มาตรการ SME ปัง! ตังได้คืน
สสว. ผนึก หน่วยงานพันธมิตร 90 หน่วยงาน เดินหน้า “มาตรการ SME ปัง ตังได้คืน” ตอบโจทย์ความช่วยเหลือให้กับผู้ประกอบการ SME ในทุกด้าน พร้อมอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนารายละไม่เกิน 200,000 บาท ตั้งเป้ายกระดับ SME กว่า 6,000 ราย ภายใต้วงเงิน 400 ล้านบาท นายวชิระ แก้วกอ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานในแคมเปญ “มาตรการ SME ปัง ตังได้คืน” ภายใต้ โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ (BDS) ว่า สสว. ได้พยายามปรับปรุงการให้บริการ และการพัฒนาผู้ประกอบการ SME ให้ประสบความสำเร็จสูงสุด และตอบโจทย์ตามที่ผู้ประกอบการต้องการ โดยในอดีตที่ผ่านมาการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME มักเป็นรูปแบบของการช่วยเหลือผ่านโครงการ ต่างๆ ที่มีกรอบของความช่วยเหลือตามเป้าหมายของแต่ละโครงการ ซึ่งผู้ประกอบการอาจได้รับบริการที่ไม่ตรงกับความต้องการทั้งหมด ประกอบกับสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมากขึ้น ดังนั้น ความต้องการในการรับความช่วยเหลือของผู้ประกอบการ จึงมีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้การจะช่วยเหลือ SME ตามรูปแบบเดิม อาจจะไม่ทันกับความต้องการของผู้ประกอบก
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มุ่งมั่นยกระดับผู้ประกอบการ SME ไทย ให้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพและมีศักยภาพการแข่งขันในตลาดสากล จึงทุ่มงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท ออกมาตรการ “SME ปัง! ตังได้คืน” รวมบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจ ผ่านระบบ BDS (Business Development Service) ที่สมัครง่าย อนุมัติไว ตังได้คืน จากการช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการแบบร่วมจ่าย (co-payment) ในสัดส่วน 50-80% สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท ตามขนาดของธุรกิจ นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า “มาตรการ SME ปัง! ตังได้คืน” เป็นมาตรการใหม่ของ สสว. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจจากหน่วยงานชั้นนำต่างๆ ทั่วประเทศ โดยในปี 2565 มีบริการครอบคลุม 3 หมวด ได้แก่ หมวดการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ หมวดการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและการตลาด และการพัฒนาตลาดต่างประเทศ ขณะนี้มีผู้ประกอบการ SME สมัครใช้งานผ่านระบบ BDS เพื่อขอรับบริการและขอรับการช่วยเหลืออุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแล้วกว่า