ภาคตะวันออก
รมช. มนัญญา ปล่อยคาราวานผลไม้สหกรณ์ในภาคตะวันออก กระจายสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศ หวังดันราคาผลไม้ช่วยเกษตรพ้นวิกฤติโควิด-19 แย้มข่าวดี จับมือสหกรณ์-คมนาคม แปรรูปยางพาราทำแบริเออร์ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งควายกิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้ของสถาบันเกษตรกรเพื่อรองรับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิด-19 พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นางสาวมนัญญากล่าวว่า การปล่อยคาราวานกระจายผลไม้ของสถาบันเกษตรกรครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงพลังในการร่วมมือร่วมใจของขบวนการสหกรณ์ที่จะช่วยกันกระจายผลไม้ของภาคตะวันออกสู่ตลาดนอกพื้นที่เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ประเทศคู่ค้างดนำเข้าหรือชะลอการนำเข้าผลไม้ของไทย ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรงบกลาง วงเงินกว่า 45 ล้านบาท สำหรับใช้บริหารจัดการและกระจายผลไม้ผ่านกลไกสหกรณ์ เน้นมังคุดและลำไย โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์จะนำไปจัดสรรให้สหกรณ์รวบรวมผลไม้ต้นทางเป็นค่าบริหารจัดการ กิโลกรัมละ 1 บาท ชดเชยค่าขนส่งกิโลกรัมละ 2 บาท แ
ชาวสวน-โรงคัดบรรจุลำไยภาคตะวันออกตื่นตัว เข้าสู่ระบบรับรองมาตรฐานการผลิตพืช GAP และ GMP ด้าน สวพ.6 ระดมเจ้าหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจรับรองแปลง GAP พืช และโรงคัดบรรจุ GMP ให้ทันต่อฤดูกาลส่งออกลำไยไปจีน พร้อมเร่งอบรมให้ความรู้การใช้สารรมชัลเฟอร์ไดออกไชด์ ล่าสุดผ่านการรับรองรอแปลง GAP แล้วจำนวน 2,998 แปลง ส่วนโรงคัดบรรจุผ่านการรับรอง GMP จำนวน 65 โรง พร้อมคาดปีนี้จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดไม่ต่ำกว่า 4 แสนตัน นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันปัญหาด้านการส่งออกผลผลิตลำไยนอกฤดูพื้นที่ภาคตะวันออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 62 เป็นต้นมา สวพ.6 ได้ระดมเจ้าหน้าที่อย่างเต็มกำลังพร้อมกำหนดกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจรับรองแปลง GAP พืช และโรงคัดบรรจุ GMP ให้ทันต่อความต้องการของเกษตรกรและผู้ประกอบการที่จะต้องใช้ใบรับรองในการจำหน่ายผลผลิตเพื่อการส่งออกไปจีน อาทิ สนับสนุนให้โรงคัดบรรจุรับซื้อผลผลิตจากสวนที่เป็นลูกค้าของโรงคัดบรรจุเองและเป็นสวนที่ได้รับการรับรองแปลง GAP ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ล
นายสุชัย กิตตินันทะศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะทำงานพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านพืชภาคตะวันออก ซึ่ง สศก. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเก็บและสำรวจข้อมูลจากเกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในข้อมูลของแต่ละกรมที่เกี่ยวข้องในพื้นที่แต่ละจังหวัด เช่น กรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว และการยางแห่งประเทศไทย จำนวน 4 สินค้า ได้ ข้าวนาปี ปีเพาะปลูก 2561/62 สับปะรดโรงงาน ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ปี 2561 คณะทำงานฯ ได้ให้ความเห็นชอบรับรองข้อมูล (ณ 14 มิถุนายน 2562) ดังนี้ ข้าวนาปีภาคตะวันออก ปีเพาะปลูก 2561/62 รวม 9 จังหวัด (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ) มีเนื้อที่เพาะปลูก 2,227,121 ไร่ ลดลงจากปี 2560/61 ร้อยละ 0.66 เนื่องจากนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องการลดพื้นที่ปลูกข้าวในพื้นที่นาไม่เหมาะสม และเกษตรกรส่วนหนึ่งที่มีพื้นที่เป็นนาดอนปรับเปลี่ยนปลูกพืชอื่นทดแทน เช่น ไม้ผล อ้อยโรงงาน ยูคาลิปตัส หมาก ส่วนที่นาลุ่มปรับเปลี่ยนเ
นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 27 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2562 ณ บริเวณลานด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโฮมโปร ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง ได้ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัด ทั้ง 9 จังหวัด พื้นที่ภาคตะวันออก จัดงานมหกรรมส่งเสริมการเกษตรภาคตะวันออก ปี 2562 และงาน Farm @ Home ขึ้น นายชาตรี กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้กรมส่งเสริมการเกษตร ได้มุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรแบบตลาดนำการผลิต โดยพัฒนาเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรให้มีแนวคิดเชิงธุรกิจมุ่งเน้นการผลิตเชิงคุณภาพ พัฒนาเกษตรกรให้มีขีดความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการ และเพิ่มโอกาสทางการตลาดของสินค้าเกษตรคุณภาพ พร้อมส่งเสริมและพัฒนาด้านการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและพัฒนาเกษตรกร องค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนให้เข้มแข็ง ภายใต้การน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติใช้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น “และเพื่อเป็นการเพยแพร่ผลการดำเนินงานและการเปิดโอกาสให้ประชาชนในฐานะผู้บริโภคได้เข้าถึงผลผลิตและสินค้าแปรรูปเกษตรจากเกษตรกรในพื้น
กรมวิชาการเกษตร แจง สภาพอากาศร้อนสลับฝนส่งผลมังคุดสุกแก่เร็ว ผลผลิตล้น ผู้ประกอบการตั้งรับไม่ทัน ขาดแรงงานคัดแยกผลผลิต ส่งผลราคาตกต่ำ ยันมาตรการตรวจสอบก่อนปล่อยผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นไปตามเงื่อนไขคู่ค้า เอื้อส่งออกทั้งลดขั้นตอนตรวจสอบ สะดวก และรวดเร็ว นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่มีการโพสต์ข้อความในสื่อโซเซียลมีเดียว่า กรมวิชาการเกษตร ดำเนินงานล่าช้าเป็นเหตุให้ราคามังคุดตกต่ำนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เกี่ยวข้องของกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จันทบุรี และด่านตรวจพืชจันทบุรี เข้าไปตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ราคามังคุดตกต่ำ พบว่า ในปีนี้มังคุดภาคตะวันออกมีปริมาณผลผลิตมากและมีหลายรุ่น ซึ่งจะเริ่มทยอยสุกและเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม และจะมีปริมาณผลผลิตออกตลาดมากในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่ในปีนี้จากสภาพอากาศร้อนสลับกับฝนตกเป็นบางช่วง ทำให้มังคุดสุกแก่เร็วกว่าปกติ ผลผลิตมังคุดรุ่นแรกทะลักออกสู่ตลาดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ผู้ประกอบการบางรายจัดเตรียมแรงงานไว้สำหรับคัดแยกมังคุดไม่เพียงพอ ประกอบกับมีการกวดข
มังคุดผลไม้ยอดนิยมของคนไทยและคนต่างชาติ แต่กับชาวสวนแล้ว มักจะมีปัญหาด้านราคาอยู่เสมอ เป็นอย่างนี้มาตลอด จนเรียกว่า “เป็นตำนาน” โดยเฉพาะชาวสวนภาคตะวันออกที่ต้องวุ่นวายกับราคามังคุดที่ตกต่ำเกือบทุกปี ตัวอย่างเมื่อปี 2553 ราคามังคุดตกต่ำมาก ชาวสวนหลายรายถึงกันโค่นต้นมังคุดทิ้งไป แล้วปลูกพืชใหม่ทดแทน จะด้วยความคับแค้นหรือน้อยใจคงจะปะปนกันไป ข้ออ้างที่พวกเขาได้รับฟังจากผู้รับซื้อก็คือ มังคุดคุณภาพต่ำ ผิวลาย เนื้อแก้ว ยางไหล หู (กลีบเลี้ยง) ไม่สวย สรุปว่ามังคุดของชาวสวนด้อยคุณภาพ ส่งออกก็ไม่ได้ ขายภายในประเทศราคาก็ไม่ดี มังคุดผิวมัน : มาตรฐานคุณภาพและราคา สำหรับลักษณะของมังคุดผิวมันได้กำหนดไว้ ดังนี้ เป็นผลมังคุดที่มีผิวเปลือกสะอาด เป็นมัน อาจมีร่องรอยหรือตำหนิได้ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ผิวเปลือก เนื้อในคุณภาพดี-สีขาวสะอาด ไม่มียางไหล ไม่เป็นเนื้อแก้ว และเนื้อไม่ติดเปลือก ส่วนมังคุดผิวลาย หมายถึง ผลมังคุดที่เปลือกนอกอาจมีร่องรอยการทำลายของโรค/แมลงศัตรูหรือจากเหตุอื่นๆ ทำให้มีตำหนิได้ไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ผิวเปลือก เนื้อในมีคุณภาพเหมือนกับมังคุดผิวมัน อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้น