศโดยรวมในอนาคต โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรรวบรวมรายชื่อที่ได้รับคัดเลือกเพื่อเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญประจำปี พ.ศ.2561 วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 ณ พลับพลาที่ประทับมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตามผลการคัดเลือกดังนี้ เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ อาชีพทำนา ได้แก่ นายชัชวาล ท้าวมะลิ จ.อุดรธานี อาชีพทำสวน ได้แก่ นายธีรภัทร อุ่นใจ จ.จันทบุรี อาชีพทำไร่ ได้แก่ นางทองแดง แดนดี จ.บุรีรัมย์ อาชีพทำไร่นาสวนผสม ได้แก่ นายใจ สุวรรณกิจ จ.พัทลุง อาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ได้แก่ นางกุลกนก เพชรเลิศ จ.บุร