มะเฟือง
ใครที่มีพื้นที่ข้างบ้านว่างๆ ไม่มากนัก มะเฟือง เป็นอีกไม้ผลหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากขนาดต้นไม่ใหญ่ (หากแตกกิ่งก้านมาก ก็ใช้วิธีตัดแต่งกิ่งเอา) ซึ่งการตัดแต่งกิ่ง ยังช่วยให้ห่อผลง่าย และเก็บผลง่ายอีกด้วย จากข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ มะเฟืองเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูงประมาณ 5-12 เมตร อยู่ในวงศ์เดียวกับตะลิงปลิง ลำต้นสีน้ำตาลอ่อน เปลือกลำต้นค่อนข้างขรุขระ มีตุ่มเล็กๆ ทั่วไป แตกกิ่งก้านสาขามาก ทรงพุ่มหนา ไม่เป็นระเบียบ ใบ เป็นใบรวมออกเรียงกันเป็นคู่ๆ ลักษณะคล้ายขนนก ใบคล้ายใบมะยม แต่ขนาดเล็กกว่า ใบอ่อนสีม่วงแดง ใบแก่สีเขียวเข้ม ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบเป็นมัน หลังใบมีขนละเอียดปกคลุม คล้ายกำมะหยี่สีเขียวอมเหลือง ด้านล่างใบสีอ่อน เนื้อใบบาง เส้นใบเล็ก ก้านใบประกอบมีม่วงแดง ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกช่อเป็นกระจุกสั้นๆ ออกดอกตามง่ามใบ หรือตามกิ่งลำต้น ช่อดอกสั้น ดอกสีแดงเข้ม สีม่วงอมชมพู และขาว มีหลายสีในช่อเดียวกัน ดอกตูมมีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็ก ออกดอกและติดผลตลอดปี ผลมีลักษณะสะดุดตาคือ เป็นเหลี่ยมหยักลึกตามยาวเป็นเฟือง 5 เฟือง หน้าตัดตามขวางของผล เป็นรูปดาว 5 แฉก ยาวประมาณ 5-14 เซนติเม
มะเฟือง เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่รู้จักกันดี อุดมไปด้วย วิตามิน เอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอะซีน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันเส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและพลังงาน ในปริมาณไม่น้อยเลย สำหรับพันธุ์ของมะเฟืองนั้นเช่นเดียวกับผลไม้อื่นๆที่มีหลากหลายพันธุ์ แต่ที่ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมคือ พันธุ์ บี 17 หรือที่มีอีกชื่อว่า Honey Star มะเฟืองบี 17 ผลมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ชั่งได้ 3 – 4 ผลต่อกิโลกรัม ทรงผลค่อนข้างยาว และมีความกว้างสม่ำเสมอตลอดผล ผลมีความยาวประมาณ 8 – 10 เซนติเมตร กลีบผลหนา มีฐานกว้าง ร่องระหว่างผลตื้น ที่ผิวของกลีบ มีจุดประเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีเปลือกบาง เมื่อแก่จัดมีสีเหลืองเข้ม จนถึงเหลืองอมส้ม เนื้อนิ่มฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอม รสหวาน ความหวานวัดได้ 11.5 องศาบริกซ์ รสไม่ฝาด มี 5 – 10 เมล็ดต่อผล มะเฟืองบี 17 จะให้ผลผลิตตลอดทั้งปี แต่เก็บผลผลิตได้มาก ช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน วิธีการปลูกมะเฟือง ในส่วน ระยะปลูก ใช้ระยะ 4×4 เมตร (หลังปลูกปีที่ 3 จะตัดต้นเว้นต้น) แต่ถ้า ขุดหลุม ขนาด 50x50x50 เซนติเมตร ทั้งนี้ในการปลูกนั้นควรรองก้นหลุมด้วย โดโลไมต์ :
