มาตรฐานสินค้า
กรมปศุสัตว์ร่วมกับคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศ พัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลด้านปศุสัตว์ สร้างความเชื่อมั่นในสินค้าฮาลาลและความปลอดภัยต่อผู้บริโภคทุกศาสนารองรับประชากรมุสลิมทั่วโลก นายสัตวแพย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้สนองนโยบายรัฐบาล ภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพธุรกิจสินค้าและบริการฮาลาล (พ.ศ. 2559 – 2563) ต่อยอดโครงการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลด้านปศุสัตว์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อมุ่งหวังในการพัฒนาโรงฆ่าสัตว์และสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ให้ถูกสุขลักษณะควบคู่ไปกับมาตรฐานฮาลาล โดยมีเป้าหมายให้ทุกจังหวัดมีเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัย และถูกหลักการศาสนาอิสลามวางจำหน่าย เป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับภัตคาร และร้านอาหารในการปรุงอาหารฮาลาลในพื้นที่ ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการบริโภคอาหารฮาลาลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งในภูมิภาคอาเซียนมีจำนวนมุสลิมที่ต้องบริโภคอาหารฮาลาลกว่า 300 ล้านคน จากกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวีย
กลายเป็นประเด็นความปลอดภัยของผู้บริโภคขึ้นมาอีกครั้ง จากกรณีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำปลาที่จำหน่ายและผลิตในประเทศตั้งแต่ปี 2555-2558 โดยได้รวบรวมข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำปลาทั่วประเทศ ทั้งหมด 1,121 ตัวอย่าง จาก 422 ยี่ห้อ พบไม่ได้มาตรฐาน 410 ตัวอย่าง หรือคิดเป็นร้อยละ 36.57 ไม่เพียงแต่คุณภาพน้ำปลาเท่านั้น ขณะเดียวกัน เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือไทยแพน (Thai PAN) ยังเก็บตัวอย่างผัก 10 ชนิด ได้แก่ พริกแดง กะเพรา ถั่วฝักยาว คะน้า ผักบุ้ง ผักกาดขาวปลี กะหล่ำปลี แตงกวา มะเขือเปราะ และมะเขือเทศ ผลไม้ 6 ชนิด คือ ส้มสายน้ำผึ้ง มะละกอ แตงโม แคนตาลูป ฝรั่ง และแก้วมังกร รวมทั้งผักผลไม้ทั้งหมด 158 ตัวอย่าง ซึ่งมีทั้งที่มีฉลากรับรองมาตรฐาน อาทิ มาตรฐานปลอดภัยเกษตรอินทรีย์ ฉลากออร์แกนิกส์ ฉลากมาตรฐานคิว จีเอพี (Q GAP) คิว จีเอ็มพี (Q GMP) และที่ไม่มีฉลากรับรองมาตรฐาน พบว่า ผักผลไม้มีสารพิษตกค้างเกินค่ามาตรฐานถึงร้อยละ 56 โดยส้มและคะน้าเจอปัญหามากสุด เกิดคำถามว่า จากข่าวดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรก แต่เพราะเหตุใดจึงยังคงมีปัญหาเรื่องคุณ