มาตรการช่วยเหลือชาวสวนยาง
“มนัญญา” ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ติดตามสถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออกที่กำลังเริ่มทยอยออกสู่ตลาด คาดผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม ประเมินผลกระทบไวรัส-โควิด 19 อาจทำให้การส่งออกผลไม้ไปจีนลดลง เผยเตรียมมาตรการรับมือใช้กลไกสหกรณ์ร่วมกันระบายผลผลิตสู่ตลาดในประเทศ พร้อมทำข้อตกลงกับห้างโมเดิร์นเทรดรับซื้อ ผลไม้คุณภาพจากสหกรณ์ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ประชุมหารือกับตัวแทนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่รวบรวมผลไม้ 79 แห่ง 29 จังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมในการระบายผลผลิตสู่ตลาด ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์โรคไวรัสโควิด -19 แพร่ระบาดหนักในประเทศจีนและอีกหลายประเทศทั่วโลกในขณะนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะผลไม้ ทั้งทุเรียน มังคุด และลำไย แต่ละปีทางประเทศจีนมีปริมาณการสั่งซื้อผลไม้เหล่านี้จากไทยจำนวนมาก ดังนั้น ต้องกระตุ้นการบริโภคผลไม้ภายในประเทศให้มากขึ้น โดยจะใช้เครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศเป็นกลไกในการระบายผลไม้สู่ตลาดในทุกพื้นที่และเข้าถึงผู้บริโภค
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา จำนวนทั้งสิ้น 2 โครงการ ประกอบไปด้วย 1.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ให้แก่สถาบันเกษตรกรรวบรวมยาง โดยมีเป้าหมายการจ่ายเงินกู้วงเงิน 10,000 ล้านบาท ระยะเวลาการดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 อัตราดอกเบี้ย MLR-1 ปัจจุบัน เท่ากับ 4 % รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยแทนสถาบันเกษตรกร 3 % สถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยเพียง 1% กำหนดชำระคืนภายใน12 เดือน ซึ่งปัจจุบันธ.ก.ส. ได้อนุมัติเงินกู้ไปแล้ว 6,200 ล้านบาท และ 2. โครงการสนับสนุนสินเชื่อให้สถาบันเกษตรกร กู้เพื่อเป็นค่าลงทุนและเงินทุนหมุนเวียนในการแปรรูปยางพารา เพื่อเพิ่มมูลค่า เป้าหมายการจ่ายเงินกู้ วงเงิน 5,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 โดยเงินกู้ค่าลงทุนคิดดอกเบี้ย ในอัตราMLR-1.5 ปัจจุบัน เท่ากับ 3.5% รัฐบาลช่วยรับภาระดอกเบี้ยแทนสถาบันเกษตรกร 3 % โดยกองทุนพัฒนาสหกรณ์และรัฐบาลจะช่วยรับภาระดอกเบี้ยอีก0.49 % สถาบันเกษตรกรจะรับภาระดอกเบี้ยในอ