มะเร็ง
มีหลากหลายสมุนไพรที่ช่วยในการรักษาโรคและให้คุณประโยชน์ในด้านต่างๆ อย่างน่าสนใจ ขิงถือว่าเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีความโดดเด่นในเรื่องของรสชาติและกลิ่น ซึ่งไม่ว่าจะนำขิงมาทำเป็นเครื่องดื่ม ดัดแปลงและแปรรูปเป็นเมนูของหวานต่างๆ ก็ล้วนให้สรรพคุณที่ดีต่อร่างกายทีเดียว รู้จักสมุนไพรขิง ขิง (ginger) สมุนไพรที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู อีกทั้งยังมากมายไปด้วยสรรพคุณทางยาที่ช่วยในการรักษาโรคได้เป็นอย่างดี รสชาติของขิงจะเผ็ดร้อน หากแต่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรต เส้นใย และโปรตีน ทุกส่วนของขิง เช่น ราก เหง้า ต้น แก่น ดอก ใบ และผล ก็ล้วนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด คุณค่าทางโภชนาการของขิง ในส่วนของขิง 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการดังนี้ พลังงาน 25 กิโลแคลอรี โปรตีน 0.4 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4.4 กรัม ไขมัน 0.6 กรัม เส้นใยอาหาร 0.8 กรัม ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม แคลเซียม 18 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม เบต้าแคโรทีน 10 ไมโครกรัม วิตามินซี 1 มิลลิกรัม ไทอามีน 0.02 ม
นายแพทย์ธีธัช มังกรทอง อาจารย์แพทย์สาขาวิชาสูตินรีเวชกรรม ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เผยว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในสาเหตุที่คร่าชีวิตสตรีกว่าปีละ 200,000 คน โดยมะเร็งปากมดลูกนั้นพบบ่อยเป็นอันดับ 4 ทั่วโลก โดยหากพิจารณาในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เช่น ประเทศไทย พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 ของสตรีโดยทั่วไป ปัจจุบันนั้นเป็นที่ยอมรับถึงสาเหตุสำคัญของการเกิดรอยโรคในเยื้อบุมะเร็งปากมดลูก นั้นเกิดจากจากติดเชื้อเอชพีวีกลุ่มความเสี่ยงสูง ประกอบไปด้วยสายพันธุ์ชนิด 16,18,31,33,35,39,45,51,52,56,58,59,61,66-68,73, และ 82 โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 และ 18 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น ภาวะภูมิต้านทานต่ำ พฤติกรรมและปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ทั้งการมีเพศสัมพันธุ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีคู่นอนหลายคน หรือประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แนวทางในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกปฐมภูมิ นอกเหนือจากการรณรงค์ให้ความรู้ด้านสุขภาพและเพศศึกษาแก่สตรีแล้ว ยังรวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี ซึ่งในปัจจุบันวัคซีนมีจำหน่ายทั้งหมด สามชนิด ได้แก่ วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ (bivalent HPV vaccine)
เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีหาวิทยาลัยรังสิต แถลงข่าวผลงานวิจัยกัญชาทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต้นแบบจากสารสกัดกัญชา จำนวน 4 นวัตกรรม ว่า ม.