รับมือแล้ง-ท่วมฉับพลัน
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นวาระที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยในส่วนของภาคเกษตร แม้จะยังไม่มีเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก แต่กลับเป็นภาคที่มีความเสี่ยงสูงต่อสถานการณ์ภาวะโลกร้อน ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนจากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2562 ที่กระทบพื้นที่เกษตรประสบภัยแล้ง ต่อมาเพียง 2 สัปดาห์ เกิดพายุโซนร้อนฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลันในภาคอีสานตอนล่าง มีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 3.36 ล้านไร่ (ข้อมูลศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ ณ วันที่ 20 กันยายน 2562) ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศอย่างเห็นได้ชัด โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้ประเมินไว้ว่า ในปี พ.ศ. 2573 หรืออีก 11 ปีหลังจากนี้ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลอย่างรุนแรงต่อภาคเกษตรในทุกพื้นที่ทั่วโลกหากไม่มีการรับมือจริงจัง การจัดอันดับดัชนีความเสี่ยงจากสภาพอากาศโลก ระหว่างปี ค.ศ. 1998 – 2017 ในรายงาน Global Climate Risk Index 2019 ระบุว่