มติครม.
ครม. อนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศ ก.พาณิชย์ เปิดเสรีนำเข้ารถแทรกเตอร์ใช้แล้ว ช่วยลดต้นทุนพี่น้องเกษตรกรไทย (12 พ.ย.) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดให้รถยนต์ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้าม หรือต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2562 เพื่อป้องกันปัญหามลพิษและการหลบเลี่ยงมาตรการควบคุม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 10 ธันวาคม 2562 แต่ด้วยมีเกษตรกร ชาวไร่อ้อย ได้รับความเดือดร้อนจากประกาศดังกล่าว เนื่องจากครอบคลุมการห้ามนำเข้ารถแทรกเตอร์ใช้แล้วเพื่อการเกษตร ซึ่งการห้ามนำเข้านี้ทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้นเพราะต้องซื้อรถใหม่ที่ราคาแพงกว่ามาก ทางกระทรวงพาณิชย์จึงได้เสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติ แก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับเดิม โดยกำหนดให้รถแทรกเตอร์ใช้แล้วเพื่อการเกษตรสำเร็จเต็มรูปคัน ตามพิกัดอัตราศุลกากร 87.01 เช่น รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบล้อยาง และรถแทรกเตอร์ล้อยางกำลังเครื่องยนต์ไม่เกิน 18 กิโลวัตต์ เป็นสินค้าที่สามารถนำเข้ามาในราชอาณาจักรได้อย่างเสรี เพื่อช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกร เพิ่มทางเลือกในการซื้อ
นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ 2,922 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพเกษตรกร ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 รายละ 600 บาท ไม่เกิน 15 ไร่/ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 4.87 ล้านไร่ และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและค่าธรรมเนียมโอนเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน 2.27 ล้านบาท และงบบริหารโครงการฯ วงเงิน 8.15 ล้านบาท ซึ่งจะใช้งบของกรมส่งเสริมการเกษตร ทั้งนี้ วัตถุประสงค์โครงการฯ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการน้ำที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ค่าสูบน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับเครื่องสูบน้ำ และการบริหารจัดการศัตรูพืชสูงกว่าฤดูกาลปกติ โดยเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกพืชอื่นๆ ในนา เช่น พืชไร่ พืชผัก พืชใช้น้ำน้อย ยกเว้นอ้อยและสับปะรด นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม. อนุมัติงบช่วยเหลือตามโครงการฯ ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ได้แก่ ชัยนาท นครสวรรค์ สิงห์บุรี ลพบุรี อยุธยา สระบุร