รังสิต เริ่มคิดนอกกรอบด้วยการวิจัยกัญชามาตั้งแต่ 3 ปีก่อน ตั้งแต่คนยังมองไม่เห็นคุณค่าและประโยชน์ และยังไม่รู้ว่าจะปลดล็อกมาใช้ทางการแพทย์ได้หรือไม่ ซึ่งเรามีนักวิจัยที่มีคุณภาพเกือบ 40 คน โดยเป็นดอกเตอร์กว่า 30 คน ยังมีเครื่องมือที่ทันสมัย ไม่ใช่แค่หม้อต้มหม้อเคี่ยว แต่ลงทุนทั้งหมดเกือบ 40 ล้านบาท และความก้าวหน้างานวิจัยก็มาถึงขั้นที่สกัดสารที่ไม่เคยมีมาก่อน และสามารถผลิตยาได้หลายตำรับและอนาคตก็จะผลิตอีกหลายตำรับ ล่าสุด ผลวิจัยในหนูทดลองมีผลรักษามะเร็ง โดยการฉีดสารมะเร็งในหนู และฉีดยากัญชาเข้าไปรักษามะเร็งหายแล้วในเชิงประจักษ์ ซึ่งมะเร็งถือเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยสูงสุด อย่างไรก็ตาม จะต้องพัฒนาต่อไปถึงในคน ซึ่งก็มีความพร้อมในการวิจัยในคนได้แล้ว “เรามีคณะแพทยศาสตร์ และมีโรงพยาบาลในเครือของเรา ทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานติดต่อทั้ง รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน และ รพ.นพรัตนราชธานี ที่จะทดลองยากัญชา
สมอไทย เป็นสมุนไพรเก่าแก่ตัวหนึ่งของโลกทีเดียว ถือเป็นสมุนไพรที่มีข้อมูลการใช้แพร่หลายมากที่สุดมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลแล้ว นับได้กว่า 2,500 ปี และเป็นผลไม้ที่หาง่าย มีอยู่ดกดื่นตามเขตป่าร้อนชื้น และป่าเบญจพรรณทั่วไปทั้งในอินเดียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย สมอไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Terminalia chebula Retz. ชื่ออื่นๆ ว่า มาแน่ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่) สมออัพยา (ภาคกลาง) หมากแน่ะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) สมอเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มีใบใหญ่ปลายใบแหลม มีดอกเล็กๆ เป็นฝอยเหมือนดอกหูกวาง ออกลูกเป็นพวง ลูกกลมมีเหลี่ยม ใช้กินเป็นผักจิ้มและผลไม้ได้ สมอไทย เป็นผลไม้ยอดนิยมของพระมาแต่ไหนแต่ไร เพราะมีพุทธานุญาตให้พระสงฆ์ฉันลูกสมอได้หลังเพล โดยทรงแนะให้ดองลูกสมอในน้ำมูตร (น้ำปัสสาวะ) เพื่อฉันเป็นยารักษาสุขภาพ โดยปกติสมอไทยเป็นยาระบายที่ดี ไม่เสาะท้อง ไม่เป็นอันตรายต่อลำไส้และช่วยรักษาโรคริดสีดวง คนเราถ้ากินได้ถ่ายสะดวก นอนหลับสบายก็ช่วยให้สุขภาพโดยรวมเป็นปกติสุข มีผู้สังเกตว่าพระปฏิบัติที่ฉันสมอดองมักจะมีสุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณผ่องใสแม้ในวัยสูงอายุ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้มีงานวิจัยไขรหัสลับของส
ชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย (Thailand Breast Cancer Community) ได้ทำการเปิดตัวเว็บไซต์ ที่รวบรวมความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เพราะมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งในผู้หญิงไทย และมีผู้ป่วยที่ใช้ชีวิตอยู่กับมะเร็งเต้านมประมาณ 34,000 คน พวกเรา “ชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย (Thailand Breast Cancer Community) ” ชมรมที่เกิดจากการรวมตัวกันของ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ญาติ ผู้รอดชีวิต พยาบาล และผู้มีจิตอาสาจากโรงพยาบาลต่างๆ เข้าใจและรับรู้ความรู้สึกของการป่วยเป็นมะเร็งเต้านมว่ามีความยากลำบากทั้งในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันและขาดแคลนกำลังใจ จึงจัดทำเว็บไซต์ https://tbcc-community.com ขึ้นมา เพื่อทำการเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องในการเตรียมตัวรักษา การดูแลตัวเองขณะรักษา/หลังการรักษา รวมไปถึงวิธีการป้องกัน สังเกต มะเร็งเต้านม รวมไปถึงพลังบวกและกำลังใจดี ๆ สำหรับผู้ป่วยและญาติ เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง นอกจากเว็บไซต์ใหม่ที่ ชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย ตั้งใจจัดทำขึ้นมาแล้ว ก็ยังมีช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่
