ระบบจัดการน้ำ
“สวนลุงเบิร์ด” ตั้งอยู่ที่อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท สวนฝรั่งและพุทราที่ถูกปลูกและจัดวางระบบอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงและไร่ข้าวโพดไกลสุดลูกหูลูกตา นี่เป็นสิ่งแรกที่ปรากฏสู่สายตาของคณะเทคโนโลยีชาวบ้าน เมื่อเราเดินทางไปถึงสวนลุงเบิร์ดเป็นครั้งแรก เมื่อพระอาทิตย์ตรงหัวก็ได้เวลาของการเริ่มสัมภาษณ์ คุณเบิร์ด หรือ ยุทธนา คามบุตร เจ้าของ สวนลุงเบิร์ด อดีตนักวิชาการ และพ่อค้าขายฝรั่งได้เล่าให้เราฟังว่า เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ทำการเกษตรของครอบครัว คุณเบิร์ดเติบโตมากับครอบครัวที่ทำการเกษตรและคุ้นชินกับพื้นที่ในบริเวณนี้เป็นอย่างดี และเพราะโตมากับการทำการเกษตร คุณเบิร์ดจึงเลือกเรียนต่อที่วิทยาลัยเกษตรในจังหวัด ในสาขาวิชาพืชศาสตร์ จากนั้นก็ได้ไปฝึกงานที่อิสราเอลเป็นเวลาหลายเดือน เมื่อกลับมายังประเทศไทยคุณเบิร์ดก็เข้าทำงานที่กรมวิชาการ ศูนย์วิชาการวิจัยและพัฒนาการเกษตรในจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งอยู่ไกลออกไป ภายหลังการลาออกจากงานประจำ คุณเบิร์ดก็ได้กลับมาทำการเกษตรที่บ้านเกิด ณ อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาทแห่งนี้ และด้วยประสบการณ์ที่ผ่านของคุณเบิร์ดก็ได้เกิดเป็นการบริหารจั
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ลำดับที่ 22 ที่หมู่บ้านเมืองกลาง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำทีมโดย ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการ ร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์กรมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้พาเข้าชมรวมทั้งให้ความรู้ในการบริหารจัดการน้ำ ดิน ป่า ประยุกต์ใช้ร่วมกับภูมิปัญญาด้านการบริหารจัดการน้ำของบรรพบุรุษที่สืบทอดมายาวนานกว่า 300 ปี ให้เกิดการเรียนรู้นำไปสู่การแก้ปัญหาและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง โดยนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่วางแผนการเพาะปลูก ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน และปรับเปลี่ยนจากเกษตรเชิงเดี่ยวมาทำการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ มีผลผลิตหลากหลาย มีรายได้ทั้งปี ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือน ชุมชนอยู่อย่างพอเพียง ดร.รอยล กล่าวว่า ชาวบ้านได้ทำเหมืองหรือฝายกันมา 300 ปี หรือ ชั่ว 5 อายุคน ซึ่งสำเร็จมาแล้ว มูลนิธิอุทกพัฒน์ ร่วมกับ สสน. (สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์กรมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) ได้เข้ามาต่อยอดขึ้นม
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสำหรับการประกอบอาชีพทางเกษตรกรรม มีการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังต่างประเทศเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ จะอย่างไรก็ตาม การเกษตรของเรามักเผชิญปัญหาภาวะฝนแล้ง และน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ จึงเกิดปัญหาตามมาหลายประการ ผมอยากทราบว่า รัฐบาลไทยมีแนวทางจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ในมุมมองของคุณหมอเกษตร มองอย่างไรและจะหาทางออกให้กับภาคการเกษตรของเราอย่างไร ขอข้อเสนอแนะด้วยครับ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวผมเอง และผู้อ่านอีกจำนวนมาก ผมจึงถือโอกาสขอบคุณคุณหมอเกษตรมาเป็นการล่วงหน้า แล้วผมจะติดตามอ่านคอลัมน์หมอเกษตรต่อไปครับ ขอแสดงความนับถืออย่างสูง สุรเดช แสงสุขอุดม นครสวรรค์ ตอบ คุณสุรเดช แสงสุขอุดม เรื่องเกี่ยวกับสภาวะทางภูมิอากาศ ผมขอนำข้อมูลจากผลงานวิจัยของ ดร. สมพร อิศรานุรักษ์ อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพแวดล้อมพืช กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า ประเทศไทยในทุกๆ รอบ 10 ปี จะเกิดสภาวะแห้งแล้ง 4 ปี แล้งรุนแรง 2 ปี แล้งไม่รุนแรง 2 ปี น้ำท่วม 3 ปี และฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลเป็นปกติเพียง 3 ปีเท่านั้น โดยใช้จำนวนลมพายุดีเปรสชั่
“น้ำคือพื้นฐานของชีวิต” การมีแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และตามสภาพทางภูมิศาสตร์ ล้วนมีผลโดยตรงต่อวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนทั้งด้านการใช้น้ำเพื่อดื่ม เพื่อใช้ การประกอบอาชีพ เป็นสถานที่พักผ่อนและท่องเที่ยว ออกกำลังกาย การประกอบพิธีกรรม วัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ฯลฯ การที่จะรักษาสภาพของแหล่งน้ำให้เป็นธรรมชาติสมบัติของชุมชนได้อย่างยั่งยืนนั้น นอกจากการจัดการดูแล บำรุงรักษาที่ดีพอแล้ว ต้องอาศัยปัจจัยต่างๆ ทั้งคน งบประมาณด้วย ขอนำเสนอแนวทางการบริหารจัดการน้ำของชุมชนข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เกิดผลจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนในการบูรณาการร่วมกันทั้งผู้นำชุมชน คนในชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ เพื่อการบรรลุผลประโยชน์ร่วม หนองด้าง เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ อยู่ที่ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยลักษณะทางภูมิประเทศของพื้นที่อำเภอจอมทอง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบกว้างระหว่างริมฝั่งแม่น้ำปิงและลำน้ำแม่กลาง ซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่นกระจายในพื้นที่ มีพื้นที่หุบเขาเชิงเขาทางทิศตะวันตก และมีพื้นที่ราบลุ่มทางทิศเหนือ ลาดเอียงเล็กน้อยจากเชิงดอยอินทนนท์ หนองด้างจึงเป็นพื้นท