มะเฟือง เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่รู้จักกันดี อุดมไปด้วย วิตามิน เอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอะซีน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันเส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและพลังงาน ในปริมาณไม่น้อยเลย สำหรับพันธุ์ของมะเฟืองนั้นเช่นเดียวกับผลไม้อื่นๆที่มีหลากหลายพันธุ์ แต่ที่ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมคือ พันธุ์ บี 17 หรือที่มีอีกชื่อว่า Honey Star มะเฟืองบี 17 ผลมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ชั่งได้ 3 – 4 ผลต่อกิโลกรัม ทรงผลค่อนข้างยาว และมีความกว้างสม่ำเสมอตลอดผล ผลมีความยาวประมาณ 8 – 10 เซนติเมตร กลีบผลหนา มีฐานกว้าง ร่องระหว่างผลตื้น ที่ผิวของกลีบ มีจุดประเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีเปลือกบาง เมื่อแก่จัดมีสีเหลืองเข้ม จนถึงเหลืองอมส้ม เนื้อนิ่มฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอม รสหวาน ความหวานวัดได้ 11.5 องศาบริกซ์ รสไม่ฝาด มี 5 – 10 เมล็ดต่อผล มะเฟืองบี 17 จะให้ผลผลิตตลอดทั้งปี แต่เก็บผลผลิตได้มาก ช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน วิธีการปลูกมะเฟือง ในส่วน ระยะปลูก ใช้ระยะ 4×4 เมตร (หลังปลูกปีที่ 3 จะตัดต้นเว้นต้น) แต่ถ้า ขุดหลุม ขนาด 50x50x50 เซนติเมตร ทั้งนี้ในการปลูกนั้นควรรองก้นหลุมด้วย โดโลไมต์ :
ใครที่มีพื้นที่ข้างบ้านว่างๆ ไม่มากนัก มะเฟือง เป็นอีกไม้ผลหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากขนาดต้นไม่ใหญ่ (หากแตกกิ่งก้านมาก ก็ใช้วิธีตัดแต่งกิ่งเอา) ซึ่งการตัดแต่งกิ่ง ยังช่วยให้ห่อผลง่าย และเก็บผลง่ายอีกด้วย จากข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ มะเฟืองเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูงประมาณ 5-12 เมตร อยู่ในวงศ์เดียวกับตะลิงปลิง ลำต้นสีน้ำตาลอ่อน เปลือกลำต้นค่อนข้างขรุขระ มีตุ่มเล็กๆ ทั่วไป แตกกิ่งก้านสาขามาก ทรงพุ่มหนา ไม่เป็นระเบียบ ใบ เป็นใบรวมออกเรียงกันเป็นคู่ๆ ลักษณะคล้ายขนนก ใบคล้ายใบมะยม แต่ขนาดเล็กกว่า ใบอ่อนสีม่วงแดง ใบแก่สีเขียวเข้ม ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบเป็นมัน หลังใบมีขนละเอียดปกคลุม คล้ายกำมะหยี่สีเขียวอมเหลือง ด้านล่างใบสีอ่อน เนื้อใบบาง เส้นใบเล็ก ก้านใบประกอบมีม่วงแดง ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกช่อเป็นกระจุกสั้นๆ ออกดอกตามง่ามใบ หรือตามกิ่งลำต้น ช่อดอกสั้น ดอกสีแดงเข้ม สีม่วงอมชมพู และขาว มีหลายสีในช่อเดียวกัน ดอกตูมมีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็ก ออกดอกและติดผลตลอดปี ผลมีลักษณะสะดุดตาคือ เป็นเหลี่ยมหยักลึกตามยาวเป็นเฟือง 5 เฟือง หน้าตัดตามขวางของผล เป็นรูปดาว 5 แฉก ยาวประมาณ 5-14 เซนติเม
มะเฟือง เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่รู้จักกันดี อุดมไปด้วย วิตามิน เอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอะซีน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันเส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและพลังงาน ในปริมาณไม่น้อยเลย สำหรับพันธุ์ของมะเฟืองนั้นเช่นเดียวกับผลไม้อื่นๆที่มีหลากหลายพันธุ์ แต่ที่ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมคือ พันธุ์ บี 17 หรือที่มีอีกชื่อว่า Honey Star มะเฟืองบี 17 ผลมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ชั่งได้ 3 – 4 ผลต่อกิโลกรัม ทรงผลค่อนข้างยาว และมีความกว้างสม่ำเสมอตลอดผล ผลมีความยาวประมาณ 8 – 10 เซนติเมตร กลีบผลหนา มีฐานกว้าง ร่องระหว่างผลตื้น ที่ผิวของกลีบ มีจุดประเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีเปลือกบาง เมื่อแก่จัดมีสีเหลืองเข้ม จนถึงเหลืองอมส้ม เนื้อนิ่มฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอม รสหวาน ความหวานวัดได้ 11.5 องศาบริกซ์ รสไม่ฝาด มี 5 – 10 เมล็ดต่อผล มะเฟืองบี 17 จะให้ผลผลิตตลอดทั้งปี แต่เก็บผลผลิตได้มาก ช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน วิธีการปลูกมะเฟือง ในส่วน ระยะปลูก ใช้ระยะ 4×4 เมตร (หลังปลูกปีที่ 3 จะตัดต้นเว้นต้น) แต่ถ้า ขุดหลุม ขนาด 50x50x50 เซนติเมตร ทั้งนี้ในการปลูกนั้นควรรองก้นหลุมด้วย โดโลไมต์ :