ภญ.เอมอร ชัยประทีป อาจารย์วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย นักวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี นำสมุนไพรพญายอ ซึ่งมีสรรพคุณรักษาและลดอาการอักเสบ ฆ่าเชื้อไวรัส วิจัยและพัฒนา 2 ผลิตภัณฑ์ “แผ่นแปะผิวหนังจากสารสกัดใบพญายอ เพื่อบรรเทาอาการทางระบบผิวหนัง” และ “แผ่นฟิล์มยึดติดเยื่อบุเมือกเพื่อรักษาแผลในช่องปาก” เพื่อใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบัน ภญ.เอมอร เจ้าของผลงาน เปิดเผยว่า ยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษากลุ่มอาการระบบผิวหนังส่วนใหญ่เป็นครีมยาที่มีส่วนผสมสารสเตอรอยด์ โดยถ้าใช้เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดผลข้างเคียง ทำให้ผิวหนังบาง ผิวแพ้ง่าย หรือยาที่ใช้ไม่ได้ผลเพราะว่าเกิดอาการดื้อยา (Rebound effect) ตลอดจนถ้าใช้ในกลุ่มของเด็กเล็ก เด็กๆ อาจเผลอเข้าปาก เป็นอันตรายต่อเด็ก จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยมีสารสกัดจากใบพญายอขึ้นมา โดยสมุนไพรพญายอปลูกได้ง่าย แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยมีสรรพคุณทางยารักษาอาการอักเสบ ฆ่าเชื้อไวรัส อาการแพ้อาการคัน โดยแผ่นแปะผิวหนังจากสารสกัดใบพญายอ เพื่อบรรเทาอาการทางระบบผิวหนัง สามารถใช้รักษางูสวัด อาการผดผื่นแพ้คัน แมลงสัตว์กัดต่อย วิธีใช้นำแผ่นมาแปะบริเ
เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ นพ.อธิศพันธุ์ จุลกทัพพะ อาจารย์ประจำศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบว่ามะเร็งเต้านมยังเป็นโรคที่พบบ่อยเป็นอันดับ 1 ในจำนวนโรคมะเร็งสตรี ซึ่งการรักษาจะประกอบด้วยหลายส่วน ทั้งการผ่าตัด ฉายแสง เคมีบำบัด ซึ่งผลการรักษาค่อนข้างจะตอบสนองต่อการรักษาที่ดีไม่ว่าจะอยู่ในระยะใดก็ตาม แต่สิ่งที่มีปัญหาคือเรื่องเต้านมเพราะมีผลต่อสภาพจิตใจของผู้หญิงดังนั้นที่รพ.จุฬาฯ จึงพยายามผ่าตัดแบบสงวนเต้าเอาไว้แล้วทำเต้านมเทียมขึ้นมา อาจจะใช้เนื้อเยื่อของผู้ป่วยเอง หรือใช้ซิลิโคนแทน แต่บางคนอาจต้องตัดทั้งเต้า ขึ้นอยู่กับว่าเป็นระยะที่เท่าไหร่ แต่หากตรวจเจอเร็ว รักษาเร็วก็สามารถผ่าตัดแบบสงวนเต้าเอาไว้ได้ แต่ปัญหาคือพบว่าร้อยละ 50 มาพบแพทย์เมื่อเป็นโรคมะเร็งเต้านมในระยะที่ 2, 3 แล้ว ทำให้ต้องตัดทิ้งทั้งเต้าไปจำนวนไม่น้อยเลย นพ.อธิศพันธุ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการรักษาด้วยการให้ยาเคมีบำบัดจะมีผลกระทบทำให้ผมร่วง ทางรพ.จุฬาฯ จึงได้นำเข้าเครื่องครอบศีรษะแบบหล่อเย็นระหว่างการให้ยาเคมีบำบัดลดภาวะผมร่วงจากการให้เคมีบำบัดฟรี ปัจจุบันมีอยู่
สกว.โดยโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก จับมือมหาวิทยาลัยนเรศวร โชว์ผลงานวิจัยของนักศึกษาระดับปริญญาเอก การเพิ่มสารแอนโทไซยานินและแคโรทีนอยด์ในมะม่วงมหาชนก หวังสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาด และโรลออนลดขนรักแร้จากว่านมหาเมฆ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย โดยโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร นำสื่อมวลชนเข้ารับฟังการบรรยายการศึกษาสารต้านอนุมูลอสิระในมะม่วงมหาชนกเพื่อนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนา และนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ ภายใต้การสนับสนุนของทุน คปก. พร้อมกับเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการของ ผศ. ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท และนายรัฐพล เมืองเอก นักศึกษา คปก. คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งมีโจทย์วิจัยจากผู้บริโภคมีความต้องการอาหารที่มาจากธรรมชาติ มีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ในปัจจุบัน จึงทำให้มีการศึกษาถึงองค์ประกอบทางเคมีของพืชชนิดต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ในผักและผลไม้จะพบสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีนอยด์ ซึ่งไม่แสดงสีให้เห็น เนื่องจากถูกสีเขียวของคลอโรฟิลล์บดบังไว้ แต่เมื่อผักและผลไม้แก่ตัว คลอโรฟิลล์จะสลายตัว
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งเผย องค์การอนามัยโลกยกย่องประเทศไทยจัดการโรคมะเร็งได้ดีที่สุด ชี้ปัจจัยความสำเร็จคือกลไกการต่อรองราคายา ศ.นพ. อิศรางค์ นุชประยูร คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง กล่าวว่า หลักการของแพทย์ทุกคนก็คือต้องการรักษาคนไข้ให้ดีที่สุด คำถามก็คือจะทำอย่างไรเพื่อให้ผู้ป่วยทุกคนได้รับการรักษาเหมือนกันหมด ยกตัวอย่างในอดีตยามะเร็งในเด็กที่ราคาแพงมาก หากมีเงินจ่าย 3 แสนบาท ผู้ป่วยจะมีโอกาสรักษาหายขาดได้ถึง 80% แต่ถามต่อว่า ชาวบ้านจะมีเงินจ่ายหรือไม่ จนกระทั่งมีการตั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ขึ้นมา มีระบบการส่งต่อและตามจ่ายก็พบว่าเกิดปัญหาโรงพยาบาลต้นสังกัดไม่ยอมส่งต่อ เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลแพงถึงหัวละ 3 แสนบาท “ถ้าจะรักษาด้วยวงเงิน 1 แสนบาท อัตราการรอดชีวิตจะอยู่เพียง 20% ของผู้ป่วยทั้งหมด นั่นคือความไม่คุ้มค่า จนกระทั่งมาถึงปี 2551 มีการขายไอเดียเรื่องมะเร็งเด็กให้กับ สปสช. เพื่อสร้างมาตรฐานการรักษาให้เหมือนกันทุกโรงพยาบาล หากโรงพยาบาลใดรักษาตามเกณฑ์นี้ก็จะได้เงินจาก สปสช. นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กไทยได้รับการรักษา
ชมรมผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังร่วมกับภาครัฐและเอกชนประกาศความสำเร็จ 14 ปี ในการเข้าถึงยาและการเพิ่มโอกาสในการรักษาของกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว แบบมัยอีลอยด์และมะเร็งทางเดินอาหารจีสต์ กรุงเทพฯ 17 พฤศจิกายน 2559 : ชมรมผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์แห่งประเทศไทยได้จัดงานแถลงข่าว 14 ปี การเข้าถึงยาอิมมาตินิบและการเพิ่มโอกาสในการรักษาของกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบมัยอีลอยด์และมะเร็งทางเดินอาหารจีสต์ เพื่อขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าถึงยาอิมมาตินิบ ได้แก่ คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์แห่งประเทศไทย (Thai CML Working Group), มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย, หน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, และสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน (สปส.) และ บริษัทโนวาร์ตีส เอจี จำกัด การแถลงข่าวดังกล่าว นอกจากเป็นการขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพของผู้ป่วยทุกคนและพัฒนาอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 14 ปี ยังเป็นการเผยแพ