สารเคมีทางการเกษตร
กรมวิชาการเกษตร ได้พัฒนาชีวภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช มีความปลอดภัยสูง ต่อมนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกษตรกรใช้ทดแทนการใช้สารเคมีทางการเกษตร ให้เกิดความปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน กรมวิชาการเกษตร ได้ขับเคลื่อนการใช้ชีวภัณฑ์ทดแทนการใช้สารเคมีทางการเกษตร โดยถ่ายทอดสู่เกษตรกรส่งเสริมให้เกษตรกรใช้และผลิตขยายชีวภัณฑ์เอง ทำให้ได้ผลผลิตพืชที่ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง ลดต้นทุน เพิ่มแหล่งผลิตพืชปลอดภัยในระบบเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) และส่งเสริมระบบเกษตรปลอดภัยด้วยเกษตรอินทรีย์ โดยชีวภัณฑ์ของกรมวิชาการเกษตรที่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เกษตรกรปลูกไม้ผล และพืชผัก สามารถป้องกันได้ทั้งแมลงศัตรูพืช และโรคพืช ดังนี้ 1. ราเขียวเมตาไรเซียม มีความจำเพาะเจาะจงในการเข้าทำลายของด้วงแรดซึ่งเป็นศัตรูที่สำคัญในมะพร้าวและพืชตระกูลปาล์ม สามารถทำลายด้วงแรดได้ทั้งในระยะตัวหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย 2. โปรโตซัวกำจัดหนู ใช้ในการกำจัดทั้งหนูบ้านและหนูศัตรูพืช 3. เชื้อราไตรโคเดอร์มา ใช้ควบคุมโรคตายพรายของกล้วย 4. ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงชนิดผง ใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืชได้หลาย
ศาสตราจารย์นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ แถลงผลการดำเนินงานจากโครงการวิจัยท้าทายไทย ที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)สนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหาสารเคมีทางการเกษตรที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ณ จังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับนายวรรณพล ต่อพงษ์ ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู และ ศ.ดร. พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล ผู้บริหารจัดการโครงการวิจัย (Director) พร้อมมอบเตาเผาถ่านไบโอชาร์สำหรับการขยายผลในพื้นที่ 6 อำเภอของจังหนองบัวลำภูเพื่อใช้ในการลดสารเคมีในน้ำอุปโภคบริโภค ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อร่วมการขับเคลื่อน “หนองบัวลำภู Model” เป็นการร่วมแก้ไขปัญหาความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักในการลดการใช้สารเคมีภาคการเกษตร และการลดผลกระทบของสารเคมีที่มีผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์จังหวัดหนองบัวลำภู ที่มุ่งเน้น “การลดการใช้ส
เรื่องที่ใหญ่ที่สุดในรอบประวัติศาสตร์ภาคการเกษตรของไทย ความขัดแย้งลุกลามขยายวงกว้าง กระทบไปยังประชาชนหลายกลุ่ม หลายองค์กร หลายหน่วยงาน และที่สำคัญที่สุดอาจกระทบกับรัฐบาลทั้งแง่บวกและลบ เมื่อของขวัญปีใหม่ คือ การยกเลิกใช้ พาราควอต-ไกลโฟเซต-คลอร์ไพริฟอส แต่อาจเป็นการทำลายโครงสร้างปัจจัยการผลิต สร้างความหายนะต่ออาชีพของเกษตรกรไทย และอุตสาหกรรมเกษตร นายเชิดชัย จิณะแสน เกษตรกรต้นแบบ ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรระดับประเทศ และคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการจำกัดการใช้สารเคมีทางการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบายว่า สารเคมีทั้งสามชนิด ใช้ในประเทศไทยมาประมาณ 50 ปีที่แล้ว โดยไม่เสียภาษีนำเข้า เพราะต้องการลดราคาต้นทุนช่วยเหลือเกษตรกร และทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางการเกษตรระดับต้นของโลก มีมูลค่าการส่งออกสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีการใช้สารเคมีเข้ามาเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญ ดั้งนั้น เกษตรกรจึงจำเป็นต้องใช้เป็นปัจจัยการผลิตและลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตร สภาพภูมิอากาศของไทย ง่ายต่อการเกิดโรค แมลง และวัชพืช ประกอบกับระบบชลประทานไม่ทั่วถึงและไม่เพียงพอ โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน