วิธีปลูกผักหวาน
ชื่อสามัญ : ผักหวานป่า ; Pak warn ชื่อวิทยาศาสตร์ : Melientha suavis วงศ์ : OPILIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ผักหวานป่า เป็นไม้พื้นเมือง มีถิ่นกำเนิดอยู่ในไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบหนาสีเขียวเข้มเป็นมัน ก้านใบสั้นๆ เหนียวติดกะลำต้น เป็นใบเดี่ยว รูปร่างรีๆ เหมือนไข่ ปลายใบป้านกลมอาจมีรอยเว้าบ้าง มีหูใบเล็กๆ บริเวณก้านใบ ผล ก็จะเป็นพวงๆ มีสีเหลืองอมน้ำตาล ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ชอบขึ้นตามเชิงเขา หรือตามป่าเต็งรัง ที่เป็นหินปนดินดาน หรือปนทราย ในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ผักหวานป่าจะทิ้งใบจนแทบหมดต้น แล้วต่อมาเดือนกุมภาพันธ์พฤษภาคม ก็จะแตกยอดและใบอ่อนให้ได้กินกันทุกปี ผักหวานป่า เป็นที่รู้จักบริโภคกันทุกภาค เนื่องจากรสชาติดี หากินยาก มีเฉพาะฤดูกาล ราคายังค่อนข้างสูง ปัจจุบัน ประมาณกิโลกรัมละ 100-200 บาท หน้าฝนก็อาจถูกลงมาบ้าง ตามหลักการของดีมานและซัพพลาย แต่ก็ยังถือว่าเป็นพืชทำรายได้ที่ดีแก่ชาวบ้านอย่างหนึ่งในขณะนี้ คนนิยมซื้อหาไปปรุงอาหาร และมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการดัดแปลง สูตร เช่น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อใส่ผักหวาน ผักหวานผัดน้ำมันหอย แกงจืดผักหวาน ฯลฯ
ผักหวานป่า ถือเป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ไม่ว่าโปรตีน วิตามินซี และพลังงาน โดยยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน ของผักหวาน เป็นส่วนที่นิยมนำมาปรุงเป็นอาหารได้ทั้ง นำมาต้ม ลวก นึ่ง หรือปรุงเป็นอาหารต่างๆ เช่น ผัดกับน้ำมัน แกงเลียง แกงอ่อม แกงกับไข่มดแดง แกงกับปลา แกงกะทิสด ยำ เป็นต้น นอกจากรสชาติที่อร่อย ยังเป็นพืชพันธุ์ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นฤดูที่ราคาจำหน่ายจะสูงมาก ทั้งนี้ มีเคล็ดลับการปลูกผักหวานป่า ที่จะทำให้ให้รอดตายและเจริญเติบโตเร็ว คือเริ่มจากการเตรียมหลุมปลูกและปรับปรุงดินปลูกให้ร่วนซุย นอกจากนี้ ยังเตรียมต้นกล้าที่สมบูรณ์ และกรีดถุงต้นกล้าลงหลุม ระวังอย่าให้ตุ้มดินแตกเละ แปลงปลูกต้องมีพืชร่มเงาให้แสงแดดรำไร รวมถึงในช่วงช่วงแล้งปีที่ 1 และ 2 อย่าให้ต้นผักหวานป่าขาดน้ำและร่มเงา โดยเมื่อพ้นแล้งที่ 2 จะสังเกตเห็นต้นผักหวานป่าเติบโตได้เร็ว การปลูก จะเริ่มเตรียมหลุมปลูกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ขุดหลุม ขนาด 30x30x30 เซนติเมตร ผสมวัสดุปลูกโดยใช้ดิน ปุ๋ยคอก แกลบดิบที่ย่อยสลายแล้ว อัตราส่วน 1:1