วิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
กุหลาบ เป็นดอกไม้สวยงาม อยู่ในวงศ์ Rosaceae หรือเรียกกันว่า วงศ์กุหลาบ เป็นพืชที่โดดเด่นและนิยมปลูกกันมากที่สุดชนิดหนึ่ง รวมทั้งเป็นดอกไม้ที่สามารถทำรายได้สูงในตลาดการค้าดอกไม้ของแต่ละประเทศทั่วโลก กุหลาบได้รับการยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นราชินีของดอกไม้ Queen of flower นอกจากกุหลาบแล้ว พืชในวงศ์นี้ที่เราคุ้นเคยและรู้จักกันเป็นอย่างดียังมีอีกหลายชนิด เช่น บ๊วย พรุน อัลมอนด์ ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล สตรอเบอรี่ แบล็คเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ และแอปปริคอท จึงนับได้ว่าพืชในวงศ์กุหลาบมีความใกล้ชิดและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์รวมทั้งสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจการค้าโลกเป็นอย่างมาก การขยายพันธุ์กุหลาบ สามารถทำได้หลายวิธีการ เช่น วิธีเพาะเมล็ด วิธีตอน วิธีติดตา และวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช วิธีสุดท้ายเป็นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการขยายพันธุ์พืชกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับอีกหลายชนิด สำหรับการขยายพันธุ์กุหลาบด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อได้มีการดำเนินการมานานแล้วแต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ส่วนใหญ่ทำกันในแวดวงวิชาการ เช่น การผลิตกุหลาบเพื่อให้เกิดดอกในขวดเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือกา
เมล็ดกล้วยไม้ มีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นผงละเอียดคล้ายฝุ่น เมล็ดที่สมบูรณ์จะมีลักษณะป่องตรงกลางและมีสีเข้ม ส่วนที่เห็นเป็นก้อนกลมตรงกลางเมล็ด เรียกว่า เอ็มบริโอ ซึ่งเป็นส่วนที่มีชีวิตและจะงอกเป็นต้นกล้วยไม้ต่อไป เมล็ดกล้วยไม้ไม่มีอาหารสำรองเหมือนเมล็ดพืชชนิดอื่น การงอกของเมล็ดกล้วยไม้จึงต้องอาศัยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและต้องมีเชื้อราในกลุ่มไมคอร์ไรซา นำส่งสารอาหารให้เอ็มบริโอ เพื่อให้เกิดการแบ่งเซลล์และสามารถงอกเป็นต้นอ่อนกล้วยไม้ได้ต่อไป ปัจจุบันนี้เราสามารถนำเมล็ดกล้วยไม้มาเพาะเลี้ยงบนอาหารสังเคราะห์ (อาหารเพาะเลี้ยง) สูตรต่างๆ ในสภาพปลอดเชื้อ ฝักกล้วยไม้เพียงฝักเดียวสามารถนำเอาเมล็ดที่อยู่ภายในมาเพาะเลี้ยงให้งอกและเจริญเติบโตเป็นต้นกล้วยไม้เพื่อปลูกในธรรมชาติได้นับหมื่นนับแสนต้น เมล็ดกล้วยไม้เล็กๆ ที่โรยอยู่บนผิวของอาหารสังเคราะห์จะใช้ประโยชน์จากสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามิน ฮอร์โมนพืชและน้ำตาล เปรียบเสมือนเป็นอาหารสำรองสำหรับช่วยให้ เอ็มบริโอเกิดการงอกได้ ความสำเร็จในด้านการขยายพันธุ์กล้วยไม้ จากการเพาะเมล็ดแบบนี้ ก่อให้เกิดประโยชน์ที่สำคัญต่อวงการกล้วยไม้ไทย อย่างน้อย 2 ประการ ดังนี้ 1. ประโ