มะเฟือง เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่รู้จักกันดี และสังเกตได้ง่าย แปลกกว่าผลไม้ชนิดอื่น มีเนื้อแยกออกเป็นห้าแฉก เนื้อ นอกจากนี้ ยังนับเป็นผลไม้ที่ทรงคุณค่าไม่น้อย โดยในเนื้อแท้ของผลไม้ชนิดนี้จะประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย นักโภชนาศาสตร์ได้วิเคราะห์คุณค่าทางอาหารของมะเฟืองแล้วพบว่า อุดมไปด้วย วิตามิน เอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอะซีน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันเส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และพลังงาน ในปริมาณไม่น้อยเลย ในผลมะเฟืองสด มีน้ำอยู่ประมาณ 91% นอกจากนั้น ก็มีกรดซิตริก น้ำตาล และวิตามินหลายชนิด เมล็ดมีน้ำอยู่เพียง 25% และน้ำมันอยู่ 37% ผลมะเฟืองมีรสหวาน เปรี้ยว ฝาด เย็น ผลเป็นยาเย็น ดับร้อน ถอนพิษ ทำให้มีน้ำหล่อเลี้ยง แก้ไอ ขับนิ่วในทางปัสสาวะ ใบมะเฟือง มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ บดให้แหลก ใช้พอกฝีบวมแดงแก้ปวด มะเฟือง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบเป็นใบประกอบ ใบย่อยคล้ายใบมะยม ดอกช่อสั้น กลีบดอกสีขาวปนม่วง ผลมีลักษณะเป็นสันเหลี่ยม 3-5 สัน ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเขียวอมเหลือง เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองออกส้ม ในผลจะมีเมล็ดเล็กๆ อยู่ประมาณ 10-12 เมล็ด โดยพบการกระจายพันธุ์ในคาบสม
ใครที่มีพื้นที่ข้างบ้านว่างๆ ไม่มากนัก มะเฟืองเป็นอีกไม้ผลหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากขนาดต้นไม่ใหญ่ (หากแตกกิ่งก้านมาก ก็ใช้วิธีตัดแต่งกิ่งเอา) ซึ่งการตัดแต่งกิ่ง ยังช่วยให้ ห่อผลง่าย และเก็บผลง่ายอีกด้วย จากข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ มะเฟืองเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูงประมาณ 5-12 เมตร อยู่ในวงศ์เดียวกับตะลิงปลิง ลำต้นสีน้ำตาลอ่อน เปลือกลำต้นค่อนข้างขรุขระ มีตุ่มเล็ก ๆ ทั่วไป แตกกิ่งก้านสาขามาก ทรงพุ่มหนา ไม่เป็นระเบียบ ใบเป็นใบรวมออกเรียงกันเป็นคู่ๆ ลักษณะคล้ายขนนก ใบคล้ายใบมะยม แต่ขนาดเล็กกว่า ใบอ่อนสีม่วงแดง ใบแก่สีเขียวเข้ม ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบเป็นมัน หลังใบมีขนละเอียดปกคลุม คล้ายกำมะหยี่สีเขียวอมเหลือง ด้านล่างใบสีอ่อน เนื้อใบบาง เส้นใบเล็ก ก้านใบประกอบมีม่วงแดง ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกช่อเป็นกระจุกสั้น ๆ ออกดอกตามง่ามใบ หรือตามกิ่งลำต้น ช่อดอกสั้น ดอกสีแดงเข้ม สีม่วงอมชมพู และขาว มีหลายสีในช่อเดียวกัน ดอกตูมมีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็ก ออกดอกและติดผลตลอดปี ผลมีลักษณะสะดุดตาคือ เป็นเหลี่ยมหยักลึกตามยาวเป็นเฟือง 5 เฟือง หน้าตัดตามขวางของผล เป็นรูปดาว 5 แฉก ยาวประมาณ 5-14 เซนติเ